ส่งมอบเดือนหน้า Rivian R1S SUV วิ่งได้ไกล 514 กม./ชาร์จ EPA ราคา 2.49 – 3.09 ล้านบาท ในสหรัฐฯ

Spread the love

Rivian R1S วางตำแหน่ง SUV ขนาดใหญ่ กระจังหน้าแบบปิด ไฟหน้าแบบ LED ลากเชื่อมทั้งสองฝั่ง กันชนหน้าขนาดใหญ่ ไฟตัดหมอกแนวนอน ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ยางแบบ all-terrain ขนาด 20 นิ้วจำนวน 3 เส้น และยางแบบ low-profile ขนาด 22 นิ้วจำนวน 2 เส้นให้เลือก

ด้านข้างตัวถัง R1S มีแนวยาวรูปสี่เหลี่ยมพื้นผ้า การออกแบบไม่ได้ซับซ้อน เน้นความเรียบง่ายของเส้น เสา C แบบหนาที่ติดตั้งโลโก้ของแบรนด์ แถวไฟท้ายลากทะลุไปยังบริเวณด้านข้างซึ่งเป็นไฟแบบ LED เต็มความกว้าง

ขนาดตัวถัง

ยาว 5,100 มม.
กว้าง 2,077 มม.
สูง 1,963 มม.
ฐานล้อ 3,071 มม.

Rivian R1S ออกแบบภายใน 7 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวกลาง และ แถวที่สามแบบพับราบได้ เบาะหนังวีแกนเดินด้ายอย่างปราณีต นอกจากนี้ยังสามารถเลือกธีมการออกแบบภายใน เช่น Black Mountain และ Ocean Coast (พิเศษ USD 2,000) พร้อมการตกแต่งด้วยลายไม้แอช ทำให้ห้องโดยสารดูหรูหรามากขึ้น

พร้อมระบบเชื่อมต่อ Ethernet ความเร็วสูงอัพเดทซอฟท์แวร์แบบ OTA หน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 15.6 นิ้ว มาตราวัดหน้าจอ 12.3 นิ้ว รองรับคำสั่งเสียง Alexa แต่ไม่มี Apple CarPlay หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 6.8 นิ้ว ระบบเสียง Rivian Elevation โดย Meridian หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา

มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลัง 600 แรงม้า แรงบิต 813 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4 วินาที

แบตเตอรี่ขนาด 105kWh
สามารถวิ่งได้ 418 กม./ชาร์จ EPA
รองรับการชาร์จเร็ว DC 200kW
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD
กำลังการลากจูง 3,492 กก.

มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลัง 835 แรงม้า แรงบิตสูงสุด 1,231 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3 วินาที

แบตเตอรี่ขนาด 135kWh
สามารถวิ่งได้ 505 – 514 กม./ชาร์จ EPA
รองรับการชาร์จเร็ว DC 200kW
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD
กำลังการลากจูง 3,492 กก.

พร้อมเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่เช่น

ระบบขับขี่อัตโนมัติ Level 3 ทำงานด้วยเซ็นเซอร์เรดาร์
Lidar อัลตร้าโซนิค
กล้องและระบบนำทาง GPS ความแม่นยำสูง

Rivian R1S มีทั้งหมด 3 รุ่น ราคาจำหน่าย 72,500 – 90,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2.57 – 3.19 ล้านบาท Rivian R1S ผลิตขึ้นในเมือง Normal รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันกำลังดำเนินการผลิตควบคู่กระบะไฟฟ้า แต่เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้ต้องผลิตกระบะไฟฟ้าก่อน