Advertisement

Advertisement

ขสมก. เป็นหนี้กว่า 127,000 ล้านบาท เตรียมฟื้นฟูกิจการ

ขสมก. เป็นหนี้กว่า 127,000 ล้านบาท เตรียมฟื้นฟูกิจการ
Spread the love

Advertisement

Advertisement
  • ขสมก. ขาดทุนสะสมกว่า 127,786 ล้านบาท เตรียมฟืนฟูกิจการ
  • คาดกำไรกลับมาในปี 2572

ขสมก. หรือ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ มีภารกิจ และขอบเขตความรับผิดชอบ ในการจัดบริการ รถโดยสารประจำทางวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสาร ในเขตกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง 5 จังหวัด คือ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม และนครปฐม

“ศักดิ์สยาม” เผย “คนร.” ไฟเขียวแผนฟื้นฟู “ขสมก.” เพื่อเดินหน้ายกระดับมาตรฐานบริการรถเมล์ไทย ลดค่าครองชีพประชาชน สางหนี้-ขาดทุนสะสม 127,786 ล้านบาท มั่นใจกลับมามีกำไรในปี 72 คาดเสนอ ครม.เห็นชอบภายในเดือน มิ.ย.นี้ ย้ำ! ปี 63 ฟื้นฟูอีก 2 รัฐวิสาหกิจป่วยหนักสังกัดคมนาคม

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบในหลักการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ฉบับปรับปรุงใหม่ ซึ่งจะยกระดับมาตรฐานการให้บริการให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยการนำรถปรับอากาศมาให้บริการ

ขณะเดียวกันยังลดค่าครองชีพประชาชน ลดปัญหาจราจรติดขัด ลดมลภาวะที่เป็นพิษ ที่สำคัญลดปัญหาหนี้สิน ลดขาดทุนสะสมที่มีกว่า 127,786 ล้านบาทให้หมดไป

อีกทั้ง ตามแผนฟื้นฟู ขสมก.การันตรีว่า ระหว่างปี 2563-71 จะขอรับเงินชดเชยจากรัฐอีกไม่เกิน 9,674 ล้านบาท และผลประกอบการ ขสมก.จะกลับมามีกำไรในปี 2572 คาดว่าไม่เกินเดือน มิ.ย.นี้ จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ขสมก.มีหนี้สิน 127,786 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้พันธบัตร 64,339 ล้านบาท และหนี้เงินกู้ 63,446 ล้านบาท มีผลขาดทุนสะสมกว่า 9,000 ล้านบาท จึงต้องฟื้นฟูกิจการ โดยตามแผนฟื้นฟู จะจัดหารถโดยสารปรับอากาศพลังงานไฟฟ้า (อีวี) 2,511 คัน ซึ่งจะจ่ายค่าเช่าตามระยะทางที่ใช้งานจริง ระยะเวลาเช่า 7 ปี

เมื่อนำมารวมกับการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี ที่เคยดำเนินการไปแล้ว 489 คัน ทำให้มีรถเมล์รวม 3,000 คันให้บริการ หากแผนฟื้นฟูผ่าน ครม.เดือน มิ.ย.นี้ จะเริ่มจัดหารถทันที โดยจะรับมอบรถคันแรกเดือน มี.ค.2564 และจะครบทุกคันเดือน ก.ย.2565

ส่วนการลดค่าครองชีพประชาชน ตามแผนฟื้นฟู ค่าโดยสารจะเป็นตั๋ววันแบบเหมาจ่าย 30 บาท/วัน จากการศึกษาพบว่า ผู้โดยสารจะเสียค่าโดยสารถูกลงกว่า 50% เมื่อเทียบกับราคาตั๋วในปัจจุบัน นอกจากนี้ จะปรับเส้นทางเดินรถใหม่ โดย ขสมก.จะมี 108 เส้นทาง และรถร่วม ขสมก. 54 เส้นทาง รวมเป็น 162 เส้นทาง จากเดิมที่มีกว่า 269 เส้นทาง

ส่วนการจัดการทรัพยากร บุคคล ที่ปัจจุบันมีพนักงาน 13,961 คน ในจำนวนนี้เป็นพนักงานขับรถกว่า 5,000 คนนั้น จะจัดทำโครงการเกษียณก่อนอายุ 5,301 คน ใช้วงเงิน 4,560 ล้านบาท ในอนาคตหลังปรับโครงสร้างองค์กร จะเหลือพนักงานเพียง 8,267 คน

ขณะที่การจัดเช่ารถเมล์ใหม่ จะเช่ารวมคนขับด้วย แต่ ขสมก. มีแผนให้เอกชนที่ได้งานโครงการจัดหารถเมล์อีวี นำพนักงานใหม่มาขับรถตามสัญญา ในลักษณะผสมผสานกับพนักงานขับรถของ ขสมก. ไปจนกว่าพนักงานจะทยอยเกษียณอายุ เพื่อไม่ให้กระทบสภาพการจ้าง

“รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมี 4 พี่น้อง ที่ต้องเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ คือ การบินไทย ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ที่ศาล ส่วนที่เหลืออีก 3 คือ ขสมก., การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) นายกรัฐมนตรีพร้อมแก้ไขปัญหาแล้ว และกระทรวงมีแนวทางฟื้นฟูอยู่แล้ว มั่นใจว่าภายในปี 2563 จะฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจที่เหลือได้อย่างเป็นรูปธรรม”

ด้านนายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า การเช่ารถเมล์อีวี จะกำหนดราคากลางโดยคำนวณจากระยะทางที่รถเมล์แต่ละคันจะวิ่งในเส้นทาง ซึ่งแต่ละวันวิ่งเฉลี่ย 240 กิโลเมตร เมื่อคูณกับจำนวนรถที่จัดหา 2,511 คัน จะทำให้ได้ราคากลาง เบื้องต้นรถเมล์อีวี จะมีต้นทุนค่าเช่า ประมาณปีละ 4,000 ล้านบาท.

ไทยรัฐ

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้