Sato CEO คนใหม่ TOYOTA เผยแผนสามขั้นตอน ทำกำไร EV ครั้งใหญ่
Koji Sato ซีอีโอคนใหม่ของ Toyota เชื่อว่าผู้ผลิตรถยนต์ยอดนิยมของญี่ปุ่นสามารถทำกำไรก้อนโตจากรถยนต์ไฟฟ้าได้ด้วยขั้นตอนพื้นฐานเพียง 3 ขั้นตอน อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติมันไม่ง่ายเหมือนการวางแผนบนกระดาษ
Koji Sato ซีอีโอคนใหม่ของ Toyota พึ่งนั่งตำแหน่งในวันที่ 1 เมษายน 2023 เขาพยายามเสนอกลยุทธ์ในอนาคตของโตโยต้า โดยเผยแผนที่ปรับปรุงใหม่ แผนดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการผลิต EV และความสามารถในการทำกำไรภายในปี 2030
Koji Sato ได้พูดคุยกับ Automotive News : ระบุว่า ” มันจะเป็นแนวคิดที่แตกต่างจากที่เราเคยมีมาจนถึงตอนนี้ ในช่วงเวลา 3 ขั้นตอน ในการผลิตที่จะได้รับการปรับปรุงอย่างมาก ”
แผน 3 ขั้นตอนของโตโยต้า ดูเหมือนจะเป็นอนาคตใหม่ที่วางเอาไว้ ปัจจุบันพวกเขากำลังเริ่มต้นอยู่ที่ขั้นตอนที่ 1 โดยแผนส่วนที่สองจะมีขึ้นประมาณปี 2026 และความพยายามขั้นสุดท้ายจะเกิดขึ้นภายในปี 2030 Toyota ตั้งเป้าที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 1.5 ล้านคันทั่วโลกภายในปี 2025 และ 3.5 ล้านคันภายในปี 2030 พร้อมปรับปรุงต้นทุนในการผลิตให้ต่ำลง เพื่อสร้างรถยนต์ไฟฟ้าในราคาไม่แพง
Sato กล่าวอย่างชัดเจนในการแถลงข่าวว่า Toyota เพิ่งเริ่มต้น บริษัทใช้เวลาหลายปีกับรถยนต์ไฟฟ้า สิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่าคู่แข่งจะก้าวนำไปก่อน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ตอนนี้ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นก็มีประเด็นสำคัญที่ต้องทำอีกมากมาย
เริ่มต้นด้วย “ขั้นตอนที่ 1”
ซึ่งเริ่มก่อนที่ CEO Sato เข้ามารับตำแหน่ง Toyota ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ bZ โดยมี bZ4x จำหน่ายในปัจจุบัน และพึ่งเปิดตัวต้นแบบในงาน เชี่ยงไฮ้ ออโต้โชว์ 2023 ได้แก่ bZ FlexSpace และ bZ Sport Crossover ชุดแรกบนแพลตฟอร์มใหม่ เบื้องต้นรถใหม่อยู่ระหว่างการพัฒนาโดยมีจุดประสงค์เพื่อขยายและพัฒนา BEV ที่ดึงดูดลูกค้าในประเทศจีน
Sato ตั้งข้อสังเกตว่านี่เป็นประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับ Toyota เนื่องจากการเปิดตัว bZ4X ไม่สามารถประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ปัญหาของ EV อาจเป็นสิ่งที่ Toyota ต้องปรับปรุง และส่งสัญญาณให้ CEO คนใหม่ ต้องยอมรับว่า ” เรากำลังปรับปรุง และ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าดึงดูดใจและความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ และเราจะดำเนินการอย่างรวดเร็ว ”
- เราคาดว่า โตโยต้ากำลังละทิ้ง e-TNGA แพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ใน bZ4X และ พวกเขากำลังสร้างแพลตฟอร์มเฉพาะของยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ เพื่อลดต้นทุนในการผลิตในอนาคต
ขั้นตอนที่ 2
CEO Sato โตโยต้าจะรวมระบบปฏิบัติการรถยนต์ Arene ซึ่งพัฒนาซอฟต์แวร์โดยบริษัท Woven ด้วยแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์และรุ่นรถ EV ที่นำเสนอ พร้อม “การปรับปรุงและแก้ไขอย่างรวดเร็ว” จึงสมเหตุสมผลที่จะติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ที่ประสบความสำเร็จให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ขั้นตอนที่ 3
Sato กล่าวถึง “ขั้นตอนที่ 3″ ว่าเป็นจุดสุดยอดของแผนการและความพยายามร่วมกันของผู้ผลิตรถยนต์ โดยเปรียบเสมือน ” เค้กสามชั้น” เขากล่าวว่าโตโยต้าจะเปลี่ยนไปใช้โครงสร้างใหม่และวางระบบปฏิบัติการ Arene ด้วยบริการซอฟต์แวร์ที่อัปเดต ด้วยตัวถังใหม่จะมาพร้อมกับแพลตฟอร์ม EV ที่สร้างขึ้นใหม่ตามวัตถุประสงค์ซึ่งเพิ่มพื้นที่ ประสิทธิภาพสูงสุด
เนื่องจาก ปัจจุบัน Tesla เป็นผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าด้วยอัตรากำไรที่ค่อนมาก โตโยต้าจึงต้องเพิ่มปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมากเพื่อให้ได้อัตรากำไรในอนาคต ซึ่งอาจต้องแข่งขันให้ดีที่สุด ปัจจุบันอัตรากำไรของ Tesla อยู่ที่ประมาณ 20% ในขณะที่อัตรากำไรของ Toyota อยู่ที่ประมาณ 10%
ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นมีเป้าหมายที่จะเพิ่มอัตรากำไรและความสามารถในการทำกำไรของ EV โดยดำเนินการตามเป้าหมายการผลิตรถยนต์ 10 ล้านคันต่อปี อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับตลาด รถยนต์จำนวนมากจะยังคงเป็นรถยนต์ไฮบริดที่ทำกำไรได้มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ซาโต้เสริม:
