ทดสอบวิ่ง Kia Sportage พวงมาลัยขวา ในออสเตรเลีย ลุ้นขายไทยเช่นกัน
ล่าสุดมีการทดสอบวิ่ง Kia Sportage รุ่นพวงมาลัยขวา ในออสเตรเลีย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนา คาดว่าจะเปิดตัวปลายปี 2021 ในออสเตรเลีย สำหรับประเทศไทย มีลุ้นจำหน่ายเช่นกัน
SUV ขนาดกลางรุ่นใหม่ที่สำคัญของ Kia กำลังทดสอบวิ่งในออสเตรเลีย เพื่อปรับสภาพการขับขี่ตามสภาพท้องถิ่น ก่อนเปิดตัวเร็วๆนี้
Damien Meredith ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Kia Australia กล่าวว่า “การปรับแต่งรถของเราให้เหมาะกับสภาพของออสเตรเลียเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ขับขี่พึงพอใจ และมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการเติบโตของยอดขายโดยรวมของเรา
Kia Sportage ปี 2022 จะวางจำหน่ายในออสเตรเลียในเดือนตุลาคม หรือ พฤศจิกายน 2564
Kia Sportage ครอสโอเวอร์ที่ออกแบบใหม่ ภายใต้ปรัชญา“thought-provoking and daring” กระจังหน้าพร้อมตาข่ายสีดำ ขนาบข้างด้วยไฟส่องสว่างกลางวันทรงบูมเมอแรงเพื่อสร้างความโด่ดเด่น
ตัวถัง Sportage มีความสปอร์ตอย่างมาก เสา D อันโดดเด่น พร้อมหลังคาสีดำตัดกันอย่างลงตัว กันชนหลังออกแบบคล้ายๆ KIA EV6 ไฟท้ายลากเชื่อมกันสวยงาม ล้ออัลลอยหลากหลายขนาด 17-19 นิ้ว
นอกจากนี้ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่น Sportage X-Line ใหม่ได้เช่นกัน จะมาพร้อม กันชนหน้าปรับปรุงใหม่ ตกแต่งด้วยสีดำ และแร็คหลังคา และ ตกแต่งภายในแบบพิเศษ เช่น ขอบไม้โลหะสีดำ เบาะนั่งเขียว
การตกแต่งภายหรูหราอย่างมาก ช่องระบายอากาศแบบสามมิติ สวิตช์เกียร์คลาสสิก คอนโซลกลางออกแบบใหม่ พร้อมโหมดการขับขี่และปุ่มควบคุมสำหรับเบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับความร้อน/ระบายอากาศ หน้าจอสัมผัสขนาด 12 นิ้วที่จับคู่กับแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12 นิ้ว คอนโซลกลางยังใหม่ ป้นหมุนเกียร์แบบ Shift-by-Wire
เครื่องยนต์ TGDI 4 สูบขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลัง 177 แรงม้า และแรงบิด 264 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตรยังให้กำลัง 183 แรงม้า และแรงบิด 416 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีต
Kia กล่าวว่าเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ยังคงจำหน่าย แต่อาจมีตัวเลือกขุมพลังอย่างไฮบริด และ ปลั๊กอินไฮบริด ในอนาคต
ติดตั้ง Terrain Mode ใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะปรับการตั้งค่าต่างๆ โดยอัตโนมัติตามสภาพต่างๆ เช่น หิมะ โคลน และทราย โหมดการขับขี่ Comfort, Eco, Sport และ Smart
ระบบกันสะเทือนแบบควบคุมด้วยไฟฟ้า (ECS) ที่ให้การควบคุมการหน่วงอย่างต่อเนื่องแบบเรียลไทม์ รุ่นไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดจะมาพร้อมระบบ E-Handling
เทคโนโลยีการขับขี่และความปลอดภัยอัจฉริยะ (ADAS) ประกอบไปด้วย
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า หรือ Forward Collision-Avoidance Assist (FCA)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ หรือ Lane Keeping Assist (LKA)
- มอนิเตอร์ระบบตวรจจับจุดอับสายตาแบบใหม่ แจ้งเตือน และ แสดงภาพ BVM (Blind Spot View Monitor)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน หรือ Smart Cruise Control (SCC).
- ใช้ความสามารถของเซนเซอร์และข้อมูลจากแผนที่ช่วยขับแบบอัตโนมัติบนไฮเวย์ Highway Driving Assistance (HDA)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันทำงานร่วมกับระบบนำทาง Smart Cruise Control (NSCC)
นอกจากนี้ยังติดตั้ง ระบบช่วยเหลือในการจอดรถ Parking Assist ซึ่งติดตั้ง
- ระบบถอยจอดรถอัตโนมัติด้วยกุญแจรีโมท RSPA (Remote Smart Parking Assist)
- 12 เซ็นเซอร์ Ultrasonic และ กล้องรอบคันUltrasonic Surround View Monitor (SVM)
- ระบบเตือนมุมอับสายตาขณะถอยรถ หรือ Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist (RCCA)
- ระบบเตือนคนขับหากตรวจพบความเสี่ยง ขณะถอยหลัง แสดงผลผ่านมอนิเตอร์ หากไม่ปลอดภัย รถจะหยุดอัตโนมัติ PCA (Parking Collision-Avoidance Assist)