ส่งมอบแล้ว HONDA BR-V ใหม่ ในอินโดฯ ไทยรอเดือนมีนาคม 2022
Honda ประเทศอินโดนีเชีย เริ่มส่งมอบ BR-V เจนเนอเรชั่นที่ 2 ในประเทศ เริ่มส่งมอบ BR-V ใหม่ทั้งหมดในประเทศอินโดนีเซีย
พิธีส่งมอบดังกล่าวจัดขึ้นที่สวนสาธารณะเซนายัน กรุงจาการ์ตา โดยได้ส่งมอบ BR-V ใหม่ทั้งหมด 55 คัน ให้กับลูกค้า มีรถยนต์จำนวน 29 คันที่จอดไว้ในลักษณะที่เป็นตัวอักษร BR-V เมื่อมองจากมุมสูง
Yusak Billy ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขายของ Honda Indonesia ระบุว่ามีการสั่งซื้อประมาณ 3,200 คันนับตั้งแต่เปิดตัวโมเดลในเดือนกันยายนปีที่แล้ว เขากล่าวว่าบริษัทตั้งเป้าที่จะส่งมอบ BR-V ใหม่ 3,000 คันในเดือนมกราคม 2565
บิลลี่เสริมว่าเป้าหมายการผลิตของ BR-V ใหม่ทั้งหมดสำหรับตลาดในประเทศคือ 40,000 คันต่อปี ในขณะที่ตลาดส่งออกตั้งเป้าที่ 10,000 คัน สำหรับ 30 ประเทศ
Honda BR-V เจนเนอเรชั่น 2 มีให้เลือก 4 รุ่น ได้แก่ S MT, E CVT, E MT และ Prestige CVT รุ่นเรือธงได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงของ Honda Sensing เป็นครั้งแรกใน BR-V
ตามข้อมูลของ Honda Indonesia 55% ของการจอง BR-V ใหม่จะเป็นรุ่นท๊อป Prestige CVT เพราะความคุ้มค่าด้านความปลอดภัยที่มากกว่า
จนถึงปัจจุบัน Honda BR-V ยังคงได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าในอินโดนีเซีย โดยมียอดขายปลีกรวม 78,013 คัน เฉลี่ยมากกว่า 1,300 คันต่อเดือน Honda BR-V มียอดขายทั่วโลกมากกว่า 255,000 คัน โดย โดยในอินโดนีเชียมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 30%
สำหรับประเทศไทย เราจะได้เห็น NEW HONDA BR-V ใหม่เช่นกัน ช่วงเดือนมีนาคม 2022 หรือ ในงาน Motor Show 2022
Honda BR-V อินโดนีเชีย มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ราคาจำหน่าย 275,900,000 – 339,900,000 รูเปียห์อินโดฯ หรือประมาณ 645,000 – 795,000 บาท
NEW HONDA BR-V เจนที่ 2 มาพร้อมความจุภายในห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง พัฒนาต่อยอดจากโมเดลต้นแบบ New 7 Seater eXcitement (N7X)
All New Honda BR-V ได้รับการออกแบบมาเพื่อผสมผสานการออกแบบและความทนทานของ SUV ความสะดวกสบายของ MPV พร้อม Honda SENSINGTM, Honda LaneWatchTM, Remote Engine Start, Walk-Away Auto Lock และระบบ Smart Entry
รูปลักษณ์ภายนอกของ เน้นความกระซับมากขึ้น กระจังหน้าคล้ายๆ HR-V กันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างกลางวัน LED ไฟท้ายแบบ Combi ล้อขนาด 17 นิ้วใหม่
ภายในห้องโดยสารจุได้ 7 ที่นั่ง แผงหน้าปัดแบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว แสดงข้อมูลต่างๆ ระหว่างขับขี่ เช่น ฟังก์ชั่น Honda SENSINGTM หน้าจอสัมผัสส่วนกลางขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี
ที่วางแขนแถวที่ 1 และ ที่พักแขนเบาะแถวที่ 2 สำหรับ แถว 2 – 3 สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไฟ 12V ช่องเก็บของด้านหลังมีกระเป๋าหลายช่อง ภายในมีที่วางแก้ว 8 ตำแหน่ง เบาะแถว 3 พับได้ 50/50
เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ให้มีกำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ CVT และเกียร์ธรรมดา MT ใหม่มาตรฐานการปล่อยไอเสียตามมาตรฐาน EURO 4
พร้อมคุณสมบัติขั้นสูง เช่น
- Remote Engine Start ซึ่งทำหน้าที่สตาร์ทเครื่องยนต์ และ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ
- Walk-Away Auto Lock เพื่อล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อผู้ขับขี่เดินจากรถอย่างน้อย 2 เมตรขึ้นไป
- Honda LaneWatchTM มุมมองที่กว้างขึ้นของพื้นที่จุดบอด
- Smart Entry System ระบบสมาร์ทคีย์ จะช่วยในการปลดล็อคประตู โดยไม่ต้องใช้กุญแจ
- กระจกมองข้างพับอัตโนมัติพร้อมไฟเลี้ยว LED ซึ่งกระจกสามารถปิดอัตโนมัติเมื่อรถถูกล็อค
Honda SENSING TM
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถหยุด และ รถด้านหน้าเริ่มเคลื่อนออก (LCDN)
- ระบบช่วยเมื่อมีความเป็นไปได้ที่รถจะชนวัตถุด้านหน้า Collision Mitigation Brake SystemTM (CMBSTM)
- ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (LKAS)
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกนอกเลน Road Departure Mitigation (RDM)
- ระบบที่ช่วยควบคุมความเร็วในการขับขี่อัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC)
- ปรับไฟหน้าสูงอัตโนมัติ Auto-High Beam
นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัย ABS + EBD ISOFIX + Tether ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA), ระบบช่วยทรงตัว (VSA) Immobilizer, ระบบเตือนภัย, Pretensioner พร้อม Load Limiter Seatbelt ถุงลมนิรภัยด้านข้างและเซ็นเซอร์จอดรถ
ฺมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาวโอปอลพรีเมียม (มุก) ซึ่งเป็นสีใหม่ สีขาวทาฟเฟต้า สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก)