3 MINI MPV ยืนยันขายไทยต้นปีนี้ 2022
ใยปี 2022 ดูเหมือนว่ากลุ่มรถยนต์ประเภท MINI MPV เริ่มทยอยมีข่าวเปิดตัวมากขึ้น โดยเฉพาะ 3 MINI MPV ที่มีข่าวออกมาคราวๆ สำหรับการเปิดตัว ได้แก่ Mitsubishi Xpander ปรับปรุงใหม่ , TOYOTA AVANZA โมเดลเชนจ์ , HONDA BR-V เจนที่ 2
สำหรับ SUZUKI Ertiga มีข่าวว่าจะเปิดตัวภายในปีนี้ แต่ยังไม่ยืนยันชัดเจน รวมทั้ง HONDA Mobilio ก็เงียบอย่างมาก TOYOTA Sienta ปรับโฉมล่าสุดปี 2019 ต้องรอลุ้นว่าปีนี้จะมีอะไรเซอร์ไพรส์หรือเปล่า
3 MINI MPV ยืนยันขายไทยต้นปีนี้
- Mitsubishi Xpander ปรับปรุงใหม่
- TOYOTA AVANZA/Veloz โมเดลเชนจ์
- HONDA BR-V เจนที่ 2
HONDA BR-V เจนที่ 2
Honda BR-V จัดอยู่ในตำแหน่ง subcompact crossover SUV หรือ B-SUV เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559 โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ V และ SV V แม้ว่าปัจจุบัน ฮอนด้าไม่ได้นำออกจากเว็บไซต์ แต่ตอนนี้ไม่ได้จำหน่ายแล้ว
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2564 HONDA BR-V เจนที่ 2 เปิดตัวในประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้การออกแบบจากต้นแบบ N7X ยกระดับการออกแบบ และ ความปลออดภัย Honda Sensing Active Safety System พร้อมกล้อง Honda LaneWatch
ปัจจุบัน HONDA BR-V กำลังอยู่ในระหว่างเดินเครื่องการผลิต และ พร้อมวางจำหน่ายในอินโดนีเซีย ช่วงต้นมกราคม 2565
สำหรับประเทศไทย เราจะได้เห็น NEW HONDA BR-V ใหม่เช่นกัน คาดว่าน่าจะตามมาอีก 2-3 เดือนหลังจากขายในอินโดนีเชีย ด้วยการนำเข้าทั้งคัน
Honda BR-V อินโดนีเชีย มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ราคาจำหน่าย 275,900,000 – 339,900,000 รูเปียห์อินโดฯ หรือประมาณ 645,000 – 795,000 บาท
NEW HONDA BR-V เจนที่ 2 มาพร้อมความจุภายในห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง พัฒนาต่อยอดจากโมเดลต้นแบบ New 7 Seater eXcitement (N7X)
All New Honda BR-V ได้รับการออกแบบมาเพื่อผสมผสานการออกแบบและความทนทานของ SUV ความสะดวกสบายของ MPV พร้อม Honda SENSINGTM, Honda LaneWatchTM, Remote Engine Start, Walk-Away Auto Lock และระบบ Smart Entry
รูปลักษณ์ภายนอกของ เน้นความกระซับมากขึ้น กระจังหน้าคล้ายๆ HR-V กันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างกลางวัน LED ไฟท้ายแบบ Combi ล้อขนาด 17 นิ้วใหม่
ภายในห้องโดยสารจุได้ 7 ที่นั่ง แผงหน้าปัดแบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว แสดงข้อมูลต่างๆ ระหว่างขับขี่ เช่น ฟังก์ชั่น Honda SENSINGTM หน้าจอสัมผัสส่วนกลางขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี
ที่วางแขนแถวที่ 1 และ ที่พักแขนเบาะแถวที่ 2 สำหรับ แถว 2 – 3 สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไฟ 12V ช่องเก็บของด้านหลังมีกระเป๋าหลายช่อง ภายในมีที่วางแก้ว 8 ตำแหน่ง เบาะแถว 3 พับได้ 50/50
เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ให้มีกำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ CVT และเกียร์ธรรมดา MT ใหม่มาตรฐานการปล่อยไอเสียตามมาตรฐาน EURO 4
พร้อมคุณสมบัติขั้นสูง เช่น
- Remote Engine Start ซึ่งทำหน้าที่สตาร์ทเครื่องยนต์ และ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ
- Walk-Away Auto Lock เพื่อล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อผู้ขับขี่เดินจากรถอย่างน้อย 2 เมตรขึ้นไป
- Honda LaneWatchTM มุมมองที่กว้างขึ้นของพื้นที่จุดบอด
- Smart Entry System ระบบสมาร์ทคีย์ จะช่วยในการปลดล็อคประตู โดยไม่ต้องใช้กุญแจ
- กระจกมองข้างพับอัตโนมัติพร้อมไฟเลี้ยว LED ซึ่งกระจกสามารถปิดอัตโนมัติเมื่อรถถูกล็อค
Honda SENSINGTM
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถหยุด และ รถด้านหน้าเริ่มเคลื่อนออก (LCDN)
- ระบบช่วยเมื่อมีความเป็นไปได้ที่รถจะชนวัตถุด้านหน้า Collision Mitigation Brake SystemTM (CMBSTM)
- ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (LKAS)
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกนอกเลน Road Departure Mitigation (RDM)
- ระบบที่ช่วยควบคุมความเร็วในการขับขี่อัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC)
- ปรับไฟหน้าสูงอัตโนมัติ Auto-High Beam
นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัย ABS + EBD ISOFIX + Tether ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA), ระบบช่วยทรงตัว (VSA) Immobilizer, ระบบเตือนภัย, Pretensioner พร้อม Load Limiter Seatbelt ถุงลมนิรภัยด้านข้างและเซ็นเซอร์จอดรถ
ฺมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาวโอปอลพรีเมียม (มุก) ซึ่งเป็นสีใหม่ สีขาวทาฟเฟต้า สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก)
Mitsubishi Xpander ไมเนอร์เช้นจ์
Mitsubishi Xpander Minorchange พร้อมเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการเดือนมีนาคม 2022 คาดว่าน่าจะช่วงใกล้ๆ Motor Show 2022 พร้อมเพิ่มเบรกมือไฟฟ้า เกียร์อัตโนมัติ CVT อัตราเร่งดีกว่าเดิม ใหม่ นำเข้าจากอินโดนีเซีย เหมือนเดิม
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
- ดีไซน์กันชนหน้า และ กระจังหน้าใหม่
- ใหม่ ไฟหน้า LED รูปตัว T
- ล้ออัลลอยด์ทูโทน 17 นิ้ว ใหม่
- ไฟท้ายดีไซน์ใหม่พร้อมไฟท้ายรูปตัว T
- แดชบอร์ดการออกแบบแกนแนวนอนพร้อมวัสดุแผ่นนุ่ม
- หน้าปัดออกแบบใหม่
- คิ้วขอบประตูแบบใหม่ ผัสนุ่ม เดินด้ายสีพื้นไม้
- หน้าจอสัมผัสใหม่ขนาด 8 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน
- แอร์ดิจิตอล
- มีที่วางแก้วที่ที่พักแขนด้านหลัง รวมช่องต่อ USB Type-A และ Type-C
- เพิ่มที่วางแก้วบริเวณที่พักแขน สำหรับแถวที่สอง
- เบรกไฟฟ้า Auto Brake Hold
- เกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่
- Cruise Control
การเปลี่ยนแปลงรอบคันก็น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะกระจังหน้าสีดำใหม่ ไฟหน้าแบบ T-Shaped ซึ่งมีโปรเจ็กเตอร์ LED ไฟตัดหมอกใหม่ กันชนหน้าออกแบบใหม่ ล้ออัลลอยลายใหม่ที่สปอร์ตมากขึ้น ไฟท้ายใหม่รูปตัว T กันชนหลังออกแบบใหม่ มีการเพิ่มความสูงรถ 15-20 มม.
ใหม่ สีเงิน Blade Silver Metallic ขาวมุก Quartz White Pearl, สีเทา Graphite Grey Metallic, สีดำ Jet Black Mica, สีแดง Red Metallic และ สีน้ำตาล Deep Bronze Metallic
เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ MIVEC DOHC 16 วาล์ว พละกำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที แต่เปลี่ยนระบบส่งกำลังจากเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดเป็น เกียร์อัตโนมัติ CVT
รวมทั้งระบบความปลอดภัยเหมือนเดิมถุงลมนิรภัยคู่ ABS + EBD, VSC, HSA, ESS เป็นต้น
TOYOTA AVANZ/Veloz
ภาพดังกล่าวเป็นทางการทดสอบวิ่ง NEW AVANZA ใหม่ ด้วยการนำ Veloz มาทดสอบวิ่งในไทย คาดว่าเวอร์ชั่น Veloz จำหน่ายในประเทศไทยอย่างแน่นอน สำหรับใครที่รอ โปรดติดตามรายละเอียดสเปคในไทยเร็วๆนี้
Toyota Avanza พร้อมเปิดตัวในไทยเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ติดตั้งเบนซิน 1.5 CVT ด้วยการนำ Veloz มาขาย หลังจากเปิดตัวในอินโดนีเชียเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา 2 รูปแบบ คือ Toyota Avanza และ Toyota Veloz สำหรับการจำหน่ายนำเข้าจากอินโดนีเซีย ใช้สิทธิภาษีนำเข้า AFTA 0 %
Toyota Veloz MPV ที่ใช้พื้นฐานเดียวกับ TOYOTA AVANZA บนสถาปัตยกรรม TNGA ของ Toyota
Veloz เน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์ ด้วยการตกแต่งแบบ Crossover พร้อมกันชนหน้า-หลัง สเกิร์ตข้างสีดำ ล้ออัลลอย 16-17 นิ้ว ยางขนาด 205/50 R17
ขนาดตัวถัง Veloz
- ยาว 4,475 มม.
- กว้าง 1,750 มม.
- สูง 1,700 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,750 มม.
ภายในห้องโดยสาร TOYOTA Veloz มาพร้อมเบาะพับที่หลากหลาย ทั้งพับในตำแหน่งโซฟา หรือ พับเรียบก็ได้ ระบบปรับอากาศ Dual Zone มาตรวัดดิจิตอล TFT 7 นิ้ว หน้าจอสัมผัสส่วนกลาง 9 นิ้วรองรับ Bluetooth และระบบการเชื่อมต่อ T-Intouch เรารู้จักกันในชื่อ T-Connect นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ
เครื่องยนต์เบนซินรหัส 2NR-VE 4 สูบแถวเรียง 1.5 ลิตร 1,496 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 72.5 x 90.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1 ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 137 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และ เกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Front Departure Alert
- ระบบเตือนรถที่มาจากด้านหลัง Rear Cross Traffic Alert
- ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Monitoring
- ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิด Pedal Miss operation Control
- ระบบช่วยออกตัวจากทางลาดชัน Hill Start Assist
- ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ Vehicle Stability Control
- ระบบเตือนการชนและช่วยเบรก Pre-Collision Warning & Braking
- ระบบเตือนและป้องกันรถออกจากเลน Lane Departure Warning & Prevention