เตรียมโชว์ในไทย Honda e: Prototype / HR-V EV ในงาน Motor Expo 2022

Spread the love

Honda e: Prototype รถยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาบนพื้นฐาน HONDA HR-V เตรียมนำมาจัดแสดงต้นแบบในประเทศไทย โดย Honda Automobile (ประเทศไทย) ช่วงงาน Bangkok International Motor Expo 2022 หรือ Motor Expo 2022 ระหว่าง 1 – 12 ธันวาคม 2022 ณ บูทฮอนด้า (A14) อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ขอย้ำว่าเป็นการจัดแสดงโชว์ต้นแบบเท่านั้น หรือ HONDA e:NS1 และ e:NP1 ที่เปิดตัวและจำหน่ายในประเทศจีน สำหรับการเปิดราคาจำหน่ายยังไม่มีข้อมูลในไทย ณ ตอนนี้

ตามรายงานของ ฐานยานยนต์ ระบุว่า 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ ญี่ปุ่นอย่าง HONDA – NISSAN ในประเทศไทย ไม่ขานรับนโยบายหนุน EV ของรัฐฯ และ อดได้เงินหนุน 150,000 บาทตามนโยบาลดังกล่าว ทั้งที่มีโรงงานประกอบในไทย แต่ยังไม่พร้อมดันรถยนต์ BEV

ตอนนี้ เป็นการยืนยันชัดเจนว่า เรายังไม่ได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าของ 2 แบรนด์นี้อย่างชัดเจน ทั้ง ฮอนด้า และ นิสสัน เพราะยังไม่ขอเข้าร่วมโครงการในมาตรการนี้ สำหรับรถยนต์ไฮบริดของฮอนด้า ยังคงดำเนินต่อไป แต่ใครรอ HR-V EV คงต้องดับฝันจริงๆ ณ ตอนนี้

มาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐฯ ไม่ทำให้ฮอนด้าเปลี่ยนแผนงานรถยนต์ไฟฟ้า และ ไฮบริดที่วางเอาไว้ พวกเขาระบุว่า เรายื่นแผนส่งเสริมการลงทุนต่อบีโอไอซึ่งตามกำหนดเราจะผลิต ฮอนด้า EV ในไทยปี 2025 ถึงอย่างนั้นแผนการทั้งหมดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับนโยบายของ ฮอนด้า ประเทศไทย

HONDA e:NS1/HR-V EV

Dongfeng Honda e:NS1 ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า 100% ภายใต้แพลตฟอร์มใหม่ e:N Architecture F เปิดตัววันที่ 26 เมษายน 2022 เวลา 19.30 น. ประเทศจีน Dongfeng Honda เปิดตัว Honda e:NS1 / HR-V EV ใหม่ 4 รุ่นย่อย ราคาจำหน่ายหลังรวมเงินหนุน 175,000 – 218,000 หยวน ประมาณ 916,000 – 1,141,000 บาท ( มีให้เลือก 2 รุ่น e-type อายุการใช้งานแบตเตอรี่ CLTC 420km และ รุ่น e-motion อายุการใช้งานแบตเตอรี่ CLTC 510km )

มาตรฐาน CLTC (China light-duty vehicle test cycle) ของประเทศจีน

车型	售价（万元）
e型版	17.5
e驰版	18.9
e动版	20.7
e境版	21.8

e:NS1 และ e:NP1 พัฒนาภายใต้ แพลตฟอร์ม e:N Architecture F ที่พัฒนาโดย Honda ภายใต้แนวคิดการออกแบบ E:N Design การออกแบบใหม่ทั้งหมด ที่ฮอนด้าไม่เคยทำมาก่อน กระจังหน้าแบบปิดสนิท ไฟหน้าที่เพรียวบาง

การตกแต่งภายในแบบมินิมอล หน้าจอควบคุมกลางแนวตั้ง 15.2 นิ้ว และจอ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ Honda SENSING 360 และระบบเชื่อมต่อการนำทางอัจฉริยะของ Honda CONNECT 3.0 พร้อมผู้ช่วยเสียง AI การอัปเกรด OTA ออนไลน์และฟังก์ชันอื่นๆ

ขนาดตัวถัง

ความยาว 4,390 มม.
ความกว้าง 1,790 มม.
ความสูง 1,560 มม.
ระยะฐานล้อ 2,610 มม.

