New Nissan Kicks e-POWER ชุดแต่งพิเศษ AUTECH
New Nissan Kicks e-POWER เผยภาพชุดแต่งพิเศษภายใต้แบรนด์ AUTECH ชุดแต่งปรับปรุงใหม่ทั้งหมดในวันที่ 16 ธันวาคม 2020 พร้อมวางจำหน่ายในเดือนมกราคมปี 2021
New Nissan Kicks e-POWER AUTECH ติดตั้งสัญลักษณ์พิเศษ AUTECH สีน้ำเงินที่ภายนอกและภายใน มีให้เลือกทั้งสุโทนน้ำเย็น-ดำ อันเป็นเอกลักษณ์ของ Autech
กรอบไฟตัดหมอกใหม่ เข้มแผ่นกันรอยหน้าสีเงิน ผ่นกันรอยด้านหลังสีเงิน สัญลักษณ์ AUTECH ด้านหน้า / ด้านหลัง ล้ออัลลอยใหม่ ติดตั้งไฟหน้า LED ระบบไฟหน้า Adaptive LED ไฟตัดหมอก LED
พวงมาลัยหุ้มหนังแท้พิเศษ ดำเดินด้ายน้ำเงิน ที่เท้าแขนกลางด้านหน้าเดินด้ายน้ำเงิน (กล่องคอนโซลกลาง) (ตะเข็บสีน้ำเงิน) ที่เท้าแขนทำจากหนังสังเคราะห์เฉพาะ เดินด้ายน้ำเงิน สัญลักษณ์ AUTECH บริเวณคอนโซลกลาง
NISSAN KICKS ได้รับรางวัล RJC Technology of the Year (เทคโนโลยียอดเยี่ยมแห่งปี) ในประเทศญี่ปุ่นด้วยขุมพลัง e-POWER ใหม่
- RJC Car of the Year หรือ RJC สมาคมนักวิจัยยานยนต์และผู้สื่อข่าวของญี่ปุ่น องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1990 ซึ่งประกอบด้วยนักวิจารณ์และนักข่าวยานยนต์ในญี่ปุ่น
- เครื่องยนต์ e-POWER เวอร์ชั่นอัพเกรด จาก Nissan Kicks
- ระบบความปลอดภัย EyeSight / EyeSight X จาก Subaru Levorg
- เครื่องยนต์ SKYACTIV-X 2.0 ลิตร จาก Mazda CX-30 / Mazda 3
- การออกแบบเสา A แบบบางเฉียบเพิ่มการมองเห็นมากขึ้น จาก Honda Fit
- ระบบเกียร์ CVT เวอร์ชั่นอัพเกรด จาก Suzuki Hustler
- แพล็ตฟอร์ม TNGA GA-B จาก Toyota Yaris / Yaris Cross
- จอแสดงผลรอบคอนโซลแบบ Wide vision จาก Honda e
- ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ จาก Toyota Yaris / Yaris Cross
- เครื่องยนต์ 1.8 ลิตรเทอร์โบเวอร์ชั่นอัพเกรดจาก Subaru Levorg
- ไฮบริด e-SKYACTIV G จาก Mazda MX-30
- เครื่องยนต์ 35TFSI จาก Audi A1 Sportback
- พื้นฐาน CMF-B จาก Renault Lutecia
- กระจกมองหลังอัจฉริยะแบบปรับลดแสง พร้อมกล้องส่องภาพภายนอก จาก Nissan Kicks
Bestcarweb.jp เว็บรถยนต์ชื่อดังในประเทศญี่ปุ่นได้เผยยอดขายของ Nissan Kicks e-POWER ในประเทศญี่ปุ่น ยังคงส่งมอบรถยนต์ Kicks e-Power ได้ช้า นับตั้งแต่เปิดตัว 24 มิถุนายน 2020 ถึง พฤศจิกายน ยอดจองสะสม 18,000 คัน
อย่างไรก็ตาม NISSAN ให้ความสำคัญกับการส่งมอบ และปรุบปรุงวันส่งมอบใหม่ เพราะทางนิสสัน สามารถผลิต Kicks e-POWER ได้เดือนละ 3,000 คัน และในเดือนพฤศจิกายน จะขยายเป็น 5,000 คัน ทำให้ช่วยลดระยะเวลาส่งมอบลดลง
ถึงอย่างนั้นยอดจองสะสมกว่า 18,000 คัน ทำให้นิสสัน ต้องขยายเวลาถึง กุมภาพันธ์ 2020 และต้องขยายการผลิตเป็น 5,000 คันต่อเดือน เพื่อให้สามารถส่งมอบรถได้ภายในหนึ่งเดือนหลังจากได้รับคำสั่งซื้อ
ไม่แปลกใจที่ Nissan Kicks e-POWER ส่งช้าในประเทศญี่ปุ่น เพราะประเทศไทยส่งช้าเช่นกัน เพราะฐานประกอบใหญ่ของรุ่นนี้คือโรงงานในไทยจึงต้องใช้เวลาในการขนส่ง ทางทะเลไปญี่ปุ่นหนึ่งเดือน รวมถึง ชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์ล่าช้า เนื่องจากวิกฤติ COVID-19 ทำให้นิสสัน ผลิตรถล่าช้าด้วย
จากนั้นการตรวจสอบความสมบูรณ์ขั้นสุดท้ายจะดำเนินการที่โรงงานในญี่ปุ่นและรถจะถูกส่งไปยัง โชว์รูมอีก 2 สัปดาห์ ในการจดทะเบียนและส่งมอบ
Nissan Kicks e-Power ญี่ปุ่น ติดตั้งระบบเบรกฉุกเฉิน, ระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน ที่ติดตั้งในทุกรุ่นย่อย
” Asako Hoshino รองประธานบริหารของ บริษัท กล่าว “ มันเกิดจากความคิดที่ก้าวล้ำที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับ Nissan Intelligent Mobility – วิสัยทัศน์ของเราในการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อนำความตื่นเต้นมาสู่ชีวิตของผู้คนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
มี 2 รุ่นย่อยราคาจำหน่าย 2,759,900 – 2.869,900 เยน หรือประมาณ 797,000 – 829,000 บาท
รวมถึงสีเหลืองใหม่ Sunlight Yellow สีน้ำเงิน สีน้ำตาลเข้ม ที่คาดว่าจะวางจำหน่ายในญี่ปุ่น รวมถึงเกรดสูงสุดจะมีเทคโนโลยีอย่าง เบรกจอดรถไฟฟ้าและเบรกอัตโนมัติและเทคโนโลยี ProPilot
ขนาดตัวถัง
- ความยาวรวม 4,290 มม
- ความกว้างเต็ม 1,760 มม
- ความสูง 1,610 เมตร
- ระยะฐานล้อ 2,620 มม
ความจุช่องเก็บสัมภาระ สามารถโหลกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย รองรับถุงกอล์ฟ 9 นิ้ว 3 ใบ และกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ ได้อย่างสบาย
เครื่องยนต์ไม่ได้ต่างจากบ้านเรา
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร 1,198 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 78.0 x 83.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 5,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ (เครื่องยนต์ไม่มีหน้าที่ขับเคลื่อนส่งพละกำลังลงสู่ล้อ)
- +มอเตอร์ไฟฟ้า EM57 High Power กำลังสูงสุด 129 แรงม้า ที่ 3,008 – 10,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,008 รอบ/นาที แบตเตอรี่ Lithium-ion 1.57 kWh 4 Modules
- แป้นคันเร่งแบบ One-Pedal
- อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 23.8 กม./ลิตร