เผยภาพ MG Cyberster ไฟฟ้า เปิดประทุน 2 ที่นั่ง เวอร์ชั่นจำหน่ายจริง ก่อนเปิดตัวในจีน
ภาพการทดสอบวิ่งของ MG Cyberster โรสเตอร์ไฟฟ้า 2 ที่นั่งใหม่ ในประเทศจีน คาดว่ารุ่นผลิตจำหน่ายนี้จะเปิดราคาในปีหน้า
MG กำลังอยู่ในระหว่างการเปิดตัว ‘Project E’ รถโรดสเตอร์ไฟฟ้าสองที่นั่งในเดือนเมษายนปีหน้า 2023 ก่อนส่งมอบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรในช่วงครึ่งแรกปี 2024
ชื่อแรกทีเราเห็นคือ MG Cyberster Electric Roadster แต่คาดว่าพวกเขาจะใช้ชื่อ A ถึง E อย่างใดอย่างหนึ่งสำหรับการเปิดตัวเวอร์ชั่นจำหน่ายจริง
Guy Pigounakis ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ของ MG UK บอกกับ Autocar ในงานล่าสุดว่า “รถที่ผลิตจริงจะพลิกเกมในแง่ของการรับรู้ของแบรนด์” มีให้เลือกทั้ง ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และ มอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อสมรรถนะสูง
นอกจากนี้ MG ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในชื่อ ‘MG A ถึง E EV’ ซึ่งอาจเป็นการดีไซน์ของแบรนด์ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 มาใช้งาน ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าแบรนด์จะพยายาม จะทำซีรีย์นี้เป็นรถเปิดประทุนทั้งหมดหรือไม่
แน่นอนว่า MG Cyberster เวอร์ชั่นต้นแบบไม่สามารถผลิตแบบนั้นได้ เพราะต้องมีการปรับปรุงหลายอย่าง ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดคือหลังคา เพราะรถต้นแบบไม่มีหลังคา นอกจากนี้ MG ยังเลือกใช้รถคูเป้หหลังคาแบบแข็งยึดหดได้ เป็นการสร้างโรสเตอร์ในอดีตยุค 1960 – 1970 กลับมาอีกครั้ง
ด้านข้างดูค่อนข้างยาวไปหน่อย รอบพับข้างมีการออกแบบหรูหรา ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับต้นแบบ หลังคาจะเก็บไว้ใต้แผงดาดฟ้าด้านหลัง พร้อมการออกแบบไฟรูปลูกศร สปอยเลอร์ในตัว ไร้มือจับประตู
MG Cyberster น่าจะเป็นรถโรดสเตอร์ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นเป็นจำนวนมาก และมันสามารถแข่งขันกับ MX-5 ไฟฟ้าในอนาคตได้แบบสบายๆ
Cyberster พัฒนาโดยทีมงานที่ MG Advanced Design Centre ในลอนดอนโดยนำสัญลักษณ์บางอย่างมาจาก MGB Roadster เช่นไฟหน้าทรงกลม “Magic Eye” กระจังหน้าแบบบาง แถบ LED ด้านหน้า ไฟท้ายแบบ LED พร้อมกราฟิกคล้ายธงชาติอังกฤษ
ขนาดตัวถัง
- ยาว 4535 มม.
- กว้าง 1913 มม.
- สูง 1329 มม.
- ระยะฐานล้อ 2690 มม.
MG Cyberster มันจะกลายเป็นคู่แข่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับ Tesla Roadster สปอร์ต 2 ประตูไฟฟ้า
-
SAIC Motor Corporation Limited เป็น บริษัท ออกแบบและผลิตยานยนต์ของจีนที่มีสำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ด้วยการดำเนินงานข้ามชาติ บริษัท ฟอร์จูนโกลบอล 100 และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่อันดับ 4 ในจีน
MG Cyberster จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคุณภาพสูง มีให้เลือกทั้งมอเตอร์เดี่ยว ให้กำลังระหว่าง 309 – 470 แรงม้า และ รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ มอเตอร์หน้า 201 แรงม้า มอเตอร์หลัง 470 แรงม้า คาดว่าสามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3 วินาที วิ่งได้ 800 กม./ชาร์จ
- แบตเตอรี่แบบไร้โมดูล (Moduleless Battery) รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ทคโนโลยีการชาร์จ 800 โวลต์
ภายในห้องโดยสารออกแบบในธัม ดิจิตอลไฟเบอร์ เน้นการตกแต่งที่เอนเอียงไปทางด้านคนขับ เพื่อนำเสนอความสปอร์จสองที่นั่งแบบคลาสสิก เน้นการออกแบบเรียบง่าย พวงมาลัยแบบแป้นเกม ทุกอย่างสามารถควบคุมได้ด้วยพวงมาลัย
ออกแบบเบาะนั่งแบบ Zero-Gravity ทูโทน สีแดง-ขาว หัวเบาะทรงเหลี่ยมเพชน รองรับสรีระอย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้ในด้านของเทคโนโลยียังสามารถรองรับระบบการเชื่อมต่อแบบ 5G และติดตั้งระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เป็นรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 3 (Autonomous Level 3 : Conditional Automation)
MG กำลังอยู่ในระหว่างการเปิดตัว ‘Project E’ รถโรดสเตอร์ไฟฟ้าสองที่นั่งในเดือนเมษายนปีหน้า 2023 ก่อนส่งมอบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรในช่วงครึ่งแรกปี 2024
ชื่อแรกทีเราเห็นคือ MG Cyberster Electric Roadster แต่คาดว่าพวกเขาจะใช้ชื่อ A ถึง E อย่างใดอย่างหนึ่งสำหรับการเปิดตัวเวอร์ชั่นจำหน่ายจริง
Guy Pigounakis ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ของ MG UK บอกกับ Autocar ในงานล่าสุดว่า “รถที่ผลิตจริงจะพลิกเกมในแง่ของการรับรู้ของแบรนด์” มีให้เลือกทั้ง ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และ มอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อสมรรถนะสูง
นอกจากนี้ MG ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในชื่อ ‘MG A ถึง E EV’ ซึ่งอาจเป็นการดีไซน์ของแบรนด์ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 มาใช้งาน ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าแบรนด์จะพยายาม จะทำซีรีย์นี้เป็นรถเปิดประทุนทั้งหมดหรือไม่
แน่นอนว่า MG Cyberster เวอร์ชั่นต้นแบบไม่สามารถผลิตแบบนั้นได้ เพราะต้องมีการปรับปรุงหลายอย่าง ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดคือหลังคา เพราะรถต้นแบบไม่มีหลังคา นอกจากนี้ MG ยังเลือกใช้รถคูเป้หหลังคาแบบแข็งยึดหดได้ เป็นการสร้างโรสเตอร์ในอดีตยุค 1960 – 1970 กลับมาอีกครั้ง
ด้านข้างดูค่อนข้างยาวไปหน่อย รอบพับข้างมีการออกแบบหรูหรา ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับต้นแบบ หลังคาจะเก็บไว้ใต้แผงดาดฟ้าด้านหลัง พร้อมการออกแบบไฟรูปลูกศร สปอยเลอร์ในตัว ไร้มือจับประตู
MG Cyberster น่าจะเป็นรถโรดสเตอร์ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นเป็นจำนวนมาก และมันสามารถแข่งขันกับ MX-5 ไฟฟ้าในอนาคตได้แบบสบายๆ
Cyberster พัฒนาโดยทีมงานที่ MG Advanced Design Centre ในลอนดอนโดยนำสัญลักษณ์บางอย่างมาจาก MGB Roadster เช่นไฟหน้าทรงกลม “Magic Eye” กระจังหน้าแบบบาง แถบ LED ด้านหน้า ไฟท้ายแบบ LED พร้อมกราฟิกคล้ายธงชาติอังกฤษ
ขนาดตัวถัง
- ยาว 4535 มม.
- กว้าง 1913 มม.
- สูง 1329 มม.
- ระยะฐานล้อ 2690 มม.
MG Cyberster มันจะกลายเป็นคู่แข่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับ Tesla Roadster สปอร์ต 2 ประตูไฟฟ้า
-
SAIC Motor Corporation Limited เป็น บริษัท ออกแบบและผลิตยานยนต์ของจีนที่มีสำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ด้วยการดำเนินงานข้ามชาติ บริษัท ฟอร์จูนโกลบอล 100 และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่อันดับ 4 ในจีน
MG Cyberster จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคุณภาพสูง มีให้เลือกทั้งมอเตอร์เดี่ยว ให้กำลังระหว่าง 309 – 470 แรงม้า และ รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ มอเตอร์หน้า 201 แรงม้า มอเตอร์หลัง 470 แรงม้า คาดว่าสามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3 วินาที วิ่งได้ 800 กม./ชาร์จ
- แบตเตอรี่แบบไร้โมดูล (Moduleless Battery) รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ทคโนโลยีการชาร์จ 800 โวลต์
ภายในห้องโดยสารออกแบบในธัม ดิจิตอลไฟเบอร์ เน้นการตกแต่งที่เอนเอียงไปทางด้านคนขับ เพื่อนำเสนอความสปอร์จสองที่นั่งแบบคลาสสิก เน้นการออกแบบเรียบง่าย พวงมาลัยแบบแป้นเกม ทุกอย่างสามารถควบคุมได้ด้วยพวงมาลัย
ออกแบบเบาะนั่งแบบ Zero-Gravity ทูโทน สีแดง-ขาว หัวเบาะทรงเหลี่ยมเพชน รองรับสรีระอย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้ในด้านของเทคโนโลยียังสามารถรองรับระบบการเชื่อมต่อแบบ 5G และติดตั้งระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เป็นรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 3 (Autonomous Level 3 : Conditional Automation)