ทรัมป์กลับลำ! เตรียมถอดภาษีนำเข้ารถ 25% “ผมไม่เปลี่ยนใจ…แต่ผมยืดหยุ่นได้”

ทรัมป์กลับลำ! เตรียมถอดภาษีนำเข้ารถ 25% “ผมไม่เปลี่ยนใจ…แต่ผมยืดหยุ่นได้”
Spread the love

Advertisement

Advertisement

สรุปก่อนอ่าน

  • ทรัมป์เผยว่าสหรัฐฯ อาจยกเลิกภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% เพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น แม้จะยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าจะยกเลิกเมื่อไหร่ หรือประเทศใดจะได้ประโยชน์ แต่ถือเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลอาจเริ่มตอบสนองต่อแรงกดดันจากค่ายรถยนต์และกลุ่มอุตสาหกรรม
  • อย่างไรก็ตาม การย้ายฐานการผลิตกลับสหรัฐฯ ใช้เวลาหลายปี และอาจเกิดขึ้นเฉพาะช่วงเปลี่ยนโฉมรถเท่านั้น ขณะนี้ BMW กำลังพิจารณาเพิ่มกำลังผลิตในโรงงาน Spartanburg อีก 80,000 คันต่อปี ส่วนจะมีการยกเลิกภาษีจริงหรือไม่ ต้องรอติดตามความชัดเจนจากทำเนียบขาวต่อไป

สัญญาณล่าสุดว่า “ทำไปก่อน ค่อยว่ากัน” จากทำเนียบขาว — ทรัมป์บอกอาจยกเลิกภาษีนำเข้ารถยนต์ 25%

ในสัญญาณล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าทำเนียบขาวกำลัง “เล่นตามสถานการณ์” ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาแนะว่า สหรัฐฯ อาจยกเลิกภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ซึ่งภาษีดังกล่าวได้ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นราคารถยนต์ การหยุดสายการผลิต และถึงขั้นมีรายงานว่า Volvo S90 ต้องยุติการผลิต

ตามรายงานของ Associated Press ทรัมป์ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขากำลัง “พิจารณาอะไรบางอย่างเพื่อช่วยผู้ผลิตรถยนต์บางราย” ในเรื่องของภาษีนำเข้า และเสริมว่า บรรดาค่ายรถ “ต้องการเวลาอีกสักหน่อย” ในการย้ายฐานการผลิตกลับมายังสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำตอบแน่ชัดว่า ภาษีนำเข้ารถยนต์จะถูกระงับเมื่อใด ประเทศใดจะได้ประโยชน์ และมาตรการผ่อนปรนนี้จะยาวนานแค่ไหน แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ที่กำลังเผชิญต้นทุนเพิ่มขึ้นเป็นพันดอลลาร์จากภาษีนี้

แม้จะเป็นการกลับลำอีกครั้ง แต่ทรัมป์กลับกล่าวว่า “ผมไม่เปลี่ยนใจนะ แต่ผมยืดหยุ่นได้” — แน่นอนว่าการย้ายฐานผลิตจากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่งนั้นใช้เวลาหลายปี และมักจะทำพร้อมกับการเปลี่ยนโฉมรุ่นรถใหม่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเกิดขึ้นทุก 8-10 ปี

ในระยะสั้น บริษัทต่างๆ อาจพยายามเพิ่มกำลังการผลิตในสหรัฐฯ เช่น BMW ที่กำลังพิจารณาขยายกำลังการผลิตที่โรงงานใน Spartanburg ให้เพิ่มขึ้นอีก 80,000 คันต่อปี

เราอาจจะได้รู้ข้อมูลเพิ่มเติมในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ดูเหมือนว่าแรงกดดันจากผู้ผลิตรถยนต์และกลุ่มอุตสาหกรรมจะเริ่มส่งผลต่อทำเนียบขาวแล้ว อย่างไรก็ตาม คำถามใหญ่คือ “ทรัมป์จะทำตามที่พูดจริงไหม?” — อันนี้ต้องรอดูกันต่อไป

เหตุผลหลักที่ ต้องพิจารณายกเลิกภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% มีหลายข้อที่ทั้งเชิงเศรษฐกิจและการเมือง

ราคารถพุ่ง คนซื้อสะอึก

  • ภาษี 25% ทำให้ราคารถนำเข้าเพิ่มขึ้นหลายพันดอลลาร์

  • คนซื้อเจ็บตัว ค่ายรถขายยาก ยอดตก

  • ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ต้องจ่ายแพงกว่าเดิม ทั้งที่เศรษฐกิจยังฟื้นไม่เต็มที่

ค่ายรถเริ่มลำบาก สายการผลิตบางแห่งหยุดชั่วคราว

  • ค่ายอย่าง Volvo ต้องยุติการผลิต S90

  • ค่ายอื่นๆ เริ่มคิดหนักว่าจะอยู่ต่อหรือหนีไปลงทุนที่อื่นดี

  • ภาษีที่ตั้งใจ “ปกป้อง” กลับกลายเป็น “ผลัก” การผลิตออกนอกประเทศ

สร้างปัญหากับประเทศคู่ค้า

  • การตั้งกำแพงภาษีอาจกระตุ้น สงครามการค้า กับชาติอื่น เช่น EU, ญี่ปุ่น ฯลฯ

  • ประเทศที่โดนภาษีอาจตอบโต้ด้วยการตั้งภาษีกลับ (อย่างกับตีปิงปอง…แต่แพง!)

การย้ายฐานผลิตกลับอเมริกาไม่ได้ง่ายแบบสั่ง Amazon

  • ทรัมป์อยากให้ค่ายรถกลับมาผลิตในสหรัฐฯ แต่การเปลี่ยนโรงงานไม่ใช่เรื่องวันสองวัน

  • การตั้งโรงงานใหม่ใช้เวลา 5-10 ปี หรือมากกว่านั้น

  • แถมบางเทคโนโลยีก็ยังต้องพึ่งซัพพลายเชนจากต่างประเทศ

เลือกตั้ง เสียงประชาชนมีความหมาย

  • การกดราคาสินค้าและทำให้ประชาชน “รู้สึกดี” เป็นเรื่องสำคัญช่วงหาเสียง

  • ถ้าทำให้ราคารถถูกลงได้ ก็อาจช่วยเพิ่มคะแนนนิยมในบางกลุ่ม

apnews

Advertisement

Advertisement
Thailand Web Stat

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้