Advertisement

Advertisement

เริ่มประกอบรถยนต์ในไทย ไตรมาส 3 ปีนี้ โรงงานของ BYD ครอบคลุมแบรนด์ Yangwang, Fang Cheng Bao และ DENZA

เริ่มประกอบรถยนต์ในไทย ไตรมาส 3 ปีนี้ โรงงานของ BYD ครอบคลุมแบรนด์ Yangwang, Fang Cheng Bao และ DENZA
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

BYD ได้ประกาศแผนประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 โรงงานแห่งนี้จะครอบคลุมรถยนต์ในแบรนด์ BYD, Yangwang, Fang Cheng Bao และ DENZA

วันที่ 10 มีนาคม 2023 BYD ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์สำหรับโรงงานในประเทศไทย พร้อมกำลังการผลิตกว่า 150,000 คันต่อปี นอกจากนี้ยังส่งมอบ BYD ATTO 3 คันที่ 10,000 คัน

Liu Xueliang ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายยานยนต์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของบริษัทกล่าวว่า การตั้งฐานการผลิตรถยนต์นั่งในประเทศไทยเป็นหนึ่งในความคิดริเริ่มที่สำคัญของ BYD เพื่อเร่งการขยายสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิก

โครงการฐานการผลิตตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 960,000 ตารางเมตร

โรงงานแห่งนี้คาดว่าจะเริ่มการผลิตในปี 2024 โดยมีกำลังการผลิตประมาณ 150,000 คันต่อปี

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2022 BYD ได้ลงนามสัญญาซื้อขายที่ดิน กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมของไทย บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ WHA Group เพื่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคล

ข้อตกลงที่ดินดังกล่าวเป็นไปตามข้อผูกพันด้านการลงทุนที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทยในเดือนสิงหาคม ซึ่งรวมถึงโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามูลค่า 17,900 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม BYD ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น Rêver Automotive ได้เปิดตัว Atto 3ในประเทศไทย โดยเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2022

Rêver Automotive จุดประกายความเป็นไปได้ใหม่ๆ เพื่อไปได้ไกลกว่าสิ่งที่ฝัน

Rêver Automotive คือการรวมตัวกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่พร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศ สู่ NEV Nation ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาพร้อมกับแนวคิดและความมุ่งมั่นที่จะสร้างประเทศไทยให้ดีขึ้นด้วยการผลักดัน Net Zero Emission หรือ การลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ มีเป้าหมายปลายทางคือการสร้าง NEV Ecosystem ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นในประเทศ ด้วยเทคโนโลยีและยานยนต์พลังงานรูปแบบใหม่ (New Energy Vehicle – NEV)

ประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rêver Automotive จำกัด กล่าวว่า Rêver Automotive เชื่อว่าอนาคตของประเทศไทยสร้างได้ตั้งแต่วันนี้ เราจึงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบโซลูชั่นด้านพลังงานในฝันรูปแบบใหม่ หรือ NEW DREAM ENERGY โดยนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยสนับสนุนและรองรับระบบนิเวศของนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ และสร้างประเทศในฝันสำหรับทุกคน เริ่มต้นจากการนำเข้า BYD รถยนต์ EV อันดับต้นของโลก เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ”

ความยิ่งใหญ่ของ BYD ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

BYD เป็นองค์กรไฮเทคชั้นนำของโลก ที่มีขอบเขตธุรกิจครอบคลุมด้านอิเล็กทรอนิกส์, พลังงานใหม่, การขนส่งระบบราง และรถยนต์พลังงานใหม่ ในฐานะ “บริษัทที่เน้นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม” (Technology-based, Innovation-oriented) BYD ภายใต้การนำของ Mr. Wang Chuanfu, President BYD มีพนักงานกว่า 290,000 คนทั่วโลก โดยมีวิศวกร R&D มากกว่า 40,000 คน และสถาบันวิจัย 11 แห่งทั่วโลก ทีมออกแบบ in-house ประกอบด้วยนักออกแบบกว่า 400 คน จาก 10 ประเทศ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา BYD มุ่งมั่นทุ่มเท คิดค้น พัฒนานวัตกรรม สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบรับวิสัยทัศน์เพียงหนึ่งเดียวคือ การทำให้โลกเย็นลง 1 องศาเซลเซียส ในปี 2565 BYD ประกาศยกเลิกการผลิตรถยนต์สันดาป และผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 100% เป็น “รายแรกของโลก” ล่าสุด BYD มียอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ทะลุ 1 ล้านคัน และกลายเป็นแบรนด์จีน  รายแรกที่เข้าสู่ “One Million Club” ของยานยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งปัจจุบัน BYD ขยายธุรกิจ ไปกว่า 400 เมือง ในกว่า 70 ประเทศและภูมิภาค ครอบคลุม 6 ทวีป

จุดเริ่มต้นของการผลักดัน NEV Ecosystem ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย

