XPeng P5 EV 600 กม./ชาร์จ พร้อมส่งมอบ ปลายเดือนตุลาคม ในจีน ราคา 810,000 – 1,149,000 บาท
Xpeng Motors หลังจากประกาศราคาอย่างเป็นทางการสำหรับ Xpeng P5 เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ล่าสุดระบุว่า พร้อมส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ในจีน ปลายเดือนตุลาคม 2021 นี้เป็นการผลิตรถยนต์ Xpeng จำนวนมากเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
XPeng P5 เริ่ม 157,900 – 223,900 หยวน หรือประมาณ 810,000 – 1,149,000 บาท มีทั้งหมด 6 เกรดให้เลือก 460G, 460E, 550G, 550E, 550P, และ 600P
P5 460G รุ่นเริ่มต้น มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไออน 55.9kWh สามารถวิ่งได้ 460 กม./ชาร์จ NEDC
ในรุ่น 460E แบตเตอรี่เหมือน 460G แต่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ X-Pilot 3.0
ในเกรด 550G แบตเตอรี่ใหญ่กว่า 66.2 kWhสามารถวิ่งได้ 550 กม.
550E แบตเตอรี่เดียวกัน แต่มาพร้อม ระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ X-Pilot 3.0
รุ่น 550P ที่มาพร้อมกับชุดแบตเตอรี่ขนาด 66.2 kWh ที่เหมือนกัน ระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ X-Pilot 3.0 เพิ่ม LiDAR สองชุด
600P แบตเตอรี่ขนาด 71.4 kWh สามารถวิ่งได้ 600 กม./ชาร์จ
XPeng P5 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่มีจุดเด่นที่สุดคือมีการติดตั้ง Lidar เทคโนโลการขับขี่แบบช่วยเหลืออัตโนมัติ สามารถตอบโต้อย่างชาญฉลาด ซึ่งอยู่ในระดับ Xpilot 3.5 (P7 อยู่ระดับ XPILOT 3.0)
- LiDAR ย่อมาจาก Light Detection And Raging อุปกรณ์ที่ใช้แสงตรวจจับ และ คาดคะเนระยะทางของวัตถุ ซึ่งถูกนำไปใช้โดยรถยนต์ไร้คนขับ และหุ่นยนต์เพื่อตรวจจับวัตถุในโลกจริงเพื่อสร้างโลกเสมือน 3 มิติ ลักการจะคล้ายโซน่าร์ที่ใช้หาปลาแต่เคสนั้นคือการใช้คลื่นเสียงไม่ใช่ใช้ลำแสง
ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติ XPILOT 3.5 สามารถครอบคลุมถนนในเมือง (Urban NGP) รวมถึงสภาพถนนที่ซับซ้อนมากขึ้น สัญญาณไฟจราจร คนเดินถนน และอื่นๆ
ขนาดตัวถัง
- ยาว 4808 มม.
- กว้าง 1840 มม.
- สูง 1520 มม.
- ฐานล้อ 2768 มม.
