ยอดขายรถยนต์ในไทย กันยายน 2566 รวม 60,234 คัน
ยอดขายรถยนต์ในไทยที่ผ่านมา
- ยอดขายเดือนกันยายน 2566 ทั้งหมด 62,086 คัน
- ยอดขายเดือนสิงหาคม 2566 ทั้งหมด 60,234 คัน
- ยอดขายเดือนกรกฏาคม 2566 ทั้งหมด 58,419 คัน
- ยอดขายเดือนมิถุนายน 2566 ทั้งหมด 64,440 คัน
- ยอดขายเดือนพฤษภาคม 2566 ทั้งหมด 65,088 คัน
- ยอดขายเดือนเมษายน 2566 ทั้งหมด 59,530 คัน
- ยอดขายเดือนมีนาคม 2566 ทั้งหมด 79,943 คัน
- ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ทั้งหมด 71,551 คัน
- ฃยอดขายเดือนมกราคม 2566 ทั้งหมด 65,579 คัน
- ยอดขายเดือนธันวาคม 2565 ทั้งหมด 82,799 คัน
- ยอดขายเดือนพฤศจิกายน 2565 ทั้งหมด 68,284 คัน
- ยอดขายเดือนตุลาคม 2565 ทั้งหมด 64,618 คัน
- ยอดขายเดือนกันยายน 2565 ทั้งหมด 74,150 คัน
- ยอดขายเดือนสิงหาคม 2565 ทั้งหมด 68,208 คัน
- ยอดขายเดือนกรกฏาคม 2565 ทั้งหมด 64,033 คัน
- ยอดขายเดือนมิถุนายน 2565 ทั้งหมด 67,952 คัน
- ยอดขายเดือนพฤษภาคม 2565 ทั้งหมด 64,735 คัน
- ยอดขายเดือนเมษายน 2565 ทั้งหมด 63,427 คัน
- ยอดขายเดือนมีนาคม 2565 ทั้งหมด 87,245 คัน
- ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ทั้งหมด 74,489 คัน
- ยอดขายเดือนมกราคม 2565 ทั้งหมด 69,455 คัน
ยอดขายเดือน กันยายน 2566 รวม 62,086 คัน
- TOYOTA – 21,041 คัน
- ISUZU – 10,898 คัน
- HONDA – 9,113 คัน
- FORD – 2,948 คัน
- MG – 2,427 คัน
- Mitsubishi – 2,109 คัน
- NISSAN – 1,303 คัน
- MAZDA – 1,247 คัน
- GWM – 1,031 คัน
- NETA – 954 คัน
- Hino – 848 คัน
- SUZUKI – 786 คัน
- HYUNDAI – 515 คัน
- Subaru – 125 คัน
- KIA – 125 คัน
- Lexus – 100 คัน
- CP-FOTON – 62 คัน
- Peugeot – 42 คัน
- SsangYong – 1 คัน
- บางรุ่นที่ยอดขายไม่มี ไม่ใช่ว่าขายไม่ได้เพียงแต่ยังไม่มีข้อมูล ในเดือนนั้น
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2566 ด้วยยอดขาย 62,086 คัน ลดลง 16.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่รถยนต์นั่งยังเติบโตต่อเนื่องด้วยยอดขาย 25,425คัน เติบโต 10.4% ส่วนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องด้วยยอดขาย 36,661 คัน ลดลง 28.3% โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ ชะลอตัวอย่างหนักด้วยยอดขาย 23,343 คัน ลดลง 43.6%
ประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์
ตลาดรถยนต์กันยายนชะลอตัวต่อเนื่อง 16.3% ด้วยยอดขาย 62,086 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งยังเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 10.4% ด้วยยอดขาย 25,425 คัน เป็นผลมาจากการเติบโตของเซกเมนต์อีโคคาร์ด้วยยยอดขาย 15,368 คัน ในขณะที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวที่ 28.3% ด้วยยอดขาย 36,661 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน หดตัวถึง 43.6% ด้วยยอดจำหน่าย 23,343 คัน จากการชะลอการตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่องของภาคประชาชน และภาคธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจขนส่ง อันเป็นผลมาจากภาพรวมทางเศรษฐกิจ ที่ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว โดยมีอุปสรรคสำคัญคือความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ที่มีความกังวลต่อหนี้เสียอันเป็นผลต่อเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา
ตลาดรถยนต์ตุลาคมเดินหน้าเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นส์ไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งค่ายรถยนต์ต่างทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ พร้อมด้วยแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อหวังกระตุ้นยอดขาย อย่างไรก็ตามความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการขยายตัวของตลาดรถยนต์ต่อไป
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกันยายน 2566
