เปิดขายไทย 6.59 – 10.8 ล้านบาท Porsche Cayenne รุ่นปรับโฉม MY2024
วันที่ 21 เมษายน 2023 Porsche Cayenne รุ่นปรับโฉม MY2024 เน้นการปรับปรุงภายนอก ภายในห้องโดยสาร เพิ่มกำลังเครื่องยนต์ใหม่ เปิดให้จับจองในประเทศไทย ทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
- Cayenne E-Hybrid ราคา 6,590,000 บาท
- Cayenne ราคา 7,950,000 บาท
- Cayenne S ราคา 10,800,000 บาท
- Turbo GT พิเศษ ราคา 20,600,000 บาท
นำเข้าทั้งคันโดย AAS Group ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Porsche อย่างเป็นทางการ
ภายนอกมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงกระจังหน้า ช่องดักอากาศ ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย และติดตั้งแถบสองแถบในแนวนอน ไฟหน้า Matrix Design LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ไฟท้ายของ Cayenne ปี 2024 รวมอยู่ในแถบไฟ เช่นเดียวกับ Taycan ล้ออัลลอยขนาด 20 – 22 นิ้ว
- 3 สีใหม่ ได้แก่ Algarve Blue Metallic, Montego Blue Metallic และ Arctic Grey
- Cayenne Coupe มีแพ็คเกจเสริมน้ำหนักเบา Sport Package ลดน้ำหนักได้ถึง 32.6 กิโลกรัม
ขนาดตัวถัง
- ความยาว 4,930 มม.
- ความกว้าง 1,983 มม.
- ความสูง 1,698 มม.
- ฐานล้อ 2,895 มม.
- ระยะตำ่สุดใต้ท้องรถ 212 – 238 มม.
- น้ำหนักตัวรถ 2,122 – 2,211 กก.
- รัศมีวงเลี้ยว 6.1 ม.
Porsche Cayenne ปี 2024 ได้รับการปรับปรังทั้งภายนอก และ ภายในห้องโดยสารใหม่ทั้งหมด โดยเปิดตัววันที่ 18 เมษายน 2023 ที่งาน Shanghai Auto Show 2023 ประเทศจีน เบื้องต้นได้เผยให้เห็นการออกแบบภายในห้องโดยสารใหม่ มาพร้อม แผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.6 นิ้วพร้อมหน้าจอโค้ง ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการแสดงผลได้ถึง 7 โหมด
หน้าจออินโฟเทนเมนต์มาตรฐานขนาด 12.3 นิ้ว รองรับคำสั่งเสียงของ Siri เพื่อควบคุมการทำงานของรถยนต์ เชื่อมต่อระบบนำทางออนไลน์ ภายใต้หน้าจอขนาดใหญ่ มีแผงควบคุมใหม่สำหรับระบบ HVAC มีพื้นผิวกระจกบนแผงสีดำและมีระบบจดจำการสัมผัสพร้อมการตอบสนองแบบสัมผัส ระบบยังติดตั้งสวิตซ์ควบคุมด้วยท่าทาง พร้อมปุ่มปรับระดับเสียงด้านล่าง
- หน้าจอเสริมขนาด 10.9 นิ้วที่ด้านผู้โดยสารของแดชบอร์ด ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถควบคุมระบบนำทางและสื่อต่างๆ ได้ หน้าจอยังสามารถสตรีมวิดีโอได้ในขณะที่ Cayenne เคลื่อนที่
- เชื่อมต่อโครงข่ายที่หลากหลายของ Apple CarPlay
- ติดตั้ง Porsche Communication Management (PCM) และบริการนำทางออนไลน์และมัลติมีเดียเป็นมาตรฐาน
- รองรับการชาร์จมือถือแบบไร้สาย 15W
นอกจากนี้ยังมีพอร์ต USB-C สองพอร์ตในช่องเก็บของด้านหน้า และอีกสองพอร์ตที่คอนโซลกลางด้านหลัง คันเกียร์ออกแบบใหม่ พวงมาลัยที่ออกแบบใหม่ถอดแบบมาจาก 911 โฉมปัจจุบัน มีปุ่มควบคุมแบบมัลติฟังก์ชั่นต่างๆ ก้านสำหรับควบคุมความเร็วคงที่อยู่ที่ด้านล่างซ้าย ปุ่มหมุนสำหรับเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อนอยู่ทางด้านขวา
- โหมดการขับขี่สามารถสลัยระหว่าง Normal (มาตรฐาน), Offroad (ออฟโรด), Sport (สปอร์ต) และ Sport Plus (อัพเกรดสปอร์ต)
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์รูปแบบใหม่ยังคงอยู่ที่ด้านซ้ายของพวงมาลัย
เครื่องยนต์ปรับปรุงเพิ่มกำลังใหม่
เครื่องยนต์เบนซิน V6 DOHC 24 วาล์ว 3.0 ลิตร 2,995 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 84.5 x 89.0 มิลลิเมตร ฉีดจ่ายนำ้มันแบบ Direct Fuel Injection (DFI) พ่วงระบบอัดอากาศ Twin-scroll Turbocharger พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VarioCam Plus กำลังสูงสุด 304 แรงม้า (PS) ที่ 5,400 – 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 4,800 รอบ/นาที + มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 176 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 460 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบเตอรี่ 25.9 kWh รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับสูงสุด 11 kW
- ให้กำลังสูงสุด 470 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ Active All-wheel Drive
- เร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.9 วินาที
- เร่ง 0-200 กม./ชม. ภายใน 18.2 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 254 กม./ชม.
- วิ่งไฟฟ้าล้วน 74 กม. WLTP
- แบตเตอรี่เพิ่ม 7% กำลังมอเตอร์เพิ่ม 40 แรงม้า
เครื่องยนต์เบนซิน V8 DOHC 32 วาล์ว 4.0 ลิตร 3,996 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 86.0 x 86.0 มิลลิเมตร ฉีดจ่ายนำ้มันแบบ Direct Fuel Injection (DFI) พ่วงระบบอัดอากาศ Twin-scroll Turbocharger ระบบแปรผันวาล์ว VarioCam Plus กำลังสูงสุด 474 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 5,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อน 4 ล้อ Active All-wheel Drive
- เร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.0 วินาที
- เร่ง 0-200 กม./ชม. ภายใน 18.6 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 273 กม./ชม.
ติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบถุงลมแบบ double-chamber double-valve แทนระบบกันสะเทือนแบบถุงลมแบบ three-chamber single-valve เบรกแบบเซรามิกคอมโพสิต และท่อไอเสียไทเทเนียม