มอเตอร์ไฟฟ้า รุ่น e-motor ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิตสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร Ternary Lithium Battery แบตเตอรี่ขนาด 68.8 kWh ทำให้วิ่งได้ไกลถึง 510 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง CLTC

ในรุ่น e-Type ให้กำลัง 182 แรงม้า แบตเตอรี่ขนาด 53.6kWh วิ่งได้ 420 กม./ชาร์จ CLTC

พร้อมนิเวศควบคุมอัจฉริยะแบบฟูลสแตก e:NOS ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะของ Honda SENSING 360 และระบบเชื่อมต่อคำแนะนำอัจฉริยะ Honda CONNECT จะถูกรวมเข้าด้วยกัน และระบบโต้ตอบด้วยเสียง พร้อมแสดงผลผ่านหน้าจอขนาดใหญ่ความละเอียดสูง นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบเสียง Honda EV Sound ให้เสียงสปอร์ตและหลากหลาย

Honda CONNECT เจนเนอเรชั่นใหม่จะตรวจจับสภาพการจราจรจากระยะไกล ประมวลความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมการขับขี่ต่างๆ และ แนะนำเส้นทางที่ปลอดภัย

Honda SENSING 360 ครออบคลุมระบบความปลอดภัยที่หลากหลายบนพื้นฐานของกล้อง Monocular เพิ่มเรดาร์คลื่นขนาด 5 มม. ที่ด้านหน้า ครอบคลุมพื้นที่ตาบอดที่ยากต่อการมองเห็นด้วยสายตา

สีเขียวมะนาว

Lightningowners.com

Honda เปิดตัว Honda SENSING 360 ระบบความปลอดภัยรอบทิศทาง และ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่

โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2564 – บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เปิดตัว Honda SENSING 360 ระบบความปลอดภัยรอบทิศทาง และ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่

ซึ่งจะช่วยในการแก้ปัญหาจุดบอดรอบๆคัน และ หลีกเลี่ยงการชน ลดภาระของผู้ขับขี่ ไม่เพียงแค่ด้านหน้า และ ด้านหลัง แต่หมายถึงรอบคัน หรือ รอบทิศทาง

Honda SENSING 360 จะเริ่มมีให้เห็นในรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใหม่ๆ ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป และ มีในรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นในปี 2030

ระบบป้องกันการชนอัตโนมัติ Advancement of Collision Mitigation Braking System (CMBS)

ระบบจะตรวจจับตำแหน่งด้านหน้าของรถ โดยเฉพาะตำแหน่งจุดตัดแยกด้านหน้า ซึ่งจะช่วยเตือน และ เบรกอัตโนมัติในความแม่นยำสูง

ระบบแจ้งเตือนรถตัดหน้าก่อนออกรถ (Front Cross Traffic Warning) ระบบจับตำแหน่งรถที่วิ่งตัดหน้าทางแยก

ระบบจะทำการแจ้งเตือนหากมีรถตัดหน้ากะทันหัน และ ช่วยเบรก เพื่อป้องกันการชน

ระบบหักเลี้ยวป้องกันการชนในระหว่างเปลี่ยนเลน (Lane Change Collision Mitigation) พร้อมป้องกันการออกนอกเลนอัตโนมัติ

หากมีรถในเลนอีกฝั่งวิ่งด้วยความเร็วสูง ระบบจะแจ้งเตือน และ หักพวงมาลัยเพื่อกลับเข้าสู่เลนเดิมชั่วคราว จนกว่าจะปลอดภัย และ สามารถเปลี่ยนเลนได้

ระบบช่วยเปลี่ยนเลน (Active Lane Change Assist)

ระบบจะทำงานระหว่าง ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC) พร้อมระบบติดตามสภาพจราจร รวมทั้งระบบ ช่วยรักษาตำแหน่งเลน Lane Keeping Assist System (LKAS)