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 62,086 คัน ลดลง 16.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 21,141 คัน ลดลง 7.9 % ส่วนแบ่งตลาด 34.1%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 10,898 คัน ลดลง 49.5% ส่วนแบ่งตลาด 17.6%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 9,113 คัน เพิ่มขึ้น 34.2% ส่วนแบ่งตลาด 14.7%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 25,425 คัน เพิ่มขึ้น 10.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,922 คัน เพิ่มขึ้น 34.4% ส่วนแบ่งตลาด 39.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 4,212 คัน ลดลง 29.3% ส่วนแบ่งตลาด 16.6%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,083 คัน ลดลง 39.6% ส่วนแบ่งตลาด 4.3%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 36,661 คัน ลดลง 28.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,219 คัน ลดลง 28.0% ส่วนแบ่งตลาด 30.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 10,898 คัน ลดลง 49.5% ส่วนแบ่งตลาด 29.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,901 คัน เพิ่มขึ้น 489.1% ส่วนแบ่งตลาด 13.4%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 23,343 คัน ลดลง 43.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,547 คัน ลดลง 27.9% ส่วนแบ่งตลาด 40.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 9,298 คัน ลดลง 54.0% ส่วนแบ่งตลาด 39.8%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,946 คัน ลดลง 41.2% ส่วนแบ่งตลาด 12.6%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,229 คัน
โตโยต้า 1,607 คัน – อีซูซุ 1,343 คัน – ฟอร์ด 936 คัน – มิตซูบิชิ 255 คัน – นิสสัน 88 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 19,114คัน ลดลง 45.0%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 7.955 คัน ลดลง 56.9% ส่วนแบ่งตลาด 41.6 %
อันดับที่ 2 โตโยต้า 7,940 คัน ลดลง 23.6% ส่วนแบ่งตลาด 41.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,010 คัน ลดลง 44.2% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – กันยายน 2566
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 586,870 คัน ลดลง 7.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 199,292 คัน ลดลง 4.5% ส่วนแบ่งตลาด 34.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 120,294 คัน ลดลง 26.5% ส่วนแบ่งตลาด 20.5%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 69,882 คัน เพิ่มขึ้น 14.t0% ส่วนแบ่งตลาด 11.9%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 219,668 คัน เพิ่มขึ้น 9.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 77,357 คัน เพิ่มขึ้น 316% ส่วนแบ่งตลาด 35.2%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 43,907 คัน ลดลง 4.5% ส่วนแบ่งตลาด 20.0%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 12,676 คัน ลดลง 22.5% ส่วนแบ่งตลาด 5.8%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 367,202 คัน ลดลง 15.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 121,935 คัน ลดลง 18.6% ส่วนแบ่งตลาด 33.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 120,294 คัน ลดลง 26.5% ส่วนแบ่งตลาด 32.8%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 25,975 คัน เพิ่มขึ้น 69.8% ส่วนแบ่งตลาด 7.1%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 255,899 คัน ลดลง 24.7%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 108,158 คัน ลดลง 28.4% ส่วนแบ่งตลาด 42.53%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 100,193 คัน ลดลง 22.4%ส่วนแบ่งตลาด 39.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 28,773 เพิ่มขึ้น 2.1% ส่วนแบ่งตลาด 11.2%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 47,230 คัน
โตโยต้า 17,192 คัน – อีซูซุ 16,549 คัน – ฟอร์ด 9,270คัน – มิตซูบิชิ 3,293 คัน – นิสสัน 926 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 208,669 คัน ลดลง 28.9%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 91,609 คัน ลดลง 33.1% ส่วนแบ่งตลาด 43.9%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 83,001 คัน ลดลง 23.9% ส่วนแบ่งตลาด 39.8%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 19,503 คัน ลดลง 14.0 ส่วนแบ่งตลาด 9.3%
https://www.car250.com/new-2023-ppv-sale-05.html
https://www.car250.com/sale-pickup-2023-04.html