ขายญี่ปุ่น 1.11 ล้านบาท BYD ATTO 3 485 กม./ชาร์จ WLTC เปิดตัวปีนี้ Dolphin และ Seal
สีฟ้า surf blue
สีเขียว forest green
สีเทา boulder grey
สีขาว ski white
สีแดง parkour red
BYD ATTO 3 ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่น มีให้เลือกเพียง 1 รุ่น หรือ Extended Range ราคาจำหน่าย 4,400,000 เยน หรือประมาณ 1.11 ล้านบาท คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในญี่ปุ่นในวันที่ 31 มกราคม 2023
นาดตัวถัง
- ความยาว 4,455 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,875 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,615 มิลลิเมตร
- ระยะห่างของล้อ (คู่หน้า) 1,575 มิลลิเมตร (คู่หลัง) 1,580 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,720 มิลลิเมตร
- ความสูงใต้ท้องรถ 175 มิลลิเมตร
- ความสูงใต้ท้องรถ (เมื่อมีผู้โดยสาร) 150 มิลลิเมตร
- ความจุพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ 440 ลิตร
- ความจุพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ เมื่อพับเบาะหลังทั้งหมด 1,340 ลิตร
- น้ําหนักรถเปล่า 1,750 กิโลกรัม
- นํ้าหนักรถรวมผู้โดยสาร 2,160 กิโลกรัม
- จํานวนที่นั่ง 5 ที่นั่ง
รุ่นท๊อป Extended Range
- มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor
- ประเภทแบตเตอรี่ BYD Blade Battery (LFP) ขนาด 58.56kWh
- กำลังสูงสุด 150 (201) กิโลวัตต์ (แรงม้า) ที่ 5,000 – 8,000 รอบต่อนาที
- แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ที่ 0 – 4,620 รอบต่อนาที
- ระยะทางวิ่งสูงสุด 485 กิโลเมตร / ชาร์จ WLTC
- อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 7.3 วินาที
- ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า
ระบบชาร์จ
- รองรับหัวชาร์จ แบบ AC1 6kW
- รองรับหัวชาร์จ DC – CCS 2 (80kW)
- ระบบ V2L (Vehicle To Load) จ่ายไฟฟ้าได้ 2.2 kW
- ระบบการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative braking)
ช่างล่าง
- ระบบพวงมาลัย พวงมาลัยไฟฟ้า Electric Power Assisted Steering (EPAS)
- ดิสก์เบรกหน้า แบบมีช่องระบาย ความร้อน
- ดิสก์เบรกหลัง
- ระบบกันสะเทือนหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัท
- ระบบกันสะเทือนหลัง มัลติ-ลิงค์
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยาง 15/55 R18
ภายนอก
- หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิก (Panoramic Sunroof) เปืด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
- ระบบเปืด-ปิดประตูท้ายด้วยระบบไฟฟ้าแบบ One-Touch
- ราวหลังคา
- กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า
ระบบไฟภายนอก
- ไฟหน้าแบบ LED
- ไฟส่องนําทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HMA)
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Daytime Running Light (DRL)
- ไฟท้ายแบบ LED
- ไฟ Ambient Light บริเวณมือจับประตู ปรับสีได้ 31 สี กระพริบตามจังหวะเพลง
ภายใน
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อมสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง และสวิตช์ควบคุมหน้าจอ
- หน้าจอแสดงผลด้านคนขับแบบดิจิตอล ขนาด 5 นิ้ว
- วัสดุหุ้มเบาะนั่งแบบหนังสังเคราะห์
- ช่องเก็บของคอนโซลกลาง
- พนักพิงเบาะหลังพับได้แบบ 60:40
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าแบบ 6 ทิศทาง
- เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
- แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย
- ช่องจ่ายไฟ 12V 120w 1 จุด ที่คอนโซลกลาง
- กุญแจแบบคีย์การ์ด พร้อมระบบ Keyless Start
- กระจกไฟฟ้า 4 บานแบบ One-touch พร้อมระบบป้องกันการหนีบ Anti-Pinch
- ระบบเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
- ระบบกรองอากาศ PM 2.5 พร้อม CN95 Filter
- ชุดน้ำยาปะยางฉุกเฉิน พร้อมปั้มลม
- อุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถ ประกอบด้วย ป้ายเตือนสะท้อนแสง, เสื้อสะท้อนแสง, แม่แรงยกรถ
เครื่องเสียง
- เครื่องเสียงรองรับ วิทยุ AM/FM
- รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ
- หน้าจอแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 12.8 นิ้ว ปรับหมุนแนวต้ัง-แนวนอนได้ด้วยไฟฟ้า
- ชุดเครื่องเสียง Dirac HD Sound พร้อมลําโพง 8 ตำแหน่ง
- รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto
- ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ BYD DiLink
- ช่อง USB-A และ USB-C อย่างละ 2 พอร์ต ที่คอนโซลกลาง
- ช่อง USB-A และ USB-C อย่างละ 2 พอร์ต สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- อัปเดตระยะไกล OTA
ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- ถุงลมนิรภัยด้านข้างคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้า
- ถุงลมนิรภัยระหว่างคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
- ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
- ระบบแจ้งเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยที่นั่งคู่หน้า
- ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS)
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก Anti-Lock Braking System (ABS)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake (EPB)
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC)
- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรก Auto Vehicle Hold (AVH)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control พร้อมฟังก์ชั่น Stop and Go (ACC-S&G)
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking (AEB)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- ระบบเตือนการชนด้านหลัง Rear Collision Warning (RCW)
- ระบบเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Monitoring (BSD)
- ระบบเตือนก่อนเปืดประตู Door Open Warning (DOW)
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist (LKA)
- ระบบเตือนขณะถอย Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Brake (RCTB)
- BYD E-CALL (โทรฉุกเฉิน)
- BYD Around View กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
- ระบบจดจำป้ายจราจร TSR
BLADE BATTERY นวัตกรรมใหม่ของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ เอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD ให้ความปลอดภัยสูงสุด มั่นใจได้ทุกการขับขี่
- ความปลอดภัยสูงสุด: ผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัย Nail Penetration Test มั่นใจไดhวjาปลอดภัยหากได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
- ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม: ด้วยรูปทรงเซลล์แบตเตอรี่ที่มีลักษณะคล้ายใบมีดวางเรียงตัวกัน จึงมีพื้นที่ว่างในการเพิ่มจำนวนเซลล์ เพื่อเพิ่มพลังงานให้มากขึ้น
- อายุการใช้งานยาวนาน: แบตเตอรี่ Blade Battery LFP อายุการใช้งานยาวนานกว่าเอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD
- ระบบการจัดการความร้อนอัจฉริยะ: ระบบทำความร้อนและระบายความร้อนที่แบตเตอรี่โดยตรง (Direct Cooling and Direct Heating) เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนได้ถึง 20% พร้อมลดการสูญเสียพลังงานเสริมด้วยระบบปั๊มความร้อน (Heat Pump System) ช่วยให้ทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิที่กว่างตั้งแต่ -30 ถึง 60 องศาเซลเซียสทนทานทุกสภาพอากาศ
E-Platform แพลตฟอร์มแห่งอนาคตที่ยกระดับการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปอีกขั้นทั้งอัตราเร่ง ระยะทางการขับขี่ ความเร็วในการชาร์จ เกาะถนนเป็นเยี่ยมตลอดจนความนุ่มนวลในทุกการขับขี่ เบื้องต้น BYD กำลังวางแผนที่จะเปิดตัวโชว์รูมในประเทศญี่ปุ่นกว่า 100 สาขา Japan Dealers ศูนย์บริการ และ การขาย ภายในปี 2025 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า ปัจจุบัน BYD ไม่มีแผนที่จะสร้างโรงงานในประเทศญี่ปุ่น
- ญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2548 ก่อนหน้านี้พวกเขาเน้นผลิตรถยนต์โดยสาร EV มากกว่า 70% ที่วิ่งในญี่ปุ่นนั้นผลิตโดย BYD
BYD Japan Co., Ltd. สำนักงานใหญ่: เมืองโยโกฮาม่า จังหวัดคานากาว่า จะเป็นบริษัทย่อยเพื่อจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล และ ให้บริการเกี่ยวข้องในญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2565 BYD Auto Japan จะเริ่มจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่นตามลำดับตั้งแต่มกราคม 2023 นำโดย BYD ATTO 3
BYD Auto Japan วางแผนที่จะเปิดตัว e-SUV ขนาดกลางรุ่นแรก ได้แก่ ATTO 3 , Dolphin เปิดตัวในช่วงกลางปีหน้า และ ตามมาด้วย Seal ในช่วงครึ่งหลังปี 2023 ทั้งหมดล้วนเป็นรุ่นพวงมาลัยขวาอย่างไม่ต้องสงสัย