“ปริมาณ 10 ล้านคันมีอยู่แล้ว มันเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเร่งการลงทุนในฐานใหม่ของการวิจัยและพัฒนา นี้คือจุดแข็งแกร่งที่สุดของเรา ”
ก่อนหน้านี้วันที่ 7 เมษายน 2023 Koji Sato ซีอีโอคนใหม่ของ Toyota ตั้งเป้าหมายให้บริษัทขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 1.5 ล้านคันต่อปีภายในปี 2026 โดยเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่อไปกว่า 10 รุ่น
โตโญต้า เปิดตัวกลยุทธ์การใช้พลังงานไฟฟ้าใหม่ ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Koji Sato ซึ่งเข้ามาแทนที่ Akio Toyoda เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2023 ในขณะที่บริษัทวางแผนที่จะนำเสนอรถยนต์ที่มีระบบส่งกำลังประเภทต่างๆ ต่อไป แต่ก็ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแบตเตอรี่ไฟฟ้ามากขึ้น สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าล้วน
ในระหว่างการนำเสนอ Sato ประกาศว่า Toyota วางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ใหม่ 10 รุ่นภายในปี 2026 ดยมีเป้าหมายเพื่อขยายขอบเขตการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ นี้คือความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของโตโยต้า ที่จะสร้างกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ แม้ว่าพวกเขาจะช้ากว่าหลายแบรนด์
แม้ว่า Toyota จะไม่ได้กล่าวถึงเป้าหมายเดิมที่จะขาย 3.5 ล้าน BEV ต่อปีภายในปี 2030 แต่บริษัทก็คาดการณ์ว่าจะขาย 1.5 ล้าน BEV ต่อปีภายในปี 2026 โตโยต้า ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติม แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่จะเปิดตัวได้แก่ Tacoma EV, Crown EV และbZ Compact SUV
ฮิโรกิ นากาจิมะ รองประธานบริหารของ Toyota กล่าวถึงแผนการของบริษัทสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่รุ่นต่อไป (BEV) ซึ่งมีกำหนดจะเปิดตัวหลังปี 2026 รถยนต์ไฟฟ้าล้วน จะเสริมประสิทธิภาพการขับขี่ที่เร้าใจมากขึ้น Nakajima ตั้งข้อสังเกตว่า EV รุ่นต่อไปจะนำเสนอ “ระยะสองเท่าโดยใช้แบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น” เขายังสัญญาว่าการออกแบบและสมรรถนะการขับขี่ของพวกเขาจะน่าประทับใจ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมการแนะนำ Lexus ด้ววยภาพสเก็ตซ์เงา แสดงให้เห็นการออกแบบฟาสต์แบ็กไฟฟ้ารุ่นใหม่ พร้อมสไตล์ที่เฉียบคม เพื่อให้แผนเหล่านี้บรรลุผล TOYOTA ได้ประกาศจัดตั้งหน่วยงานใหม่เฉพาะทางขึ้น หรือ “All in One Team” โดยจะมีผู้นำคนเดียวมีอำนาจเต็มในการตัดสินใจ และจะรับผิดชอบในทุกด้านของการพัฒนา การผลิต และการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า
ยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ของญี่ปุ่นยังได้พูดคุยเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ Arene ใหม่สำหรับ EV รุ่นต่อไปที่จะรองรับการอัปเดตแบบ over-the-air และอนุญาตให้เจ้าของรถปรับแต่งได้เพื่ออรรถรสในการขับขี่ที่สนุกมากขึ้น
นอกเหนือจากการมุ่งเน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้าแล้ว โตโยต้าจะยังคงพัฒนารถยนต์ไฮบริดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีราคาย่อมเยา ในขณะที่นำเสนอรถปลั๊กอินไฮบริดที่มีระยะทางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียวมากกว่า 200 กม.
TOYOTA ยังให้ความสำคัญกับพลังงานไฮโดรเจน และ เชื้อเพลิงทางเลือกอื่นๆอีกต่อไป ความพยายามของโตโยต้าในการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด จะมีส่วนช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายระยะยาวในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050
โยอิจิ มิยาซากิ รองประธานบริหารของ Toyota ได้ระบุจุดเน้นของบริษัทในแต่ละภูมิภาค ในยุโรป Toyota จะเน้นสไตล์และสมรรถนะการขับขี่ ขณะที่ในจีนจะเน้นไปที่การใช้พลังงานไฟฟ้า สำหรับประเทศญี่ปุ่น โตโยต้าจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนารถยนต์ขนาดเล็กและรถมินิแวน ในขณะที่ในอเมริกาเหนือ จะเน้นไปที่รถ SUV และรถปิคอัพขนาดใหญ่ ประการสุดท้าย สำหรับภูมิภาคทางตอนใต้ทั่วโลก โตโยต้าจะเน้นคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และราคาที่จับต้องได้
ด้วยการมุ่งเน้นไปที่ความต้องการเฉพาะและลำดับความสำคัญของแต่ละภูมิภาค โตโยต้าหวังที่จะพัฒนายานยนต์ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทั่วโลก และก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดยานยนต์ระดับโลก
TOYOTA เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า bZ FlexSpace และ bZ Sport Crossover ต้นแบบในประเทศจีน