Advertisement

Advertisement

TESLA โชว์ระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ Full Self-Driving Beta v9 (VDO)

TESLA โชว์ระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ Full Self-Driving Beta v9 (VDO)
Spread the love

Advertisement

Advertisement

หลังจากที่ Elon Musk ได้ทวิตย้ำว่า ระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ Full Self-Driving Beta v9 จะมาเร็วๆนี้ ล่าสุดมีการปล่อยคลิป VDO แสดงให้เห็นความแม่นยำของเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติดังกล่าว

10 กรกฏาคม 2021 เป็นครั้งแรกของโลก Full Self-Driving Beta v9 ทำการทดสอบบนท้องถนนจริงๆ ในเวลากลางคืน ระบบขับขี่อัตโนมัติใหม่ล่าสุดแทบจะทำให้รถขับขี่ได้ด้วยตัวเอง 100% ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจออะไรแบบนี้

ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างมากสำหรับโลกของเรา นวัตกรรมขับขี่อัตโนมัติของ Tesla แสดงให้เห็นว่า คำสัญญาณของ Elon Musk เป็นจริง ไม่ใช้โม้ไปวันๆ “FSD Beta v9 is coming soon, I swear !”

เราต้องคอยติดตามกันอีกทีว่าเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ Full Self-Driving Beta v9 จะแม่นยำจริงๆ หรือไม่สำหรับการใช้งานจริงๆ และ ลูกค้าจริงๆ

นับตั้งแต่ Tesla เปิดตัว Autopilot ในปี 2015 มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 รายจากอุบัติเหตุ 9 ครั้งในสหรัฐอเมริกาที่เกี่ยวข้องกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ในระดับสากล มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 รายจากอุบัติเหตุเพิ่มเติมอีก 7 ครั้ง

Autopilot มี 5 ระดับ ได้แก่

  • ระดับ 1 จะมีระบบอัตโนมัติ ช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น การบังคับเลี้ยวหรือการเร่งและรักษาคุมความเร็วคงที่ รวมทั้งระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งสามารถควบคุมยานพาหนะไว้ในระยะที่ปลอดภัยต่ออุบัตเหตุ ซึ่งคุณสมบัติ Level 1 ยังต้องการวิจารณญาณของมนุษย์คนขับ ตรวจสอบการใช้ฟังก์ชั่นช่วยขับขี่ร่วมด้วย
  • ระดับ 2 จะมีระบบ ADAS หรือ Advanced Driver Assistance Systems ซึ่งเป็นระบบบังคับเลี้ยวอัตโนมัติคู่กับระบบความคุมอัตรเร่งและปรับความเร็วให้ทำงานประสานกันผ่านกลไกการควบคุมที่ซับซ้อน… ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทุกค่ายล้วนใส่เงินไปกับการวิจัยระบบ ADAS ต่อเนื่องมานาน ซึ่งระบบ ADAS ที่มีชื่อเสียงและสอบผ่านมาตรฐาน Level 2 รุ่นแรกๆ จนได้ทดสอบ
  • ระดับ 3 จะมีความสามารถในการตรวจจับสภาพแวดล้อม และสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเช่น การเร่งแซงรถที่ช้า แต่ระบบก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์ แม้มนุษย์ไม่ต้องเหยียบคันเร่งถือพวงมาลัย… แต่ผู้ขับขี่จะต้องตื่นตัวและพร้อมที่จะเข้าควบคุมทันทีหากระบบผิดพลาด ซึ่งส่วนใหญ่ระบบจะออกแบบให้ตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานอัตโนมัติตลอดเวลา และหาก Condition หรือเงื่อนไขการทำงานในระบบผิดพลาด… รถจะมีฟังก์ชั่นขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ติดมาด้วย
  • ระดับ 4 ไม่ต้องมีมนุษย์คอยช่วยเหลือในยามเข้าตาจนเหมือน Level 3 อีกเลย แม้จะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นทั้งในระบบและสภาพแวดล้อมภายนอก หรือแม้แต่เกิดขัดข้องขึ้น พาหนะ Level 4 ก็จะจัดการความผิดปกติและบกพร่องทั้งหลายได้เอง โดยพึ่งพาและปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ในฐานะผู้โดยสาร มากกว่าจะพึ่งพามนุษย์ในฐานะผู้ควบคุมปกป้องความผิดพลาด พาหนะ Level 4 สามารถทำงานในโหมดขับขี่ด้วยตนเอง หรือ Self-Driving Mode ได้อย่างสมบูรณ์
  • ระดับ 5 ไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ จากมนุษย์อีก เพราะระบบจะทำงาน Dynamic Driving Task เต็มประสิทธิภาพ เทียบเท่าระดับเดียวกับหรือดีกว่ามนุษย์ที่มีทักษะการขับรถยอดเยี่ยมที่สุด… พาหนะ Level 5 จึงไม่มีแม้แต่พวงมาลัย แป้นเหยียบคันเร่งและแป้นเบรก ทำให้พาหนะ Level 5 เป็น Fully Autonomous Cars ซึ่งเป็นเป้าหมายความสำเร็จของการพัฒนายานพาหนะบนผิวพื้นยุคต่อไป… ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า กฏหมายและโครงสร้างพื้นฐานของ Smart City

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้