เตรียมปรับราคา ดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตร ให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ ไม่เป็นภาระกองทุนน้ำมัน
- สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง อยู่ระหว่างการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิด 30 บาทต่อลิตร ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2565
- สกนช. ได้วิเคราะห์เพดานราคาใหม่ เพื่อความเหมาะสม โดยระบุว่า ดีเซล ต้องขยับสูงกว่า 30 บาทต่อลิตรอย่างแน่นอนในอนาคต
สกนช.จะมีการเสนอให้ขยับเพดานราคาใหม่ให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และ ไม่ให้เป็นภาระการชดเชย ราคาที่มากเกินไปของกองทุนน้ำมัน
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่า สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) อยู่ระหว่างการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิด 30 บาทต่อลิตร ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2565 โดยเห็นว่า เพดานดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ใช้มานานกว่า 15 ปีแล้ว
เพื่อให้เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ลด ภาระกองทุนน้ำมันในการตรึงราคา ทาง สกนช. ได้วิเคราะห์เพดานราคาใหม่ เพื่อความเหมาะสม โดยระบุว่า ดีเซล ต้องขยับสูงกว่า 30 บาทต่อลิตรอย่างแน่นอนในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอขยับเพดานดีเซลเกิน 30 บาทจะต้องผ่าน คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.)และคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งใช้เวลาอีกสักพัก
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center-ENC ) รายงาน การตรึงราคาดีเซล ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร เกินช่วงปลายปี 2564 ในขณะที่ราคาน้ำมันโลกทะลุ 80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้กองทุนน้ำมันต้องชดเชยถึงเดือนละ 4,000 ล้านบาท หรือชดเชยดีเซลประมาณเกือบ 2 บาทต่อลิตร และทำให้กองทุนน้ำมันฯ ติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี
สกนช.ได้ทำตัวเลขสถานะกองทุนน้ำมันฯ ไว้ ณ วันที่ 26 ธ.ค. 2565 พบว่า กองทุนน้ำมันฯ ติดลบถึง 4,480 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่มีในบัญชีน้ำมัน 18,244 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 22,724 ล้านบาท