การออกแบบตามรอยรุ่นพี่อย่าง P7 แนวคิดการออกแบบ X ROBOT FACE กระจังหน้าแบบ Active Air พร้อมติดตั้ง Lidar ส่วนหน้าโค้งมนพร้อมแถบไฟแบบ LED เรียวยาว ลากเชื่อมอย่างงดงาม ไฟท้ายแบบ LED ลากเชื่อมเช่นกัน พร้อมกันชนหลังสีดำ สปอยเลอร์หลังในตัว
ด้านหลังมีส่วนท้ายที่คุ้นเคยพร้อมกันชนสีดำและไฟท้ายแบบบางที่เชื่อมต่อกันด้วยแถบไฟส่องสว่าง รุ่นนี้ดูเหมือนจะมีท้ายรถที่มีสปอยเลอร์หลังในตัว ค่าสัมประสิทธิ์อากาศที่ 0.223Cd
ห้องโดยสารเราจะเห็นแผงหน้าปัดแบบ LCD ขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอสัมผัสส่วนกลางแนวตั้งขนาด 15.6 นิ้วพร้อมแนวตั้ง พร้อมติดตั้งระบบอัจฉริยะ Xmart OS 3.0 เบาะหนัง Nappa ดีไซน์ใหม่สีดำเงา และ สีเมทัลลิก
Autopilot มี 5 ระดับ ได้แก่
- ระดับ 1 จะมีระบบอัตโนมัติ ช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น การบังคับเลี้ยวหรือการเร่งและรักษาคุมความเร็วคงที่ รวมทั้งระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งสามารถควบคุมยานพาหนะไว้ในระยะที่ปลอดภัยต่ออุบัตเหตุ ซึ่งคุณสมบัติ Level 1 ยังต้องการวิจารณญาณของมนุษย์คนขับ ตรวจสอบการใช้ฟังก์ชั่นช่วยขับขี่ร่วมด้วย
- ระดับ 2 จะมีระบบ ADAS หรือ Advanced Driver Assistance Systems ซึ่งเป็นระบบบังคับเลี้ยวอัตโนมัติคู่กับระบบความคุมอัตรเร่งและปรับความเร็วให้ทำงานประสานกันผ่านกลไกการควบคุมที่ซับซ้อน… ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทุกค่ายล้วนใส่เงินไปกับการวิจัยระบบ ADAS ต่อเนื่องมานาน ซึ่งระบบ ADAS ที่มีชื่อเสียงและสอบผ่านมาตรฐาน Level 2 รุ่นแรกๆ จนได้ทดสอบ
- ระดับ 3 จะมีความสามารถในการตรวจจับสภาพแวดล้อม และสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเช่น การเร่งแซงรถที่ช้า แต่ระบบก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์ แม้มนุษย์ไม่ต้องเหยียบคันเร่งถือพวงมาลัย… แต่ผู้ขับขี่จะต้องตื่นตัวและพร้อมที่จะเข้าควบคุมทันทีหากระบบผิดพลาด ซึ่งส่วนใหญ่ระบบจะออกแบบให้ตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานอัตโนมัติตลอดเวลา และหาก Condition หรือเงื่อนไขการทำงานในระบบผิดพลาด… รถจะมีฟังก์ชั่นขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ติดมาด้วย
- ระดับ 4 ไม่ต้องมีมนุษย์คอยช่วยเหลือในยามเข้าตาจนเหมือน Level 3 อีกเลย แม้จะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นทั้งในระบบและสภาพแวดล้อมภายนอก หรือแม้แต่เกิดขัดข้องขึ้น พาหนะ Level 4 ก็จะจัดการความผิดปกติและบกพร่องทั้งหลายได้เอง โดยพึ่งพาและปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ในฐานะผู้โดยสาร มากกว่าจะพึ่งพามนุษย์ในฐานะผู้ควบคุมปกป้องความผิดพลาด พาหนะ Level 4 สามารถทำงานในโหมดขับขี่ด้วยตนเอง หรือ Self-Driving Mode ได้อย่างสมบูรณ์
- ระดับ 5 ไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ จากมนุษย์อีก เพราะระบบจะทำงาน Dynamic Driving Task เต็มประสิทธิภาพ เทียบเท่าระดับเดียวกับหรือดีกว่ามนุษย์ที่มีทักษะการขับรถยอดเยี่ยมที่สุด… พาหนะ Level 5 จึงไม่มีแม้แต่พวงมาลัย แป้นเหยียบคันเร่งและแป้นเบรก ทำให้พาหนะ Level 5 เป็น Fully Autonomous Cars ซึ่งเป็นเป้าหมายความสำเร็จของการพัฒนายานพาหนะบนผิวพื้นยุคต่อไป… ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า กฏหมายและโครงสร้างพื้นฐานของ Smart City