BYD แซงหน้า TESLA ครึ่งปี 2022 ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก
WELLINGTON/HONG KONG/SEOUL (Financial Times) รายงานว่า BYD (Build Your Dreams) บริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งได้รับแรงหนุนจาก Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett ได้โค่นแชมป์รถยนต์ไฟฟ้า Tesla ของ Elon Musk ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกด้วยยอดขายที่มากกว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปี
BYD บริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเซินเจิ้นมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV,PHEV และ FCEV) 641,350 คันในช่วงหกเดือนแรกของปี 2022 เพิ่มขึ้นมากกว่า 314.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับ Tesla มียอดขาย 564,000 คันในช่วงเวลาเดียวกัน เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบรายปี สำหรับยอดขายทั้งสองห่างกันในระดับ 70,000 คัน นับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตาอีกครั้ง
ต้องยอมรับว่า การแข่งขันหากเทียบรถยนต์ไฟฟ้าล้วน TESLA คือผู้นำ แต่ BYD พวกเขารวม ปลั๊กอินไฮบริด และ เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนในยอดดังกล่าว ทำให้ยอดขายโดยรวมแซงหน้า Tesla
เมื่อเดือนเมษายน 2022 เทสล่าในจีน Tesla Gigafactory ในเขตปกครองพิเศษเซี่ยงไฮ้ หรือ ช่างไห่ ปิด 22 วัน ทำให้ไม่สามารถผลิตรถยนต์กว่า 44,000 คันตามแผนที่วางเอาไว้ สำหรับแบรนด์อื่นๆ พวกเขากระจายโรงงานไปตามภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศจีน ทำให้ได้รับผลกระทบบางส่วน
การเพิ่มขึ้นของยอดขาย BYD สะท้อนให้เห็นความแข็งแกร่งของแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าจีน นอกจากนี้ BYD ยังคุมห่วงโซ่อุปทานของตัวเองตั้งแต่ต้นน้ำ ทำให้สามารถผลิตรถยนต์ออกมาได้เยอะกว่า
จากการวิจัย SNE ในกรุงโซล BYD แซงหน้า LG Energy ในแง่ของส่วนแบ่งการตลาดรายเดือนตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการหยุดชะงักของโรงงานในเซี่ยงไฮ้ของเทสลา
เทสลาพร้อมกับผู้ผลิต EV ของจีนรวมถึง Li Auto, Xpeng และ Nio ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์มากกว่า BYD ซึ่งได้รับประโยชน์เนื่องจากโรงงานส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งอยู่ในภูมิภาคดังกล่าว
ตลอดระยะเวลากว่า 27 ปีแห่งการพัฒนาแบตเตอรี่ BYD เปิดตัวกว่า 70 ประเทศ 400 เมือง และ ขายรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 1.9 ล้านคัน ลดการปล่อย C02 กว่า 11 ล้านตัน เท่ากับการปลูกต้าไม้ 896 ล้านต้น (2 มิถุนายน 2022)
Blade Battery
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ BYD Blade ได้รับการพัฒนามาหลายปี พร้อมกับเคมิลิเธียมไออน ฟอสเฟต (LFP) แทนการผสมนิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ (NMC) แทนที่จะมีหลายโมดูล BYD Blade Battery จะจัดเรียงเซลล์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทำให้ประหยัดพื้นที่มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ
- Blade Battery ของ BYD ถูกออกแบบในลักษณะ cell-to-pack technology (CTP) ซึ่งทำให้มีความหนาแน่นของพลังงานที่ค่อนข้างสูง ด้วยการแพ็คโดยตรงไม่คต้องแพ็คเซลล์ลงโมดูลก่อน ทำให้ไม่เสียพื้นที่ในการใช้งาน
- เทคโนโลยี CTP ชุดแบตเตอรี่จะถูกประกอบโดยตรงจากเซลล์โดยไม่ต้องใช้โมดูล ปัจจุบันมีผู้ผลิตแบตเตอรี่หลายรายกำลัผลิตแบบนี้ เช่น BYD Auto, CATL, LG Chem และ SVOLT
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB
CTB คือ Cell to Body แบตเตอรี่จะถูกรวมเข้ากับโครงสร้างด้านล่างของตัวรถโดยตรง ซึ่งช่วยลดพื้นที่ในการใช้งาน และ ปลอดภัยมากขึ้น
เทคโนโลยี CTB ได้ผ่านการทดสอบ ค่อนข้างหนัก เช่น นำรถบรรทุกหนัก 50 ตันเหยียบแบตเตอรี่ แต่ก็ไม่มีความเสียหาย รวมทั้งการทดสอบความร้อนอื่นๆ ที่เกินมาตรฐาน
การออกแบบนี้ทำให้มีความแข็งแกร่งในการบิดตัวของตัวเครื่องเพิ่มขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับการออกแบบทั่วไปและมากกว่า 40,000 นิวตันเมตร/°
