Peugeot 3008 ไมเนอร์เช้นจ์ เตรียมเปิดตัวในไทย 1 ตุลาคม 2021
Peugeot 3008 ไมเนอร์เช้นจ์เตรียมเปิดตัวในไทย 1 ตุลาคม 2021 พร้อมการปรับปรุงภายนอก และ ภายในห้องโดยสารใหม่
เตรียมพบกับการเปิดตัวโฉมใหม่ของเปอโยต์ 3008 กับดีไซน์ที่จะปลุกเร้าใจตั้งแต่แรกพบ ขับเคลื่อนไปกับภาพลักษณ์ที่โดดเด่นแบบไร้ขีดจำกัด .พร้อมร่วมรับชมและเปิดประสบการณ์ผ่าน Online Virtual Launch ไปด้วยกัน ในวันที่ 1 ต.ค. นี้ เวลา 19.00 น. ที่เพจ Peugeot Thailand.สามารถลงทะเบียนโดยสแกน QR Code พร้อมกรอกแบบฟอร์มด้านล่างนี้ >> http://brand.mgc-asia.com/peugeot/new-3008-5008/เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุดจากเปอโยต์ 3008 รถ SUV ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในตัวคุณได้แล้ววันนี้!
การปรับโฉมภายนอกมาพร้อมไฟหน้าเปลี่ยนใหม่มีโค้งเว้าและเต็มดวง ไฟหน้า Daytime LED ออกแบบเรียวบางเกือบถึงชายกันชนล่าง กระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมลายแพทเทิร์นแบบไร้กรอบ ไฟท้ายรมดำ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารพร้อมปรับปรุงให้บรรยากาศดีมากขึ้น หน้าจอสัมผัสส่วนกลางปรับขนาดเป็น 10 นิ้ว มาตรวัดแบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว
เครื่องยนต์เบนซิน
- เบนซินแบบ 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 130 แรงม้าเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ 2WD
- เบนซินแบบ 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 180 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ 2WD
เครื่องยนต์ดีเซล
- เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.5 ลิตร 4 สูบ กำลังสูงสุด 130 แรงม้า จับคู่กับ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ 2WD
เครื่องยนต์ ปลั๊กอินไฮบริด PHEV
- เครื่องยนต์เบนซิน กำลังสูงสุด 180 แรงม้า + มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 110 แรงม้า ทั้งระบบ 225 แรงม้า 360 นิวตันเมตร จับคู่กับ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 2WD ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- เครื่องยนต์เบนซิน กำลังสูงสุด 200 แรงม้า + มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หน้า 110 แรงม้า หลัง 112 แรงม้า ทั้งระบบ 300 แรงม้า 520 นิวตันเมตร จับคู่กับ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4WD ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 253 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พร้อมตัวถังสีใหม่ สีน้ำเงิน Celebes Blue และ สีน้ำเงิน Vertigo Blue ส่วนสีอื่นที่มีให้เลือก ประกอบด้วย สีขาว Pearl White, สีเทา Artense Grey, สีเทา Platinum Grey, สีดำ Perla Nera Black และ สีแดง Ultimate Red
พร้อมโหมด Normal, Sport และ Eco ส่วนขุมพลัง Plug-in Hybrid จะปรับได้ระหว่าง Electric, Hybrid, Sport และ 4WD ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่เพิ่ม Night Vision
