“ทรัมป์เปิดศึกภาษี 25% ฉุดอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐฯ สะเทือนทั้งระบบ – ล็อบบี้รวมพลังโต้กลับ!”

สรุปก่อนอ่าน
- ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับรถยนต์และชิ้นส่วนที่ไม่ได้ผลิตในอเมริกา ส่งผลให้วงการรถยนต์สหรัฐฯ ปั่นป่วน
- กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ใหญ่ เช่น GM, Toyota, VW, Hyundai และอื่น ๆ รวมตัวส่งจดหมายเตือนไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า
- จะกระทบห่วงโซ่อุปทาน
- ราคารถสูงขึ้น
- ยอดขายตก
- งานหาย ซัพพลายเออร์เสี่ยงล้มละลาย
- Volvo ปลดพนักงานหลายร้อยคนแล้ว
- บริษัทรถบางรายหยุดนำเข้าชิ้นส่วน
- จดหมายส่งถึงรัฐมนตรีคลัง พาณิชย์ และผู้แทนการค้า
- ยังไม่ชัดว่าทรัมป์จะยอมถอยหรือไม่ แต่เคยบอกว่าอาจช่วยผ่อนปรนให้บางบริษัทมีเวลาปรับตัว
ในวันที่โดนัลด์ ทรัมป์ เรียกว่า “วันปลดปล่อย” (Liberation Day) เขาได้ประกาศใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ทุกชิ้นที่ไม่ได้ผลิตในอเมริกา ไม่ว่าจะมาจากประเทศใดก็ตาม โดยกำหนดอัตราภาษีไว้สูงถึง 25% ส่งผลสะเทือนต่อวงการยานยนต์อย่างรุนแรง และทำให้กลุ่มล็อบบี้หลายกลุ่มรวมพลังกันส่งจดหมายเตือนไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ
กลุ่มเหล่านี้เตือนว่า มาตรการดังกล่าวอาจทำให้บริษัทและแรงงานตกอยู่ในความเสี่ยงสูงระดับเดียวกับช่วงที่เกิดโควิด-19 อีกครั้ง
จดหมายดังกล่าวลงนามโดยองค์กรยานยนต์ใหญ่ ๆ เกือบทุกเจ้าในอเมริกา เช่น General Motors, Toyota, Volkswagen, Hyundai และอีกมากมาย
ใจความในจดหมายระบุว่า
“ภาษีต่อชิ้นส่วนยานยนต์จะทำให้ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกยุ่งเหยิง เกิดผลกระทบต่อเนื่อง ทำให้ราคารถยนต์สูงขึ้น ยอดขายที่โชว์รูมลดลง การซ่อมและบำรุงรักษาจะมีราคาแพงขึ้นและไม่แน่นอน”
อีกช่วงหนึ่งของจดหมายระบุว่า
“ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ส่วนใหญ่ไม่มีทุนหมุนเวียนมากพอจะรับมือกับวิกฤตแบบฉับพลัน หลายรายกำลังประสบปัญหาอยู่แล้ว และอาจต้องหยุดการผลิต ปลดพนักงาน หรือแม้กระทั่งล้มละลาย การที่ซัพพลายเออร์รายใดรายหนึ่งล้มลงก็อาจทำให้สายการผลิตของผู้ผลิตรถยนต์ทั้งระบบต้องหยุดชะงักได้ ซึ่งเราเคยเห็นมาแล้วตอนช่วงโควิด-19”
กลุ่มพันธมิตรในครั้งนี้ประกอบด้วยองค์กรสำคัญ เช่น
- National Automotive Dealers Association
- Alliance for Automotive Innovation
- Motor & Equipment Manufacturers Association และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมแล้วเป็นตัวแทนของผู้ผลิตรถยนต์เกือบทุกเจ้าที่มีฐานการผลิตในอเมริกา ยกเว้น Tesla
Carla Bailo ซีอีโอของ ECOS Consulting LLC และอดีตประธานศูนย์วิจัยยานยนต์แห่งอเมริกา กล่าวว่า
“ปกติองค์กรเหล่านี้จะออกแถลงการณ์แยกกัน แต่ครั้งนี้ผลกระทบมันรุนแรงมาก ไม่ว่าจะสายอะไหล่หรือโรงงานผลิตหลัก การรวมตัวกันแบบนี้ส่งผลได้มากกว่า — เพราะมีพลังมากกว่าเมื่อพูดเป็นเสียงเดียวกัน”
จดหมายถูกส่งไปยัง
- รัฐมนตรีคลัง Scott Bessent
- รัฐมนตรีพาณิชย์ Howard Lutnick
- ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ Jamieson Greer
ยังไม่แน่ชัดว่าทรัมป์จะตอบสนองต่อจดหมายนี้อย่างไร แต่ก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าวว่า
“เรากำลังดูมาตรการช่วยเหลือบริษัทผลิตรถบางราย เพราะหลายบริษัทต้องเปลี่ยนมาใช้ชิ้นส่วนจากแคนาดา เม็กซิโก และที่อื่น ๆ และพวกเขาต้องการเวลาเล็กน้อย เพื่อจะได้เปลี่ยนกลับมาผลิตในอเมริกา”
หากทรัมป์ไม่ยอมผ่อนปรน อาจเกิดผลลัพธ์ที่น่าจับตา บางบริษัทเริ่มหยุดนำเข้าชิ้นส่วนมาสหรัฐฯ แล้ว ขณะที่บางเจ้าก็ประกาศชัดว่าจะยังไม่ขึ้นราคารถ…แต่ทำได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น Volvo ถึงขั้นปลดพนักงานหลายร้อยคนแล้ว ส่วนราคาขายปลีกของรถยนต์หลายรุ่นก็เริ่มขยับขึ้นอย่างชัดเจนแล้วเช่นกัน.