TOYOTA ขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเพียง 0.92% หรือ 104,018 คันทั่วโลกในปี 2023

ในปี 2023 TOYOTA ยืนหนึ่งยอดขายรถยนต์ของโลกเป็นเวลากว่า 4 ปีติดต่อกัน โดยพวกเขาสามารถทำยอดขายกว่า 11,233,039 คันที่จำหน่ายโดยโตโยต้าและบริษัทในเครือ มีเพียงไม่กี่คันที่ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน การส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่มีจำนวน 104,018 คัน

รวมยอดขาย TOYOTA และ เครือ

• ยอดขายรวม 11,233,039 คัน
• ไฟฟ้าล้วน BEV : 104,018 คัน
• Full HYBRID : 3,420,004 คัน
• Mild HYBRID 26,859 คัน
• ปลั๊กอินไฮบริด 124,755 คัน
• FCEV : 3,921 คัน
• รวมรถยนต์ไฟฟ้า : 3,679,557 คัน

รถยนต์ไฟฟ้าล้วนหรือ BEV ของโตโยต้าและเครือมียอดขายกว่า 104,018 คัน มีอัตราการเติบโต 325.2 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปี ความจริงก็คือรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นเพียงร้อยละ 0.926% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในปีที่ผ่านมา

มีรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากที่กำลังจะเข้าสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ “Beyond Zero” (bZ) แต่บริษัทคาดการณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่จะยังคงเป็นส่วนน้อยเสมอ แม้ว่าโตโยต้าจะกระจายกลุ่มผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าออกไปแล้วก็ตาม แบตเตอรี่ EV ก็คาดว่าจะมีสัดส่วนเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ของยอดขาย ในการให้สัมภาษณ์กับ นิตยสาร Toyota Times ประธาน Akio Toyodaกล่าวว่า:

“ไม่ว่า BEV จะก้าวหน้าไปมากขนาดไหน ผมคิดว่าพวกเขาจะมีส่วนแบ่งตลาด 30% ซึ่งเหลือ 70% ที่เหลือเป็น HEV, FCEV หรือเครื่องยนต์ไฮโดรเจน ผมไม่สงสัยเลยว่ายานยนต์ที่มีเครื่องยนต์ยังไงก็อยู่รอด”

โตโยต้ายืนกรานว่าเครื่องยนต์สันดาปสามารถอยู่รอดได้ แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์จะพยายามกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ตาม2การปล่อยมลพิษ รถต้นแบบรุ่นทดลองของ GR Yaris และ GR Corolla ได้รับการทดสอบกับเครื่องยนต์ 3 สูบเทอร์โบชาร์จขนาด 1.6 ลิตรที่ได้รับการดัดแปลงให้ใช้ไฮโดรเจนแทนน้ำมันเบนซิน นอกจากนี้ บริษัทยังเชื่อว่าเชื้อเพลิงสังเคราะห์อาจสามารถช่วย ICE ได้เช่นกัน ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ยอมแพ้กับเทคโนโลยีไฮโดรเจน เนื่องจากNexo ใหม่พร้อมเซลล์เชื้อเพลิงเจเนอเรชันถัดไปได้รับการยืนยันสำหรับการเปิดตัวในปี 2025

การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ Tesla อาจทำให้ Toyota กังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อModel Y เป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกในปี 2023 อย่างไรก็ตาม ยังมีเวลาอีกมากที่ Toyota จะดำเนินการร่วมกันและพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ดึงดูดลูกค้า มีเสียงพึมพำอยู่แล้วว่าการห้ามรถยนต์ของสหภาพยุโรปที่ก่อให้เกิดการปล่อยมลพิษอาจล่าช้าออกไปเกินปี 2035 หากเป็นเช่นนั้น ก็จะช่วยบรรเทาความกดดันที่ Toyota กำลังเผชิญอยู่ได้ ในขณะเดียวกัน ก็ทำในสิ่งที่รู้ดีที่สุด ซึ่งก็คือการขายรถยนต์จำนวนหนึ่งพันล้านคันที่มีระบบขับเคลื่อนไฮบริดประเภทต่างๆ

Volkswagen Group ซึ่งเป็นคู่แข่งหลักของ Toyota จะต้องคว้าอันดับที่ 2 อีกครั้งในปี 2023 โดยยอดส่งมอบรวมเพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์เป็น 9.24 ล้านคัน อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทยานยนต์สัญชาติเยอรมันขายรถยนต์ EV ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาได้มากกว่าโตโยต้ามาก เนื่องจากยอดจัดส่งรถยนต์ไร้มลพิษสูงถึงประมาณ 770,000 คัน เพิ่มขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนแบ่งของรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 8.3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 จากปีก่อน

รถยนต์ขายดีสุดในโลกประจำปี 2023

• TESLA MODEL Y : 1.23 ล้านคัน
• TOYOTA RAV4 : 1.07 ล้านคัน
• TOYOTA COROLLA : 1.01 ล้านคัน