อาจเปิดตัวในไทย 20 มีนาคมนี้ TOYOTA HILUX REVO Mild HYBRID 48V พร้อม GR SPORT

Spread the love

เราเข้าใจดีว่า TOYOTA HILUX GR SPORT ตัวแรง 224 แรงม้าจะเปิดตัวในวันที่ 20 มีนาคม 2024 และล่าสุดทางแฟนเพจ HILUX REVO THAILAND ได้ปล่อยภาพ HILUX GENERATION ใหม่ การรวมตัว สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ ชื่อดังกล่าวค่อนข้างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ รวมทั้งมีพื้นหลังสีฟ้าที่เราเชื่อว่ามันคือไฮบริด เราคาดว่าน่าจะเป็นการเปิดตัว HILUX Mild HYBIRD 48V ที่เผยในออสเตรเลียก่อนหน้านี้ หากไม่มีอะไรผิดพลาด (เป็นการคาดเดา)

Carexpert สื่อรถยนต์ออสเตรเลียชื่อดังเผยข้อมูล ของ HILUX MILD HYBRID ในออสเตรเลีย ที่กำลังจะมาถึง โดยผู้ซื้อจะต้องจ่ายเงินมากกว่า 1,605 ดอลลาร์ หรือประมาณ 37,900 บาท สำหรับเทคโนโลยี Mild HYBRID ดังกล่าว

สำหรับชื่ออย่างเป็นทางการของระบบไฮบริดคือ V-Active Technology ซึ่งเป็นระบบ Mild Hybrid ขนาด 48 โวลต์ มีเฉพาะใน Toyota HiLux รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 4×4 จำนวน 5 รุ่นเท่านั้น

Toyota HiLux SR เป็นเกรดที่มีราคาถูกที่สุดที่จะได้ระบบไฮบริดแบบอ่อนมาเป็นตัวเลือกราคา โดยมีราคาพรีเมียม 1,025 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 24,210 บาท และ 1,605 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 37,900 บาท สำหรับรถกระบะแบบดูอัลแค็บ การเพิ่มเทคโนโลยี 48 โวลต์ให้กับ SR5 และ Rogue มาพร้อมกับเครื่องชาร์จไร้สายและพอร์ต USB-C ด้านหลังสองพอร์ต

2024 Toyota HiLux V-Active pricing

Toyota HiLux SR 4×4 dual-cab chassis auto: $54,130 หรือประมาณ 1.27 ล้านบาท
Toyota HiLux SR 4×4 dual-cab pickup auto: $56,210 หรือประมาณ 1.32 ล้านบาท
Toyota HiLux SR5 4×4 dual-cab chassis auto: $60,580 หรือประมาณ 1.42 ล้านบาท
Toyota HiLux SR5 4×4 dual-cab pickup auto: $63,260 หรือประมาณ 1.49 ล้านบาท
Toyota HiLux Rogue 4×4 dual-cab pickup auto: $71,530 หรือประมาณ 1.68 ล้านบาท

V-Active (Mild HYBRID)	Price	ราคาเพิ่ม
SR double-cab chassis	$54,130	+$1025
SR double-cab pick-up	$56,210	+$1605
SR5 double-cab chassis	$60,580	+$590
SR5 double-cab pick-up	$63,260	+$770
Rogue double-cab pick-up	$71,530	+$770

ก่อนหน้านี้วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2024 TOYOTA ออสเตรเลียปล่อยภาพ TOYOTA HILUX Mild HYBRID ไมเนอร์เช้นจ์ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2024 บนระบบส่งกำลังเทอร์โบดีเซลอ่อนไฮบริด 48 โวลต์ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้

รูปลักษณ์ที่ได้รับการปรับปรุง เทคโนโลยีเพิ่มเติม และเทคโนโลยี 48 โวลต์สำหรับบางรุ่น
ราคาจะได้รับการยืนยันเมื่อใกล้เปิดตัวเดือนมีนาคม
รุ่นเรือธง SR5, Rogue และ GR Sport มีที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สายติดกับคันเกียร์และพอร์ต USB-C ด้านหลังสองพอร์ต