BYD มีที่มาจากคำว่า Build Your Dreams ซึ่งสอดคล้องกับ Rêver จากภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่าความฝันเช่นเดียวกัน จุดเชื่อมโยงของ 2 บริษัทคือการสร้างสิ่งแวดล้อมในฝัน มอบอากาศสะอาดให้กับมวลมนุษยชาติ โดย Rêver Automotive มีพันธกิจหลักที่จะเป็น Solutions Provider ด้านพลังงานในฝันรูปแบบใหม่ (New Dream Energy) ซึ่งเริ่มต้นจากการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์พลังงานใหม่จาก BYD แบรนด์รถยนต์อันดับต้นของโลกที่ขึ้นแท่นยอดขาย New Energy Vehicle อันดับ 1 ในจีน ถึง 9 ปีซ้อน และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก การันตีด้วยยอดขาย ตั้งแต่ปี 2562 -2565 (มิถุนายน) รวมทั้งหมด 2,150,859 คัน มาให้คนไทยได้สัมผัสในอนาคตอันใกล้นี้ นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญสำหรับคนไทย ที่ Rêver Automotive ได้จุดประกายความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เพราะไม่เพียงแต่นำเสนอยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานใหม่ (NEV)   จาก BYD เท่านั้น แต่ Rêver Automotive ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน NEV Nation พร้อมกับสร้างระบบนิเวศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน

ปั้นแบรนด์ให้แข็งแรง จากรากฐานที่มั่นคง

Rêver Automotive ทุ่มงบลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมปั้น BYD ให้เป็น Top 5 ในตลาดยานยนต์ไทยภายใน 5 ปี ด้วยกลยุทธ์ที่ผนึกกำลังจากทั้งความรู้ความชำนาญในธุรกิจรถยนต์ของทีมงานกับผลิตภัณฑ์จาก BYD ที่มีความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Blade Battery ที่ขึ้นแท่นเป็นแบตเตอรี่ EV ที่ดีและปลอดภัยที่สุดในตลาด ผ่านการทดสอบชนิดเอ็กซ์ตรีมที่เรียกว่า “Nail Penetration Test” ด้วยอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ระยะการขับขี่ที่ดีขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือมีความปลอดภัยสูงสุด ช่วยแก้ปัญหา และลดความกังวลด้านความปลอดภัยให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และ e-platform 3.0 แพลตฟอร์มแห่งอนาคตที่ยกระดับการขับขี่รถยนต์ EV ไปอีกขั้น ทั้งอัตราการเร่ง ระยะทางขับขี่ และความเร็วในการชาร์จ การควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำอย่างเสถียร ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้อัจฉริยะยิ่งขึ้น โดยภายในปีนี้ Rêver Automotive จะเปิดตัวและนำรถยนต์พลังงานใหม่จาก BYD มาให้คนไทยได้สัมผัสนวัตกรรมที่ดียิ่งกว่าอย่างแน่นอน

สำหรับกลยุทธ์การตลาด Rêver Automotive ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งเป้าหมายที่จะเป็น Top ในตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ของไทยภายใน 5 ปี ผนึกพลังการบริการการขาย และบริการหลังการขายทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างเท่าเทียมกัน มุ่งเน้นประสานเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ผ่าน Rêver Super Application ที่จะเปิดตัวพร้อมรถรุ่นแรก และขยายโครงข่ายพันธมิตร โดยจะมีตัวแทนจำหน่ายที่มีทั้งโชว์รูมและศูนย์บริการหลังการขายเต็มรูปแบบ 31 แห่งภายในปีนี้ นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ SHARGE เพื่อเปิดสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นจากเดิมในไทยให้ถึง 1,000 สถานี ครอบคลุมทั้งประเทศ ในขณะเดียวกันก็สร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการใช้รถ EV และการชาร์จไฟภายในบ้านที่สะดวกง่ายดายเหมือนชาร์จดีไวซ์ทั่วๆ ไป ทั้งง่าย รวดเร็ว และคุ้มค่า ตอกย้ำความมั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่อย่างครบวงจร พร้อมร่วมขับเคลื่อนประเทศด้วยพลังงานใหม่

“ในฐานะนักลงทุนที่มองเห็นเทรนด์โลกอนาคต พลังงานใหม่ คือเทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนไปสู่อนาคตที่ดีกว่าได้อย่างแท้จริง การลงทุนที่ถูกทางจะสร้างคุณค่าอย่างมหาศาลให้กับผู้ลงทุนในอนาคต พร้อมจุดประกายและขับเคลื่อนความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับมนุษยชาติ นักลงทุนระดับโลกหลายรายที่เข้ามาลงทุนใน BYD ล้วนแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในอนาคตที่เติบโตของแบรนด์ ที่พร้อมจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้คน” ประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rêver Automotive จำกัด กล่าว

 

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้