เตรียมเข้า ครม. ส่วนลดรถยนต์ไฟฟ้าสูงสุด 400,000 บาท สำหรับ EV ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท เริ่มต้นปีหน้า
บอร์ดยานยนต์ไฟฟ้า เตรียมนำเรื่องเข้า ครม . เพื่อลดภาษี สรรพสามิต เหลือ 2% พร้อมอัดแพ็คเกจส่วนลดรถยนต์ไฟฟ้า 20% ขีดเส้นรถยนต์ไฟฟ้าราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ได้ส่วนลดสูงสุด 4 แสนบาท ากอัตราภาษีนำเข้า สรรพสามิต และการคืนเงิน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการที่รัฐจะสนับสนุนครอบคลุมทั้งซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมรถยนต์ คือ การผลิตรถยนต์ ชิ้นส่วนและแบตเตอรี่ในประเทศ การสนับสนุนการใช้รถ การลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า โดยจะมีมาตรการสนับสนุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
มาตรการหนุนรถยนต์ไฟฟ้า โดยสรุป (เร่งเข้า ครม. ภายในเดือนนี้ เพื่อให้มีผลในไตรมาส 1 ปี 2565)
- แพ็คเกจ รถไฟฟ้าราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ลดราคา 20% หั่นภาษีสรรสามิตเหลือ 2% ใช้เงินกองทุนเพิ่มความสามารถในการหนุนราคา (ภาษีสรรพสามิตรถอีวีที่ปัจจุบันเก็บอัตรา 8% เหลือ 2% ภาษีศุลกากรนำเข้ารถอีวีลดสูงสุดที่ 80%) หากคิดเป็นยอดเงินจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้า 1 ล้านบาท ลด 200,000 บาท และ ในราคา 2 ล้านบาท ลดสูงสุด 400,000 บาท เป็นแรงจูงใจในส่วนลดค่อนข้างมาก
- รถราคาเกิน 2 ล้านบาทได้ส่วนลดน้อยกว่า (ลดภาษีสรรพสามิตและภาษีศุลกากรในส่วนอากรขาเข้าสูงสุด 20% ในระยะเวลา 2 ปี และลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เป็น 2% เท่ากัน) ในกลุ่มนี้คือรถยนต์ไฟฟ้าระดับราคา 2 ล้านบาทขึ้นไป 7 – 8 ล้านบาทก็ได้รับประโยชน์ หากเข้าตามเงื่อนไขกำหนด
- มาตรการหนุน 5 ปี ให้เวลาผู้ผลิตปรับตัว 10 ปี
- ตั้งกองทุนหนุนรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าต่ำลงในระยะเวลา 5 ปีแรกนับจากปี 2565 พร้อมเงินหนุน 10,000 ล้านบาท จะให้เงินอุดหนุนแก่ผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Full EV
- รัฐบาลอาจพิจารณาสนับสนุนอัตราค่าไฟฟ้าในการชาร์ตแบตเตอรี่ด้วย
- ข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ที่ทำให้การนำเข้ารถยนต์อีวีมายังประเทศไทยในเงื่อนไขไม่เสียภาษี
ค่ายรถที่นำเข้ารถอีวีมีการผลิตเพื่อชดเชยการนำเข้าภายใน 2 ปี โดยมีการกำหนดสัดส่วน 1:15 เท่า คือ นำเข้ารถอีวีจากต่างประเทศ 1 คัน จะต้องผลิตชดเชยในประเทศภายในปี 2566 ที่ 1.5 คัน รวมทั้งต้องใช้แบตเตอรี่รถยนต์ และชิ้นส่วนสำคัญของรถอีวีอื่น เช่น PCU และ Traction Motor ที่ผลิตในไทยตามระยะเวลาที่กำหนด
อย่างไรก็ตามเมื่อมาตรการการสนับสนุนการใช้รถอีวีในประเทศได้รับความเห็นชอบจาก ครม.แล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และหน่วยงานอื่นๆจะต้องไปออกประกาศกฎกระทรวงในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มาตรการมีผลบังคับใช้ภายใน 1-2 เดือน ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2565
นอกจากนี้บอร์ดอีวีเสนอให้ ครม.สนับสนุนการขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าและสถานีชาร์จรถอีวีให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีมาตรการส่งเสริมการเร่งรัดการลงทุนของภาคเอกชนที่มีแผนจะเพิ่มการลงทุนให้เร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่ใช้รถอีวีมีความมั่นใจมากขึ้น