รุ่น WorkMate จะมีกระจังหน้าแบบตาข่ายรังผึ้งสีดำ จับคู่กับกันชนด้านข้างสีดำด้านล่างและสีเดียวกับตัวรถ โดยมีแชสซีแบบซิงเกิลแค็บ และรุ่นเบนซินดูอัลแค็บ ซึ่งขณะนี้มีสีดำแทนที่จะเป็นสีเทาเข้มที่กันชนหน้า รุ่น SR มาพร้อมกันชนล่างสีเงิน ในขณะที่ SR5 มาพร้อมกระจังหน้าด้านบนสีดำ ไฟหน้าสีเข้ม และกรอบไฟตัดหมอก กระจกมองข้าง และมือจับประตูสีดำเงา รุ่นมิลด์ไฮบริด 48 โวลต์เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ 2.8 ลิตรของ Toyota มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถ SR5 auto และ Rogue dual-cab และเป็นอุปกรณ์เสริมในรุ่น 4×4 SR dual-cab

ตัวเลือกกล่องตัวเลือก 48V ในรุ่น SR ยังมาพร้อมกับระบบควบคุมสภาพอากาศแบบดูอัลโซน การเข้าและออกรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจ พรมปูพื้นพรม และการปรับขึ้น/ลงอัตโนมัติสำหรับกระจกไฟฟ้า ระบบ 48V ประกอบด้วยมอเตอร์เครื่องกำเนิดไฟฟ้า แบตเตอรี่ 48 โวลต์ และตัวแปลง DC/DC ระบบส่งกำลังนี้มีคุณสมบัติการหยุด/สตาร์ทขณะเดินเบา พร้อมด้วย Multi-Terrain Select มาตรฐานพร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้หกโหมด

โตโยต้ากล่าวว่าระบบ 48 โวลต์จะ “ปรับปรุงความนุ่มนวลของเครื่องยนต์และการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง” ของเครื่องยนต์ 2.8 ลิตรประมาณร้อยละ 6 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับรุ่น เมื่อเทียบกับรุ่น HiLux ที่เทียบเท่ากันซึ่งไม่มีระบบไฟฟ้า นั้นแสดงว่าปัจจุบันดีเซล 2.8 ลิตรเกียร์ AT ตามข้อมูล Ecostic ในไทยประหยัด 13.5 กม./ ลิตร หากประหยัดขึ้น 10% นั้นแสดงว่ามีอัตรประหยัดเพิ่ม 1.35 กม./ ลิตร เท่ากับประหยัด 14.85 กม./ลิตร (ใช้จริงๆลดกว่านี้พอสมควร) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีคำว่า ‘ไฮบริด’ ในแบรนด์ของ Toyota Australia จึงไม่ถือเป็นระบบไฮบริดเต็มรูปแบบ และรถไม่สามารถทำงานโดยใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้

ระบบ 48 โวลต์จับคู่กับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.8 ลิตร ให้กำลัง 201 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมด้วยแบตเตอรี่ 48 โวลต์เพิ่มเติม

โตโยต้ากำลังทำการตลาดระบบมิลด์ไฮบริด ตามที่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ที่นำเสนอเทคโนโลยีนี้ ภายใต้ชื่อ “เทคโนโลยี 48 โวลต์” เนื่องจากไม่สามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ (มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์) เช่นเดียวกับน้ำมันเบนซินของโตโยต้า – รถยนต์นั่งส่วนบุคคลและ SUV ซึ่งจะทำให้ประหยัดน้ำมันประมาณ 11.9 – 12.6 กม./ลิตร นอกจากนี้ Toyota ยังยืนยันว่ารุ่น V-Active จะมาพร้อมกับระบบออฟโรด ‘Multi-Terrain Select’ (MTS) ของแบรนด์ซึ่งมีโหมด Dirt, Sand, Mud, Deep Snow และ Auto ในโหมด High-Range และ Sand, Mud, Auto และ โหมดร็อคในช่วงต่ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนขณะออฟโรด