750 กม./ชาร์จ WLTP Mercedes-Benz Concept CLA Class อนาคตของ CLA Class EV รองรับชาร์จ 15 นาทีวิ่งได้ 400 กม.

Spread the love

วันที่ 4 กันยายน 2023 Mercedes CLA Concept ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ มันคือ CLA เจเนอเรชั่นถัดไป ที่มาพร้อมระบบไฟฟ้าล้วน พร้อมจัดแสดงในงาน มิวนิกมอเตอร์โชว์ IAA Mobility 2023 2023 ที่จัดขึ้นวันที่ 5 กันยายนนี้ ในประเทศเยอรมัน

สิ่งที่น่าสนใจ Mercedes-Benz Concept CLA Class

Mercedes Modula rArchitecture หรือ MMA แพลตฟอร์มขั้นสูงที่มีความยืดหยุ่นสูง นำเสนอก้าวต่อไปแห่งอนาคตพลังงานไฟฟ้าของ Mercedes-Benz
สามารถวิ่งได้ถึง 750 กม./ชาร์จ WLTP
รองรับการชาร์จความเร็วสูง 800V สามารถชาร์จ 15 นาทีวิ่งได้ 400 กม.
MBOS สถาปัตยกรรมชิปสู่คลาวด์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าด้วยระดับใหม่ของความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และการขับขี่อัตโนมัติ
MBUX Superscreen กราฟิกแบบเรียลไทม์ที่ขับเคลื่อนโดย Unity Game Engine ซึ่งบุกเบิกใน VISION EQXX
ระบบปฏิบัติการ MB.OS ใ

Mercedes-Benz Concept CLA Class ได้รับการออกแบบบนแพลตฟอร์ม Mercedes-Benz Modular Architecture (MMA) ที่กำลังจะมีขึ้น ความสวยงามภายนอกของ Concept CLA Class แสดงถึงการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์และสมรรถนะแบบไดนามิก ในขณะเดียวกันการตกแต่งภายในมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของลูกค้าด้วยความสะดวกสบายเป็นพิเศษสำหรับอนาคตทางไฟฟ้าและดิจิทัล

“Concept CLA Class คือผู้บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้าระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ทั้งหมดของ Mercedes-Benz กลุ่มผลิตภัณฑ์จะประกอบด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รถยนต์คูเป้ 4 ประตู ชูตติ้งเบรก และรถเอสยูวีอันน่าทึ่งอีก 2 รุ่น แต่ละรุ่นได้รับการยกระดับอย่างพรีเมียม สัมผัสถึงความเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างไม่ผิดเพี้ยน พร้อมฟีเจอร์ที่มากขึ้น ความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่มากขึ้น และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุด พร้อมระยะการวิ่งไกลถึง 750 กม./ชาร์จ WLTP ใช้พลังงานเพียง 12 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กิโลเมตร ภายใต้สถาปัตยกรรม MMA และ CLA Class จะเป็นรุ่นแรกเป็นแพลตฟอร์มนี้นเพื่อนำความทะเยอทะยาน 2039 ของเรามาสู่ท้องถนน โดยเราตั้งเป้าที่จะบรรลุความเป็นกลางของคาร์บอนสุทธิตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดในกลุ่มยานยนต์ใหม่ของเราในปี 2039” Ola Källenius ประธานคณะกรรมการบริหาร Mercedes-Benz Group AG

ในขณะเดียวกัน ระบบปฏิบัติการใหม่ “MB.OS” ก็เป็นพื้นฐานสำหรับอินเทอร์เฟซผู้ใช้และประสบการณ์ผู้ใช้ (UI/UX) ที่ไม่มีใครเทียบได้ผ่าน MBUX Superscreen ที่ได้มาจากจอแสดงผลที่เป็นนวัตกรรมใน VISION EQXX ที่ผสมผสานกราฟิกเรียลไทม์ขั้นสูง พร้อมชิปประสิทธิภาพสูงจาก NVIDIA

Concept CLA Class นำเสนอการใช้วัสดุที่ยั่งยืนตลอดทั้งโครงสร้างและการตกแต่งภายใน มีตั้งแต่เหล็กเกือบปลอด CO₂ และอะลูมิเนียมลด CO₂ ไปจนถึงเบาะหนังที่ผลิตและแปรรูปอย่างยั่งยืน รวมถึงส่วนตกแต่งที่ทำจากกระดาษ โดยรวมแล้ว รถโชว์คันนี้สื่อถึงการตีความความปรารถนาของกลุ่มตลาดโลกที่มีความอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวา

เบาะนั่งสีเงินและสีขาวทำจากหนัง Nappa ที่ผ่านการฟอกด้วยเปลือกกาแฟ ซึ่งเป็นผลพลอยได้ที่ใช้ไม่ได้ของอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม และผ้าเน้นสีม่วงแวววาวทำจากพลาสติก PET รีไซเคิล แถบผ้าไหมที่ปลูกในห้องแล็บปรากฏอยู่ในช่องประตู พรมปูพื้นทำจากไม้ไผ่ ส่วนดึงประตูและที่วางแขนสีเงินซาตินทำจากกระดาษรีไซเคิล

“เทคโนโลยีที่เป็นรากฐานสำหรับ Concept CLA Class แสดงถึงแนวทางใหม่ทั้งหมดสำหรับ Mercedes-Benz และรวมเอาการเรียนรู้มากมายจากเทคโนโลยี VISION EQXX เช่น วิศวกรของเราได้เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดโดยการลดการสูญเสียในระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 800 V นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติทางเคมีของเซลล์แบตเตอรี่ที่เป็นนวัตกรรม ตลอดจนการบูรณาการในระดับสูงทำให้มีความหนาแน่นของพลังงานที่ดีเยี่ยม แพลตฟอร์ม MMA ของเราจะช่วยให้เราสามารถเสนอลูกค้าของเราในตลาดนี้ด้วยการผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพ ความยั่งยืน ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ควบคู่ไปกับประสบการณ์ดิจิทัลที่โดดเด่น” Markus Schäfer สมาชิกคณะกรรมการบริหารของ Mercedes-Benz Group AG ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี

สถาปัตยกรรม 800V ความสามารถในการชาร์จเร็ว DC 250 kW ซึ่งจะช่วยให้โมเดลสามารถเดินทางได้ไกลถึง 400 กม. ในการชาร์จ 15 นาที
รองรับชาร์จแบบสองทิศทาง สามารถใช้งานฟังก์ชัน Vehicle-to-Home (V2H) และ Vehicle-to-Grid (V2G)

มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 235 แรงม้า ซึ่งมีน้ำหนักน้อยกว่า 110 กก.บริษัทเสริมว่าชุดขับเคลื่อนไฟฟ้ามี “ประสิทธิภาพพลังงานที่สูงมากถึง 93 เปอร์เซ็นต์จากแบตเตอรี่หนึ่งไปอีกล้อในการขับขี่ระยะไกล … เนื่องจากการลดการสูญเสียอย่างพิถีพิถัน” ความจุแบตเตอรี่ 89.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง อายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 750 กม./ชาร์จ WLTP อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานต่อ 100 กิโลเมตร เพียง 12kWh

Concept CLA Class ใหม่ยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติระดับ 2 ที่ได้รับความช่วยเหลือจากเซ็นเซอร์ LiDAR และกล้องหลายตัว ให้การขับขี่แบบแม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูง