คะแนนความปลอดภัยการชน 5 ดาว GEELY EX5 / PROTON e.MAS 7 ทดสอบ ASEAN NCAP
16 ธันวาคม 2024 PROTON e.MAS 7/ GEELY EX5 ทดสอบการชนภายใต้โครงการทดสอบรถยนต์ใหม่เพื่อความปลอดภัยในกลุ่มประเทศอาเซียน (ASEAN NCAP) ได้เปิดเผยผลการทดสอบล่าสุดของรถรุ่น PROTON e.MAS ซึ่งเป็นรถไฟฟ้า (EV) รุ่นแรกที่ทดสอบที่ศูนย์ทดสอบอุบัติเหตุ MIROS Provisional CRASE Crash Centre (PC3) ในประเทศมาเลเซีย โดยผลการทดสอบนี้ถือว่าน่าพอใจอย่างยิ่ง เนื่องจาก PROTON e.MAS 7/ GEELY EX5 ได้คะแนน 5 ดาว
ผลการทดสอบของ PROTON e.MAS 7/ GEELY EX5 มีดังนี้
- คะแนนรวม: 92.57 คะแนน
- การปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ (AOP): 39.00 คะแนน
- การปกป้องผู้โดยสารเด็ก (COP): 17.32 คะแนน
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (SA): 20.00 คะแนน
- การปกป้องจักรยานยนต์ (MS): 16.25 คะแนน
PROTON e.MAS 7 ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกภายใต้แบรนด์ PROTON ที่ผ่านการประเมินของ ASEAN NCAP ภายใต้เกณฑ์มาตรฐานปี 2021-2025 รถรุ่นนี้มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานที่ประกอบด้วยถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC), ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS), และระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย (SBR) สำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมระบบตรวจจับการมีผู้โดยสาร
นอกจากนี้ SUV รุ่นใหม่นี้ยังติดตั้งระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติในเมือง (AEB City), ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติระหว่างเมือง (AEB Inter-Urban), ระบบเบรกฉุกเฉินสำหรับคนเดินถนน (AEB Pedestrian), ระบบตรวจจับจุดบอด (BSD) ทั้งสองด้านของรถ, ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (AHB), และระบบปกป้องคนเดินถนน (PP) เป็นมาตรฐาน
ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่มีมาในรถรุ่นนี้ ได้แก่ ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW), ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (LKA), ระบบเตือนการออกนอกเลน (LDW), และระบบเบรกขณะตรวจจับรถข้ามด้านหลัง (RCTB) ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
PROTON e.MAS 7 ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกณฑ์การประเมินของ ASEAN NCAP ด้วยคะแนนรวม 92.57 คะแนน ส่งผลให้ SUV คันนี้ได้รับการจัดอันดับความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาวจาก ASEAN NCAP อย่างสมเกียรติ
การชนด้านหน้า (Frontal Impact)
- ห้องโดยสารด้านหน้าของรถ ยังคงมีความมั่นคง ในการทดสอบการชนเฉียงด้านหน้า
- การป้องกัน:
- ดีเยี่ยม: ผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
- พอใช้: ขาซ้ายด้านล่างของผู้ขับขี่
การชนด้านข้าง (Side Impact)
- ประสิทธิภาพของ เทคโนโลยี HPT ได้รับการยืนยันจากการทดสอบเพิ่มเติม
- คะแนนได้รับการประเมินโดย ระบบให้คะแนนอุปกรณ์ (Fitment Rating System – FRS)
การประเมินระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB Assessment)
- ASEAN NCAP ได้เริ่มประเมินการทำงานของระบบ AEB ใน ระเบียบปี 2021-2025
- การประเมินครอบคลุม:
- AEB City: รับมือการชนท้ายรถในสถานการณ์ที่รถจอดนิ่ง
- AEB Inter-Urban: รับมือการชนท้ายรถในสถานการณ์ที่รถเคลื่อนที่
- Proton e.MAS 7 มีระบบ AEB ทั้งสองแบบเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น
- ASEAN NCAP ยืนยันว่าระบบ AEB ของรถทำงานได้ตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนด
การประเมินระบบเตือนจุดบอด (BSD Assessment)
- ตั้งแต่ ระเบียบปี 2017-2020 ASEAN NCAP ได้เริ่มประเมิน เทคโนโลยี Blind Spot
- ใน ระเบียบปี 2021-2025 การประเมินนี้อยู่ภายใต้ เสาหลักความปลอดภัยของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ (Motorcyclist Safety)