เทคโนโลยี CTB หรือ Cell to Body ของ BYD ได้เปลี่ยนจากโครงสร้าง ของแบตเตอรี่เป็นโครงสร้างส่วนหนึ่งของรถยนต์ ซึ่งรวมพื้นตัวถังและฝาครอบด้านบนของแบตเตอรี่เข้าด้วยกัน
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB ไม่เพียงช่วยลดน้ำหนัก แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของชิ้นส่วนโครงสร้างในส่วนล่าง ให้สามารถมีความยืดหยุ่นมากขึ้น รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างเพื่อป้องกันการชนด้านหน้า ด้านข้าง
สำหรับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB จะถอดแบตเตอรี่ยาก และ แตกต่างจาก เทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่ของ NIO
เนื่องจากการสลับแบตเตอรี่ต้องมีชุดแบตเตอรี่ที่อิสระ และ สามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว CTB ใช้ปริมาณแบตเตอรี่ขนาดกะทัดรัด ทำให้เกิดพื้นที่ใช้งานภายในรถเพิ่มขึ้น น้ำหนักรถที่เบากว่า ค่าสัมประสิทธิ์การลากที่ต่ำกว่า และแรงต้านการหมุนที่น้อยลง
ดังนั้นจะเห็นว่า CTB มีจุดประสงค์ในการใช้งาน และ ช่วยเพิ่มระยะต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ได้ดีกว่า ตรงกันข้ามกับเทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่อย่างรวดเร็ว ต้องใช้ชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และตัวเชื่อมที่ซับซ้อน ยุ่งยาก และ ทำให้น้ำหนักมาก
ความยากในการพัฒนาเทคโนโลยี CTB ซับซ้อนเพื่อให้บรรลุการผลิตจำนวนมาก จำเป็นต้องมีส่วน R&D หลักสองส่วน ได้แก่ ระบบแบตเตอรี่ไฟฟ้า และ การพัฒนาโครงสร้าง
BYD ซื้อเหมืองแร่ลิเธียม 6 แห่ง ในแอฟริกา
ลิเธียม เป็นทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ของการผลิตแบตเตอรี่ และ ล่าสุดทาง BYD กำลังอยู่ในการเจรจา เพื่อขอซื้อเหมืองลิเธียมในแอฟริกา 6 แห่ง
การเจรจาดังกล่าว ทำให้ BYD คาดการณ์ว่า หากสำเร็จ จะทำให้ BYD มีแบตเตอรี่เพียงพอในไตรมาสที่ 3 และ ไตรมาสต่อๆไป ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น
ตามการคำนวณของ BYD เหมืองลิเธียม 6 แห่งมีแร่มากกว่า 25 ล้านตันโดยมีเกรดลิเธียมออกไซด์ 2.5% ซึ่งหมายความว่า มีลิเธียมคาร์บอเนตมากถึง 1 ล้านตันตามรายงาน
ฺBYD ต้องการให้ราคาของลิเธียมคาร์บอเนตต่อตันต้องต่ำกว่า 200,000 หยวน ปัจจุบันราคาลิเธียมคาร์บอเนตต่อตันสูงถึง 470,000 หยวน แม้ว่าลดลงในเดือนนี้ แต่มันก็ยังคงแพง
หากแร่ทั้งหมด 25 ล้านตันจากเหมืองในแอฟริกาถูกขุด มันจะเพียงพอสำหรับรถยนต์กว่า 27.78 ล้านคันด้วยแบตเตอรี่ 60 kWh รายงานของ The Paper
หากพิจารณารถไฮบริดที่มีความจุแบตเตอรี่เพียง 10 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง แร่ดังกล่าวจะเพียงพออย่างมากมาย
ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า เหมืองแร่ทั้ง 6 แห่งสามารถตอบสนองความต้องการของการผลิตแบตเตอรี่ BYD ได้ซึ่งพวกเขาเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่อันดับ 3 ของโลก รองจาก LG และ CATL อาจหมายความว่าปัญหาขาดแคลนแบตเตอรี่ไฟฟ้าอาจคลี่คลายในทศวรรษหน้า
BYD สร้างสถิติยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงสุดในเดือนมิถุนายน 2022 รวมกว่า 134,036 คัน เพิ่มขึ้น 314.9 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 16.61 เปอร์เซ็นต์ จาก 114,943 หน่วยในเดือนพฤษภาคม 2022
BYD ขายรถยนต์ไฟฟ้า และ ปลั๊กอินไฮบริด ในเดือนมิถุนายน รวม 134,771 คัน ซึ่งรวมถึงรถยนต์โดยสาร 134,497 คัน และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 274 คัน โดยแบ่งเป็น ไฟฟ้าล้วน BEV 68,195 คัน และ ปลั๊กอินไฮบริด PHEV 66,302 คัน
BYD สามารถผลิตแบตเตอรี่ทั้งหมดในเดือน มิถุนายน 2022 รวม 6.859 GWh เพิ่มขึ้น 146.99% จาก 2.777 GWh ในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 10.58% จาก 6.203 GWh ในเดือนพฤษภาคม
และ ในเดือนมิถุนายน 2022 BYD ขายรถยนต์กว่า 134,771 คัน พวกเขาสามารถทำยอดขายระดับ 100,000 คันติดต่อกัน 4 เดือน
- BYD Song family – 32,077 คัน
- BYD Qin family – 26,623คัน
- BYD Han family – 25,439 คัน
- BYD Yuan family – 19,731 คัน
- BYD Dolphin (EA1) – 10,376 คัน
- BYD Tang family – 8,134 คัน
- BYD Destroyer 05 – 7,464 คัน