รถยนต์ไฟฟ้า ที่มียอดจดทะเบียนสูงสุดในไทย มกราคม – ธันวาคม 2024 รวมกว่า 70,173 คัน
รถยนต์ไฟฟ้า ที่มียอดจดทะเบียนสูงสุดในไทย มกราคม – ธันวาคม 2024 รวมกว่า 70,173 คัน
- BYD Dolphin – 13,386 คัน (19.1%)
- BYD Atto 3 – 7,747 คัน (11.0%)
- NETA V – 6,587 คัน (9.4%)
- MG 4 Electric – 5,403 คัน (7.7%)
- BYD Seal – 5,156 คัน (7.4%)
- Changan Deepal S07 – 4,874 คัน (6.9%)
- Aion Y Plus – 4,515 คัน (6.4%)
- Tesla Model 3 – 3,328 คัน (4.7%)
- ORA Good Cat – 3,285 คัน (4.7%)
- MG EP – 1,886 คัน (2.7%)
- NETA X – 1,382 คัน (2.0%)
- Aion ES – 1,380 คัน (2.0%)
- Volvo C40 / EC40 – 988 คัน (1.4%)
- Volvo XC40 EV / EX40 – 950 คัน (1.4%)
- Tesla Model Y – 881 คัน (1.3%)
- BMW iX3 – 653 คัน (0.9%)
- MG ZS EV – 623 คัน (0.9%)
- Changan Deepal L07 – 540 คัน (0.8%)
- MG Maxus 9 – 470 คัน (0.7%)
- Volvo EX30 – 469 คัน (0.7%)
- BYD M6 – 462 คัน (0.7%)
- Wuling Air EV – 419 คัน (0.6%)
- KIA EV5 – 416 คัน (0.6%)
- BMW iX – 405 คัน (0.6%)
- Changan Lumin – 295 คัน (0.4%)
- Honda e:N GT – 294 คัน (0.4%)
- MG 5 EV – 273 คัน (0.4%)
- MINI Electric Cooper SE – 261 คัน (0.4%)
- Porsche Taycan – 245 คัน (0.3%)
- Aion HYPTec HT – 222 คัน (0.3%)
- Wuling Bingo – 220 คัน (0.3%)
- ZEEKR X – 196 คัน (0.3%)
- XPENG G6 – 178 คัน (0.3%)
- Jacceco EV – 161 คัน (0.2%)
- BMW i5 – 144 คัน (0.2%)
- BMW i4 – 141 คัน (0.2%)
- Lotus ELETRE – 112 คัน (0.2%)
- BYD e6 – 111 คัน (0.2%)
- BYD M3 / T3 – 99 คัน (0.1%)
- Mercedes EQE – 94 คัน (0.1%)
- Hyundai IONIQ5 / 5N – 84 คัน (0.1%)
- BMW i7 – 84 คัน (0.1%)
- Lexus RZ450e – 77 คัน (0.1%)
- Toyota bZ4X – 66 คัน (0.1%)
- Mercedes EQE SUV – 62 คัน (0.1%)
- Mercedes EQB – 62 คัน (0.1%)
- MG Cyberster – 60 คัน (0.1%)
- Audi Q8 e-tron – 59 คัน (0.1%)
- KIA EV9 – 56 คัน (0.1%)
- Volt City EV – 56 คัน (0.1%)
- Foton – 54 คัน (0.1%)
- BMW iX2 – 53 คัน (0.1%)
- MG Maxus 7 – 50 คัน (0.1%)
- DFSK EC31 / EC36 – 48 คัน (0.1%)
- ACE EX80 T8 – 48 คัน (0.1%)
- Mercedes EQE Sedan – 38 คัน (0.1%)
- Volkswagen ID BUZZ – 33 คัน (0.0%)
- OMODA C5 EV – 33 คัน (0.0%)
- MINI ACEMAN – 28 คัน (0.0%)
- Mine Mobility MTS-MT30 – 21 คัน (0.0%)
- NEX – 21 คัน (0.0%)
- Nissan Leaf – 15 คัน (0.0%)
- AVATR 11 – 14 คัน (0.0%)
- Pomm One – 13 คัน (0.0%)
- Pocco MM YX DD K – 12 คัน (0.0%)
- Audi e-tron GT – 12 คัน (0.0%)
- Hyundai IONIQ6 – 11 คัน (0.0%)
- MINI Countryman SE – 10 คัน (0.0%)
- Ford Mustang Mach-e – 5 คัน (0.0%)
- Skywell – 5 คัน (0.0%)
- Nextem ORCA – 4 คัน (0.0%)
- Rolls-Royce Spectre – 3 คัน (0.0%)
- KYC XSEV – 3 คัน (0.0%)
- Necomer D01 – 3 คัน (0.0%)
- Sokon EC35 – 3 คัน (0.0%)
- BOMA – 2 คัน (0.0%)
- Takano TTE-500 – 2 คัน (0.0%)
- Tesla Model X – 2 คัน (0.0%)
- Honda – 1 คัน (0.0%)
- Jaguar I-PACE – 1 คัน (0.0%)
- Keyton M70L EV – 1 คัน (0.0%)
1. ภาพรวมตลาด
- ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้ารวมทั้งปีอยู่ที่ 70,173 คัน
- แบรนด์ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดคือ BYD ด้วยจำนวน 3 รุ่นติดอันดับสูง ได้แก่:
- BYD Dolphin (19.1%)
- BYD Atto 3 (11.0%)
- BYD Seal (7.4%)
- รวมกว่า 26,289 คัน คิดเป็น 37.5% ของตลาด
2. อันดับรถยนต์ยอดนิยม
- TOP 3:
- BYD Dolphin ครองแชมป์ด้วยยอดจดทะเบียนสูงถึง 13,386 คัน (19.1%)
- BYD Atto 3 อันดับ 2 ที่ 7,747 คัน (11.0%)
- NETA V อันดับ 3 ด้วย 6,587 คัน (9.4%)
- รถในกลุ่มยอดนิยมแสดงถึงความต้องการรถยนต์ที่มีความคุ้มค่า และตอบโจทย์ตลาดในกลุ่มครอบครัวและการใช้งานทั่วไป
3. การกระจายยอดจดทะเบียน
- กลุ่มผู้นำตลาด: รถยนต์ 7 รุ่นแรก ได้แก่ BYD Dolphin, Atto 3, NETA V, MG 4 Electric, BYD Seal, Changan Deepal S07 และ Aion Y Plus ครองส่วนแบ่งตลาดรวมกว่า 68.6%
- กลุ่มตลาดกลาง: รถที่มียอดจดทะเบียนในช่วง 1,000-3,500 คัน เช่น Tesla Model 3, ORA Good Cat, และ MG EP แสดงให้เห็นว่ามีความสนใจรถยนต์ไฟฟ้าระดับกลางถึงบนในกลุ่มผู้บริโภค
- กลุ่มตลาดเล็ก:
รถที่มียอดจดทะเบียนต่ำกว่า 1,000 คัน เช่น BMW iX3, Volvo EX30 และ MG Maxus 9 มักเป็นรถยนต์กลุ่มพรีเมียม
4. แนวโน้มแบรนด์และโมเดล
- แบรนด์ BYD:
- นำตลาดด้วยการตอบโจทย์หลากหลายเซกเมนต์ ทั้งราคาประหยัด (Dolphin), SUV (Atto 3) และซีดานพรีเมียม (Seal)
- NETA V:
- จุดเด่นที่ราคาและการใช้งานสำหรับคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้กลายเป็นรถยอดนิยมในตลาดรองจาก BYD
- Tesla และ ORA:
- Tesla Model 3 และ ORA Good Cat ยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ซื้อที่มองหาความหรูหราและสมรรถนะ
5. ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า
- ตลาดแสดงให้เห็นถึงความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาความคุ้มค่าและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- ราคาประหยัดและเทคโนโลยีครบครัน ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันตลาดในปี 2024
6. ความน่าสนใจในอนาคต
- BYD จะยังคงครองตลาด หากสามารถนำเสนอโมเดลใหม่ในกลุ่มราคาและเซกเมนต์ที่หลากหลายขึ้น
- Tesla และแบรนด์ยุโรป อาจขยายส่วนแบ่งตลาดได้ หากมีการปรับราคาหรือเพิ่มรุ่นที่เข้าถึงง่ายขึ้นในกลุ่มลูกค้ากลาง
- ตลาดใหม่และผู้เล่นรายเล็ก เช่น Wuling หรือ Changan แสดงศักยภาพในการเติบโต
สรุป
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทยในปี 2024 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะจากแบรนด์ BYD ที่นำตลาดด้วยยอดขายอันดับต้น ๆ รถยนต์กลุ่มประหยัดและเทคโนโลยีครบครันมีส่วนผลักดันให้ตลาดเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนสูงสุดในไทย 2024 รวม 70,137 คัน ลดลง 8.1% เมื่อเทียบปีที่แล้ว (76,314 คัน)
- BYD 27,005 คัน
- MG 9,081 คัน
- NETA 7,970 คัน
- ChangAn 5,912 คัน
- AION 5,185 คัน
- TESLA 4,121 คัน
- GMW ORA 3,231 คัน
- Volvo 2,563 คัน
- BMW 1,483 คัน
- Wuling 711 คัน
- ZEEKR: 198 คัน
- XPENG: 179 คัน
- VOLT: 55 คัน
- OMODA: 31 คัน
- AVATR: 14 คัน