- Proton e.MAS 7 มีระบบเตือนจุดบอดทั้งสองฝั่งของรถเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น
- ASEAN NCAP ยืนยันว่าระบบทำงานได้ตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนด
โครงสร้างตัวถัง
- วัสดุที่ใช้ในโครงสร้างตัวถัง
- ตัวถังของ EX5 ผลิตจากเหล็กกล้าคุณภาพสูง (High-Strength Steel) และวัสดุผสมแบบน้ำหนักเบา เช่น อะลูมิเนียม เพื่อช่วยลดน้ำหนักของตัวรถในขณะที่ยังคงความแข็งแกร่งและทนทาน
- วัสดุโครงสร้างได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดีในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
- เทคโนโลยีการออกแบบ
- ใช้กระบวนการออกแบบแบบ CAE (Computer-Aided Engineering) เพื่อคำนวณความแข็งแรงของตัวถังในจุดต่าง ๆ อย่างละเอียด
- การเชื่อมต่อโครงสร้างมีการใช้เทคโนโลยี เลเซอร์เชื่อม (Laser Welding) ที่ให้ความแม่นยำสูง ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวรถ
- ความปลอดภัย
- โครงสร้างตัวถังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก เช่น C-NCAP และ Euro NCAP
- ระบบ Crash Absorption Zones ช่วยลดแรงกระแทกจากการชนด้านหน้าและด้านข้าง
- มาพร้อมกับ Crumple Zones ที่ช่วยกระจายแรงกระแทกออกไปยังพื้นที่ปลอดภัย เพื่อปกป้องผู้โดยสารภายใน
- แอโรไดนามิกส์
- ตัวถังมีการออกแบบที่คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) เพื่อลดแรงต้านอากาศ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่และลดการใช้พลังงาน
- น้ำหนักเบาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- ด้วยการผสมผสานวัสดุที่เบา แต่แข็งแรง ทำให้ EX5 มีน้ำหนักที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มระยะทางในการวิ่งต่อการชาร์จไฟแต่ละครั้ง
การทดสอบและเกณฑ์ของ ASEAN NCAP
ASEAN NCAP ประเมินรถยนต์โดยแบ่งการทดสอบเป็น 3 หมวดหลัก ได้แก่:
1.การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ (Adult Occupant Protection – AOP)
- การทดสอบชนด้านหน้า (Frontal Impact Test)
- รถจะถูกชนในลักษณะเฉียงเข้ากับสิ่งกีดขวางที่มีความเร็ว 64 กม./ชม. โดยใช้หุ่นจำลองผู้โดยสาร
- การทดสอบนี้ประเมินโครงสร้างตัวถัง, เข็มขัดนิรภัย, และถุงลมนิรภัย
- การทดสอบชนด้านข้าง (Side Impact Test)
- การจำลองการชนด้านข้างจากรถคันอื่นที่มีความเร็ว 50 กม./ชม. เพื่อประเมินการปกป้องผู้โดยสารบริเวณลำตัวและศีรษะ
2. การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นเด็ก (Child Occupant Protection – COP)
- การทดสอบใช้หุ่นจำลองเด็กขนาดต่าง ๆ (1.5 ปี และ 3 ปี) ที่ติดตั้งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Child Restraint System – CRS)
- ประเมินว่าระบบป้องกันช่วยลดการบาดเจ็บของเด็กในกรณีชนด้านหน้าและด้านข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
- การออกแบบของเบาะนั่ง (เช่น การรองรับ ISOFIX) ก็มีผลต่อคะแนนในหมวดนี้
3. เทคโนโลยีป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ (Safety Assist Technologies – SAT)
- การตรวจสอบฟีเจอร์ความปลอดภัยเชิงป้องกัน เช่น:
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพ (ESC)
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย (Seatbelt Reminder)
- ระบบป้องกันการชนล่วงหน้า (AEB)
- ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยป้องกันอุบัติเหตุหรือช่วยลดความรุนแรงเมื่อเกิดการชน
เกณฑ์การให้คะแนนและระดับดาว
- ASEAN NCAP ใช้คะแนนรวมจากทั้ง 3 หมวดเพื่อจัดอันดับความปลอดภัย โดยแบ่งออกเป็นระดับดาว (0-5 ดาว)
- 5 ดาว: ความปลอดภัยสูงสุดในทุกการทดสอบ
- 4 ดาว: ความปลอดภัยดี แต่ยังมีข้อปรับปรุง
- 3 ดาวหรือต่ำกว่า: มีข้อบกพร่องสำคัญที่ควรปรับปรุง
ความสำคัญของ ASEAN NCAP
- เพิ่มความโปร่งใส: ให้ผู้บริโภคทราบถึงมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์แต่ละรุ่น
- กระตุ้นผู้ผลิต: ให้ปรับปรุงคุณสมบัติด้านความปลอดภัยของรถยนต์
- ช่วยชีวิต: ข้อมูลจากการทดสอบช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