Advertisement

Advertisement

KIA EV6 จดชื่อใหม่ EV6 Air / Eart / Light / Water ใช้ในยุโรป

KIA EV6 จดชื่อใหม่ EV6 Air / Eart / Light / Water ใช้ในยุโรป
Spread the love

Advertisement

Advertisement

KIA Motor ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า สำหรับ KIA EV6 โดยใช้ 4 ชื่อใหม่ได้แก่ EV6 Air / Eart / Light / Water

เรายังไม่ได้รับคำอธิบายใดๆ เกี่ยวกับชื่อดังกล่าว แต่คาดว่า ทั้งหมดเป็นเพียงการเล่นคำใหม่ เพื่อใช้ในการเรียกรุ่นย่อยของ KIA ให้รู้สึกรักษ์โลกมากขึ้น เพราะ EV6 คือรถยนต์ไฟฟ้าเรือธงตัวใหม่ของแบรนด์

ปัจจุบัน KIA EV6 จำหน่ายในยุโรปโดยใช้ชื่อ

  • EV6: from £40,895 หรือประมาณ 1.77 ลบ.
  • EV6 GT-line: from £43,895 หรือประมาณ 1.9 ลบ.
  • AWD version from £47,395 หรือประมาณ 2.05 ลบ.
  • EV6 GT-line S: from £48,395 หรือประมาณ 2.09 ลบ.
  • AWD version from £51,895 หรือประมาณ 2.25 ลบ.

หากใช้ชื่อเดิมๆ ภาพจำมันก็เดิมๆ KIA เลยวางกลยุทธ์ ใหม่ เรียกชื่อใหม่ที่แตกต่าง เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ คล้ายๆแบรนด์จีนที่เรียกชื่อรถตัวเองเป็นสัตว์ ผลไม้ ขนม และอื่นๆ

ภายใต้กลยุทธ์ทางธุรกิจ ‘Plan S’ ของ Kia บริษัท มีแผนจะเปิดตัวรุ่นไฟฟ้า 11 รุ่นภายในปี 2569 โดยใช้หลักการตั้งชื่อ EV1 ถึง EV9 ปลายเดือนมีนาคมปี 2021 Kia EV6 รุ่นแรกได้เปิดตัวและมียอดจองสะสม 33,000 คันทั้งเกาหลีใต้ และ ยุโรป

Kia EV6 มีกำหนดเปิดตัวช่วงปลายปีนี้ในออสเตรเลีย และจะมีโมเดลอื่นๆตามมาทีหลัง สำหรับบ้านเรามีลุ้นเปิดตัวเช่นกัน เพราะออสเตรเลียใช้พวงมาลัยขวาเหมือนบ้านเรา

EV6 ใช้ปรัชญาการออกแบบ“ Opposites United” ใหม่ของ บริษัท ผสานการออกแบบ และองค์ประกอบที่เรียบหรู

รูปลักษณ์ภายนอก กระจังหน้าแบบปิดเรียวขนาบข้างด้วยไฟหน้าแบบ LED ฝากระโปรงลาดเอียงสวยงาม เสา A ปิดทึบขยายเรือนกระจกให้มองเห็นทัศนวิสัยได้ชัดเจน สปอยเลอร์หลังลาดเอียงลงตัว ไฟหน้าแบบ LED ลากเชื่อมทั้งสองฝั่ง

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 4680 มม.
  • กว้าง 1880 มม.
  • สูง 1550 มม.
  • ฐานล้อ 2900 มม.

ภายในห้องโดยสารคอนโซลกลางแบบลอยตัว เน้นการหุ้มด้วยผ้าที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล เน้นตกแต่งด้วยสีเขียวเลม่อน ติดตั้งแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12 นิ้ว รวมพร้อมหน้าจอสัมผัสระบบบันเทิงส่วนกลาง พร้อมระบบ Kia Connect ที่ช่วยให้สามารถอัปเดต และ บริการแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาสถานีชาร์จใกล้เคียงได้อีกด้วย

ไฮไลท์อื่น ๆ ได้แก่ พวงมาลัย 2 ก้าน พร้อมสวิตซ์เกียร์ จอแสดงผลบรกระจกแบบ Augmented Reality ระบบเสียง Meridian 14 ลำโพง พร้อมเทคโนโลยี“ Active Sound Design” ซึ่งเป็นเครื่องกำเนิดเสียงเทียมที่ปรับให้เข้ากับความเร็วของรถ

ฐานล้อกว้างช่วยให้ภายในกว้างขวางและมีช่องเก็บสัมภาระที่รองรับสัมภาระได้มากถึง 520 ลิตร ที่สามารถขยายได้ประมาณ 1,300 ลิตร โดยการพับเบาะหลังลง

ระบบความปลอดภัย เช่น Lane Following Assist, Safe Exit Assist, Remote Smart Parking Assist และ Highway Driving Assist 2 รวมระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับอัตโนมัติ

สิ่งที่น่าสนใจคือแบตเตอรี่ช่วงมาตรฐาน 58 กิโลวัตต์ชั่วโมงซึ่งขับเคลื่อนมอเตอร์ที่ติดตั้งด้านหลังซึ่งให้กำลัง 168 แรงม้า (125 กิโลวัตต์ / 170 PS) และแรงบิด 258 ปอนด์ฟุต (350 นิวตันเมตร) ตัวแปรขับเคลื่อนทุกล้อได้รับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่สองซึ่งทำให้รุ่นนี้มีกำลังรวม 232 แรงม้า (173 กิโลวัตต์ / 235 PS) และแรงบิด 446 ปอนด์ฟุต (605 นิวตันเมตร) สิ่งนี้ช่วยให้ EV6 เร่งจาก 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง (0-100 กม. / ชม.) ในเวลาเพียง 6.2 วินาที ระบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ

แบตเตอรี่ขนาด 77.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้กำลัง 225 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ช่วยเพิ่มกำลังให้ได้ถึง 321 แรงม้า แรงบิด 605 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม. / ชม. ในเวลาเพียง 5.2 วินาที สามารถวิ่งได้ 510 กม./ชาร์จ WLTP

EV6 GT เกรดสูงให้กำลังมากถึง 577 แรงม้า แรงบิด 740 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 100 กม. / ชม. ภายใน 3.5 วินาที สามารถทำความเร็ว 260 กม. / ชม. สามารถวิ่งได้ 405 กม./ชาร์จ และซอฟต์แวร์ดิฟเฟอเรนเชียลลิมิเต็ดสลิป

EV6 ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP ใหม่และมีความสามารถในการชาร์จ 400V และ 800V ซึ่งทำให้สามารถชาร์จได้จาก 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในเวลาเพียง 18 นาที สามารถวิ่งได้ 100 กม.)ได้ในเวลาน้อยกว่า 4.30 นาที พร้อมโหมดการขับขี่ที่แตกต่าง 6 ระดับ

เครดิต Kiaevforums.com

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้