TOYOTA ได้เงินสนุน 29,445 ล้านบาทจากญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาแบตเตอรี่ ลดพึ่งพาจีน
ต้นแบบแบตเตอรี่โวลิดสเตตของโตโยต้า
TOYOTA ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นกว่า 850 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 29,445 ล้านบาท ร์สำหรับการพัฒนาแบตเตอรี่ EV รุ่นต่อไป เงินดังกล่าวจะใช้เพื่อพัฒนาชุด LFP แบบไบโพลาร์ รวมถึงแบตเตอรี่โซลิดสเตตทั้งหมด
โตโยต้า มอเตอร์ จะได้รับเงินอุดหนุนประมาณ 853 ล้านดอลลาร์ จากรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อขยายการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ในการพัฒนาและเพิ่มผลการผลิตในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องเพื่อลดการพึ่งพาประเทศจีนให้น้อยลง ตามข้อมูลของNikkei
โตโยต้ากล่าวว่าจะใช้เงินเพื่อพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน EV รุ่นต่อไปซึ่งใช้เทคโนโลยีลิเธียมเหล็กฟอสเฟตแบบสองขั้วและมีศักยภาพในการให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าได้ไกลขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์และมีราคาต่ำกว่าลิเธียมรุ่นปัจจุบันประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์
วันที่ 13 มิถุนายน 2023 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (โตโยต้า) จัดงานบรรยายสรุปทางเทคนิค “Toyota Technical Workshop” ภายใต้หัวข้อ “Let’s Change the Future of Cars” เผยว่า TOYOTA กำลังวางแผนพัฒนาการรวมแบตเตอรี่ให้ได้ระยะทางการวิ่งได้ไกลมากยิ่งขึ้น ภายใต้แรงกดดันจากนักวิจารณ์และนักลงทุน ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นดูเหมือนจะยกระดับเกมการใช้พลังงานไฟฟ้า ให้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าปัจจุบัน
TOYOTA ตกอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างต่อเนื่องจากนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและผู้ถือหุ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากพวกเขาต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่การผลิตพลังงานไฟฟ้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของแบรนด์
ดูเหมือนว่า โตโยต้าได้เผยถึงแผนอันทะเยอทะยานที่คาดการณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีระยะทางมากกว่า 965 กม./ชาร์จ ภายในปี 2026 และ กว่า 1,448 กม./ชาร์จ ภายในปี 2028 เป็นต้นไป โตโยต้าไม่ได้ระบุว่าจะเป็นรถยนต์รุ่นไหน
เมื่อพูดถึงการชาร์จ Toyota ตั้งเป้าไว้ 10 นาทีหรือน้อยกว่านั้นในการชาร์จแบตเตอรี่โซลิดสเตตตั้งแต่ 10-80% เมื่อใช้เครื่องชาร์จแบบเร็ว DC นั่นคือประมาณครึ่งหนึ่งของเวลาที่แบตเตอรี่ชาร์จเร็วที่สุดต้องการในปัจจุบัน แต่แบตเตอรี่แบบโซลิดสเตตจะมีระยะที่ไกลกว่ามากเช่นกัน
โตโยต้า ตั้งใจที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกที่สามารถวิ่งได้กว่า 965 กม./ชาร์จในผลิตภัณฑ์ LEXUS ดยใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรุ่นถัดไป ตามรายงานของ Automotive News.
ระหว่างปี 2026 – 2027 จะเกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตสองขั้วที่สามารถลดต้นทุนได้ 40 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ในขณะที่แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กสองขั้วขั้นสูงที่มีระยะเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์มีกำหนดจะเริ่มการผลิตในปี 2027 – 2028
ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว โตโยต้าคาดว่าพวกเขาสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าล้วนกว่า 1.7 ล้านคัน ภายใต้สถาปัตยกรรมใหม่ที่พัฒนาขึ้นเอง ภายในปี 2030 ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากแบตเตอรี่โซลิดสเตตที่เริ่มใช้ในปี 2027
แบตเตอรี่เหล่านี้สามารถเพิ่มระยะได้ 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับชุดลิเธียมไอออนรุ่นถัดไป ในขณะที่แบตเตอรี่โซลิดสเตตขั้นสูงที่มีกำหนดเปิดตัวหลังปี 2028 ามารถเพิ่มระยะได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ กว่า 1,448 กม./ชาร์จ ของการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ รถยนต์ที่สามารถติดตั้งแบตเตอรี่นี้ได้จะเป็นรุ่นยอดนิยม และ คือเรือธงอันดับต้นๆของโตโยต้า ในกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมียม
นอกจากนี้โตโยต้า จะใช้เทคโนโลยีการหล่อแบบ Giga พื่อลดความซับซ้อนและเร่งการผลิตรถยนต์ เทคโนโลยีดังกล่าวเราเข้าใจดีว่า Tesla ทำเจ้าแรกๆอย่าง Giga Presses มีเป้าหมายที่จะพัฒนาการออกแบบพิเศษตามหลักอากาศพลศาสตร์โดยมีค่าสัมประสิทธิ์การลากต่ำกว่า 0.20 ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
แผนหลายจุดถูกวางโดยผู้บริหารระดับสูงของ Toyota เป็นครั้งแรกในเดือนนี้ที่ศูนย์เทคนิค Higashi-Fuji ของบริษัท ภายใต้หัวข้อ “มาเปลี่ยนอนาคตของรถยนต์กันเถอะ” ในการนำเสนอ ตัวแทนของบริษัทชี้ให้เห็นว่า Toyota มีทั้งเทคโนโลยีและระบบการผลิตที่จำเป็นในการส่งมอบ EV ชั้นนำของอุตสาหกรรมในปี 2026
“เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในด้านแบตเตอรี่” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี Hiroki Nakajima กล่าว “เราต้องการตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับแบตเตอรี่ เช่นเดียวกับที่เรามีเครื่องยนต์รุ่นต่างๆ กัน สิ่งสำคัญคือต้องทำให้แบตเตอรี่เหล่านี้เข้ากันได้กับรุ่นต่างๆ”
ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นต้องการปรับตัวอย่างหนักในรถยนต์ไฟฟ้าล้วน รวมถึงสร้้างรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ในสหรัฐฯ ภายในปี 2025 บริษัทจะยังคงพัฒนาและผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในเช่นเดียวกับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน
ปัจจุบัน Toyota มีรถ EV เพียงคันเดียวที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา นั่นคือรุ่น bZ4X Crossover ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 42,000 เหรียญสหรัฐฯ และมีระยะทางที่ประเมินโดย 405 กม./ชาร์จ EPA
Toyota วางแผนที่จะเปิดตัว BEV ใหม่ 10 รุ่นภายในปี 2026 และจะผลิต SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในรัฐเคนตักกี้ตั้งแต่ปี 2025 รวมถึงลงทุน 2.1 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานแบตเตอรี่ใน North Carolina
นอกจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่แล้ว โตโยต้ายังจะลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดและรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนต่อไป
965 กม./ชาร์จ ในปี 2026 TOYOTA พร้อมสร้าง 1,448 กม./ชาร์จ ในปี 2028 บนแบตเตอรี่ และ สถาปัตยกรรมใหม่
https://www.car250.com/toyota-giga-press.html