Advertisement

Advertisement

เลิกขายไทย NISSAN March ปิดตำนาน 12 ปี Eco Car 26 กรกฏาคม 2022

เลิกขายไทย NISSAN March ปิดตำนาน 12 ปี Eco Car 26 กรกฏาคม 2022
Spread the love

Advertisement

Advertisement
26/07/65 Nissan March K13 คันสุดท้าย Off line 12:00 น. ปิดตำนาน Nissan Eco Car : CR : Ake Siriwat

Nissan March นิสสัน มาร์ช ECO Car คันแรกของเมืองไทย ยุติการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย วันที่ 26 กรกฏาคม 2022 หลังจากการเปิดตัวในวันที่ 12 มีนาคม 2010 ปิดตำนาน 12 ปี Eco Car ของนิสสันในไทย

รุ่นที่ 4 K13 (พ.ศ. 2553 – ปัจจุบัน)

นิสสัน มาร์ช รุ่นที่ 4 ใช้รหัสการพัฒนาว่า W02A ภายหลังใช้รหัสตัวถัง K13 เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยปี 2553 โดยใช้ชื่อในการโฆษณาว่า “นิสสัน อีโคคาร์” (Nissan Ecocar) ซึ่งจะใช้เครื่องยนต์ 1,200 ซีซี 3 สูบ ซึ่งสามารถประหยัดน้ำมันได้ไม่แพ้รุ่นก่อนๆ โดยนิสสัน มาร์ช รุ่นใหม่นี้ ผ่านเกณฑ์มาตรฐานข้อกำหนดรถประหยัดพลังงานสากล (อีโคคาร์) ซึ่งมีข้อกำหนดดังนี้

โดยนิสสัน มาร์ช รุ่นใหม่นี้ ผ่านเกณฑ์มาตรฐานข้อกำหนดรถประหยัดพลังงานสากล (อีโคคาร์) ซึ่งมีข้อกำหนดดังนี้

  1. ประหยัดน้ำมันไม่ต่ำกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตร
  2. ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 120 กรัมต่อกิโลเมตร และได้รับมาตรฐานไอเสียสะอาดระดับยูโร 4
  3. มีความปลอดภัยตามมาตรฐานยุโรป
  4. ใช้เครื่องยนต์ขนาดลูกสูบไม่เกิน 1,300 ซีซี สำหรับเครื่องเบนซิน และไม่เกิน 1,400 ซีซี สำหรับเครื่องดีเซล

รถที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานอีโคคาร์ ในประเทศไทย จะได้รับผลประโยชน์ในการลดภาษีสรรพสามิตเหลือร้อยละ 17 (รถเก๋งที่ไม่ผ่านเกณฑ์อีโคคาร์ ต้องจ่ายภาษีร้อยละ 30-50) และในวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556 นิสสัน มาร์ช ก็ได้มีการไมเนอร์เชนจ์ขึ้น โดยปรับโฉมให้ดูสปอร์ตขึ้น โดนเปลี่ยนรูปแบบกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าใหม่ ไฟท้ายแบบ LED

  • เปิดตัวครั้งแรก 2010
    • กับรุ่นย่อย 6 รุ่น S MT, E MT, E CV, EL CVT, V CVT,VL CVT ราคาระหว่างตั้งแต่ 375,000-537,000 บาท
  • ปรับขึ้นราคาปี 2011
    • รุ่นย่อยคงเดิมเพิ่มเติมคือปรับราคาสูงขึ้นทุกรุ่นย่อย 5,000 บาท ราคาตั้งแต่ 380,000-542,000 บาท
  • ไมเนอร์เชนจ์ปี 2013
    • 6 รุ่นย่อยเช่นเดิมอัพเดทหน้ารุ่นย่อย S MT, E MT, E CV, EL CVT, V CVT, VL CVT
    • ปรับขึ้นราคามาอยู่ที่ตั้งแต่ 380,000-555,000 บาท
  • เปิดตัวรุ่นพิเศษ Limited Edition ปี 2014
    • รุ่น 1.2 E MT Limited Edition – 456,000 บาท
    • รุ่น 1.2 E CVT Limited Edition – 490,000 บาท
    • รุ่น 1.2 EL CVT Limited Edition – 518,000 บาท
  • ไมเนอร์เชนจ์ปี 2015
    • ปรับลดรุ่นย่อยมาเหลือแค่ 3 รุ่น EL, V, และ VL ราคาเริ่มต้นกระโดดขึ้นอยู่ที่ 518,500 บาท

จะเห็นว่าแม้โฉมจะถูกดึงใช้มานานตั้งแต่ปี 2010 แต่ March ก็ยังมีการอัพเดทรายละเอียดของอุปกรณ์ของตัวรถอย่างต่อเนื่องให้ทันยุคทันสมัยอยู่เสมอ พร้อมกับราคาเริ่มต้นที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดปีนี้ก็มีการเปิดตัวรุ่นปรับปรุงอีกครั้ง เพิ่มความสดใสกับทางเลือกของสีตัวถังใหม่และราคาเริ่มต้นที่ถูกลงจับต้องได้ง่ายขึ้นออกมาให้เลือก

โดยราคาขายของ Nissan March 2018 ในแต่ละรุ่นย่อย มีให้เลือกดังต่อไปนี้ โดยล้อที่ให้มาจะเป็นล้อเหล็กทุกรุ่นย่อยขนาด 14 นิ้วรัดด้วยยางขนาด 165/70/14

  • รุ่น 1.2 S MT 420,000 บาท (ล้อเหล็ก พร้อมดุมล้อ)
  • รุ่น 1.2 E MT 479,000 บาท (ล้อเหล็ก พร้อมฝาครอบล้อแบบเต็ม)
  • รุ่น 1.2 E CVT 493,000 บาท (ล้อเหล็ก พร้อมฝาครอบล้อแบบเต็ม)
  • รุ่น 1.2 EL CVT 526,500 บาท (ล้อเหล็ก พร้อมฝาครอบล้อแบบเต็ม)

ความเปลี่ยนแปลงทั้งในเรื่องตัวเลขราคาที่ปรับขึ้น ไปจนถึงรายละเอียดต่าง ๆ ของอ๊อพชั่นการใช้งาน Nissan March ตอนนี้ปี 2018 จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูรีวิวโดยละเอียดทั้งภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ และระบบความปลอดภัยกันได้เลย

นอกจาก Nissan March ที่จะยุติการผลิตแล้ว Nissan Note ก็เตรียมจะยุติการผลิตด้วยเช่นกัน ภายในปี 2022 นี้ โดยทั้งคู่ต่างใช้เครื่องยนต์เดียวกันคือ รหัส HR12DE เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 1,198 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 78.0 x 83.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.2 : 1 พละกำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 106 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และ เกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E20 และ Nissan March รหัส K13 คันสุดท้ายจากโรงงานนิสสันในประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

Wiki

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้