งดเดินทาง ข้ามจังหวัด ทั่วประเทศ เว้นมีเหตุจำเป็น
ราชกิจจาฯ ประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรการ 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 5) ห้ามออกจากเคหะสถาน 22.00-04.00 น. ห้ามจัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ให้ผู้ที่เดินทางเข้าราชอาณาจักร ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ปฎิบัติตามเงื่อนไขตามกำหนดของศบค.ให้ผู้ที่มีความเสี่ยงกักตัวเพื่อเฝ้าสังเกตอาการ ให้ผู้ว่ากทม.ปิดจุดเสี่ยงสถานบันเทิง ห้าง คลินิก บ่อน อาบอบนวด และอื่นๆ ตามที่เคยประกาศไว้
และให้ชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่มีความจำเป็น ซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ทั้งต้องรับการตรวจคัดกรอง และปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดอันอาจทำให้การเดินทางต้องใช้เวลามากกว่าปกติ และไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.2563 เป็นต้นไป
สำหรับประกาศราชกิจจานุเบกษาที่ประกาศในวันนี้ (1 พฤษภาคม 2563) ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 5 มีข้อห้ามดังนี้
1.ห้ามออกจากเคหสถาน 22.00 น.-04.00 น.
2.ห้ามหรือข้อจำกัดการดำเนินการหรือการทำกิจกรรมบางอย่างต่าง พรก. และกฏหมายที่เกี่ยวข้อง
3.ห้ามใช้อาคารสถานที่และสถาบันการศึกษา ห้ามจัดการเรียนการสอน
4.ห้ามจัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วม่จำนวนมาก เช่นการประชุม สัมมนา แจกอาหาร จัดเลี้ยง
5.ห้ามใช้ท่าอากาศยาน เพื่อการขึ้น-ลง
6.ให้ผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรทางบก น้ำ อากาศ ปฏิบัติตามเงื่อนไข ที่กำหนดโดย ศบค.
7.ให้ผู้ซึ่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ สั่งให้แยกกัก กักกัน คุมตัวไว้สังเกต ณ ที่เอกเทศ
8.ให้ผู้ว่ากทม.ปิดจุดเสี่ยง สถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า คลินิก บ่อน อาบ อบนวด และอื่นๆ ตามที่เคยประกาศไว้
9.การปฏิบัติศาสนกิจหรือศาสนพิธีในวันสำคัญทางศาสนา ให้เป็นไปตามดุลพินิจของผู้ดูแลสถานที่
10.ให้ประชาชนงด หรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่มีความจำเป็น ซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป