เปิดราคาในไทย Lexus RX 450h+ AWD ปลั๊กอินไฮบริด วิ่งไฟฟ้า 87 กม./ชาร์จ NEDC ราคา 4.64 – 5.09 ล้านบาท
Lexus RX 450h+ AWD (PHEV) ปลั๊กอินไฮบริดใหม่ เปิดราคาจำหน่ายในประเทศไทย มี 2 รุ่นแบบนำเข้าทั้งคัน CBU
- Luxury AWD ราคา 4,640,000 บาท
- Premium AWD ราคา 5,090,000 บาท
รับประกันคุณภาพตัวรถนาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง รับประกันแบตเตอรี่ Hybrid นาน 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
All NEW Lexus RX 450h+ Plug-in Hybrid เจนที่ 5 พัฒนาบนแพลตฟอร์ม Platform ใหม่ GA-K
ขนาดตัวถัง
- ยาว 4890 มม.
- กว้าง 1920 มม.
- สูง 1695 มม.
- ฐานล้อ 2850 มม.
- ความสูงใต้ท้องรถ 195 มม.
ระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น 60 มม. ทำให้ยาว 4890 มม. ระยะยื่นด้านหลังลดลง ทำให้เบาะหลังมีพื้นที่วางขาเพิ่มขึ้น และ ความจุสัมภาระท้ายเพิ่มขึ้น เช่นกัน
การออกแบบโดยรวมจะใหม่ทั้งหมด เน้นย้ำไปที่รถครอบครัว กระจังหน้าออกแบบ เพิ่มมิติแกนหมุนได้ชัดเจน ไฟหน้าแบบ Nike LED ดัดแปลงพื้นผิวใหม่เพิ่มความรู้สึกหรูหรา ไฟส่องสว่างเวลากลางวันสไตล์ swoosh กรอบไฟตัดหมอกในตัว ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีอีกมากมาย ล้ออัลลอย 19 นิ้ว ลูกค้าสามารถเลือก 21 นิ้วในดีไซน์ที่หลากหลาย
ภายในห้องโดยสารจะหยิบยกเทคโนโลยี และ ดีไซน์บางส่วนจาก NX ใหม่ แผงหน้าปัด Full LCD พวงมาลัยที่ออกแบบใหม่ จอสี HUD multi-function head-up display Lexus ขนาดใหญ่ 14 นิ้ว พร้อมระบบ Lexus Interface แบบใหม่ องรับการอัปเดตแบบ over-the-air
เปลี่ยนเกียร์แบบมินิมอล นอกจากนี้ภายในยังมีการตกแต่งด้วยอลูมิเนียม, ไม้ไผ่แอช, Black Cascade หรือ Black Open Pore Wood หลังคาซันรูฟพาโนรามา ไฟบรรยากาศภายใน 64 แบบ เบาะหนังสัมผัสนุ่มนวล
ปลั๊กอินไฮบริด RX 450h+ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ 2.5 ลิตร 2,487 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 87.5 x 103.4 มิลลิเมตร ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ D-4S (Direct-injection) + มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลัง 304 แรงม้า แรงบิตสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 18.1kWh
- วิ่งไฟฟ้าล้วน 87 กม./ชาร์จ NEDC EV Mode
- ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ E-FOUR
- ความเร็วสูงสุด 135 กม./ชม.
- อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 76.9 กิโลเมตร/ ลิตร
- ชาร์จ AC 6.6kW ภายใน 2.30 ชั่วโมง
เทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ Lexus Safety System Plus…
- ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ LEXUS TEAMMATE ADVANCE PARK ช่วยให้จอดรถได้ง่ายขึ้นเมื่อเข้าจอดในที่พื้นที่เปิด เริ่มใชังานโดยหยุดรถข้างจุดที่ต้องการจอดแล้วกดปุ่มเปิดระบบ พื้นที่จอด จะปรากฎบนจอเพื่อยืนยัน เมื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้ว ให้ผู้ขับกดปุ่ม “เริ่มจอด” แล้วปล่อยพวงมาลัย และถอนเบรก ระบบจะนํารถเข้าจอดให้อัตโนมัติโดยควบคุมทั้งพวงมาลัย คันเร่ง เบรก และเกียร์ พร้อมแสดงภาพมุมสูงเพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อม ตัวรถ และสิ่งกีดขวาง และจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมเบรกโดยอัตโนมัติ เมื้อเข้าใกล้สิ่ิงกีดขวางที่ีอาจชนได้ (สำหรับเกรด Premium เท่านั้น)
- ระบบการเปิดประตูแบบบ SEA (Safe Exit Assist) เพื่อการลงจากรถอย่างปลอดภัย SEA จะทำงานร่วมกับระบบตรวจมุมอับสายตา (BSM) เพื่อตรวจว่ามียานพาหนะ หรือจักรยาน แล่นเข้ามาทางด้านหลังรถหรือไม่ หากพบจะส่งสัญญาณเตือนบนกระจกมองข้างด้านนั้นๆ เพื่อไม่ให้ผู้ขับ หรือผู้โดยสารเปิดประตูรถออกไป หรือหากมีการพยายามเปิดประตูระบบ E-Latch จะไม่เปิดให้ พร้อมแสดงสัญญาณเตือนด้วยไฟกระพริบ ที่กระจกมองข้าง และบนหน้าจอ
- กลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ E-LATCH ช่วยให้ไม่ต้องออกแรงดึง หรือผลัก เพื่อเปิดประตูอีกต่อไป ระบบจะช่วยให้ประตูรถทำงานได้อย่างนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น เพียงสัมผัสสวิตช์ทั้งจากภายนอก และภายในตัวรถ
- ระบบป้องกันก่อนการชน Pre-collision Safety System ระบบป้องกันก่อนการชน จะช่วยเพิ่มแรงเบรก และช่วยเบรกอัตโนมัติ เมื่อตรวจจับพบรถยนต์ที่อาจเกิดการปะทะขึ้น รวมถึงการตรวจจับคนเดินถนน และจักรยานอีกด้วย
- ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ Adaptive High-beam System (AHS) เทคโนโลยีปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ ที่ช่วยกระจายลำแสงไฟหน้ากับวัตถุด้านหน้ารถอย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นในเวลากลางคืน และไม่รบกวนสายตาเพื่อนร่วมทาง
- ระบบช่วยรักษาช่องทางวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA) ระบบจะทำการส่งสัญญาณสั่นเตือนที่พวงมาลัย พร้อมแจ้งเตือนบนจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ในทันที เมื่อตรวจพบว่ารถยนต์มีการขับข้ามเลนโดยไม่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว และยังช่วยประคองพวงมาลัยเพื่อไม่ให้รถออกนอกเลน
- ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วให้คงที่ โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง โดยระบบจะตรวจวัดระยะห่างจากรถคันหน้าด้วยเรดาร์ และกล้องบริเวณหน้ารถพร้อมลด และเพิ่มความเร็วอัตโนมัติให้สอดคล้องกับรถคันหน้า เพื่อคงระยะห่างที่ปลอดภัยอยู่เสมอ
2022.03.28