เปิดตัว KIA K4 ใหม่ในสหรัฐฯ พร้อม 1.6T 190 แรงม้า คู่แข่ง HONDA CIVIC
นิวยอร์ก, 27 มีนาคม 2024 – วันนี้ Kia เปิดตัว 2025 K4 ซีดานใหม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน New York International Auto Show ปี 2024 ในฐานะรถซีดานขนาดกะทัดรัดรุ่นที่สี่ของ Kia K4 มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) เป็นพื้นฐาน เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จที่มีให้เลือกช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ และระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบมัลติลิงค์มาตรฐานบน GT-Line (2.0 และ 1.6 เทอร์โบ) มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบสนองได้ดี
- ขนาดตัวถัง ยาว 4,709 มม. กว้าง 1,849 มม. K4 มีฐานที่กว้างที่สุดและใหญ่ที่สุดในรถซีดานขนาดกะทัดรัด
“K4 ใหม่ทำให้ความมุ่งมั่นของ Kia ส่งมอบรถซีดานสปอร์ตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและสมรรถนะที่ยกระดับ” Steven Center, COO และ EVP ของ Kia America กล่าว “การประสบความสำเร็จในกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนาดกะทัดรัดหมายถึงการนำเสนอฟีเจอร์ที่ลูกค้าต้องการมากเกินไป และ K4 ได้รับการออกแบบมาให้เกินความคาดหมาย”
สำหรับ KIA K4 ได้รับแรงบันดาลใจจากปรัชญาการออกแบบ ‘Opposites United’ ของ Kia และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเสาหลัก ‘พลังสู่ความก้าวหน้า’ ภายนอกของรถซีดานขนาดกะทัดรัด K4 เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละของ Kia ในการสร้างโซลูชั่นการขับเคลื่อนที่ล้ำสมัย สร้างแรงบันดาลใจพร้อมสุนทรีย์ของความงาม
“ทุกรูปทรง เส้นโค้ง และรายละเอียดของ K4 ได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบและสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามปรัชญาการออกแบบของ Kia นั่นคือ Opposites United โดยนำพื้นผิวที่สะอาดตาและรายละเอียดทางเทคโนโลยีมารวมกันในรูปแบบที่โดดเด่นและสอดคล้องกัน ทุกแง่มุมช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และ การออกแบบ” Karim Habib รองประธานบริหารและหัวหน้าฝ่ายการออกแบบระดับโลกของ Kia กล่าว
นักออกแบบของ Kia ได้สร้างรูปทรงที่ทันสมัยและมีเอกลักษณ์ด้วยการบิดการเชื่อมต่อของสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่เรียงกันอย่างมีเหตุผล ในลักษณะที่ดูไร้เหตุผล ซึ่งนักออกแบบภายนอกของ Kia เรียกว่า ‘Twist Logic’ แสงที่ไหลเวียนตามธรรมชาติที่สร้างขึ้นระหว่างสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่สลับกันเน้นรูปทรงที่พาดผ่านการออกแบบตัวถังทั้งหมด วิธีการก่อกวนนี้เห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษเมื่อมอง K4 ในโปรไฟล์ด้านข้าง ซึ่งสไตล์ฟาสต์แบ็คแบบกวาดกลับสะท้อนได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยธรรมชาติที่กล้าหาญและก้าวหน้าของแบรนด์ Kia
ที่ด้านหน้า Kia K4 สร้างความประทับใจในทันที ไฟหน้าแนวตั้งซึ่งวางอยู่ที่ขอบสุดของบริเวณใบหน้ามีส่วนช่วยสร้างมุมมองที่กว้างและมั่นใจเป็นพิเศษ ในขณะที่องค์ประกอบไฟวิ่งกลางวัน (DRL) ผสานเข้ากับแถบโครเมียมแนวนอนเพื่อเน้นย้ำรูปลักษณ์อันซับซ้อนของ K4 ให้ดียิ่งขึ้น การทำซ้ำล่าสุดของเทคโนโลยีไฟส่องแผนที่ดวงดาวของ Kia ตามธีม ‘กลุ่มดาว’ ทำให้เกิดวิวัฒนาการอีกขั้นของใบหน้าเสืออันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
เมื่อมองจากด้านหลัง K4 ก็เปล่งประกายออร่าแห่งความแข็งแกร่งและความคล่องตัวแบบเดียวกัน โคมไฟแนวตั้งซึ่งติดตั้งอยู่ที่ปลายสุดของตัวรถ ตัดเป็นแนวตั้งลงไปจนกลายเป็นกันชนที่กว้างและมีเทคนิค แผ่นกระจายลมที่รวมอยู่ในกันชนช่วยเสริมภาพลักษณ์ด้วยการออกแบบกราฟิกที่แข็งแกร่ง
การออกแบบภายนอกทำให้ K4 GT-Line มีความโดดเด่น แผงด้านหน้าและด้านหลังอันมีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยสีดำเงา ขอบเข็มขัดซาตินโครเมียม ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา ขอบหน้าต่าง และธรณีประตูด้านข้าง ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED ทรงลูกบาศก์ขนาดเล็ก ไฟตัดหมอก LED และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เสริมรูปลักษณ์ภายนอกของ K4 GT-Line Turbo
“ด้วยการวางแนวหลังคาแบบ fastback ของ K4 และท่าทางที่กว้าง เราจึงแยกความแตกต่างระหว่างรถขนาดกะทัดรัดและขนาดกลาง” Tom Kearns หัวหน้านักออกแบบ Kia Design Center America กล่าว “ความตึงเครียดเชิงสร้างสรรค์ที่ภาษาการออกแบบของ Opposites United เน้นย้ำช่วยให้เราสามารถด้นสดในรูปแบบสามกล่องแบบดั้งเดิมได้”
ปรัชญาการออกแบบ Opposites United ของ Kia เน้นย้ำให้ KIA K4 ดูโด่ดเด่นอย่างมากตามยุคสมัย ภายในห้องโดยสารคุณภาพระดับพรีเมียมที่มีความซับซ้อนของ K4 แผงหน้าปัดโดดเด่นด้วยหน้าจอกลางขนาดใหญ่และคอนโซลกลางที่ออกแบบอย่างหรูหรา เน้นการแบ่งแยกระหว่างสภาพแวดล้อมของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มีการกำจัดปุ่มไม่จำเป็นออกเหลือน้อยที่สุด
หน้าจอดิจิตอลรวมเกือบ 30 นิ้ว มาพร้อมการรองรับ มาตรฐานไร้สาย Apple CarPlay และ Android Auto สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้ เช่น Digital Key 2.0 พร้อม Ultra Wideband ระบบเสียง Harman Kardon premium audioระบบทำความร้อน8 จุดและเบาะนั่งคู่หน้าแบบระบายอากาศ และซันรูฟกว้าง บ่งบอกถึงบุคลิกระดับพรีเมียมของ K4 K4 คาดว่าจะมาถึงสหรัฐอเมริกาในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 โดยมีให้เลือก 5 ระดับ ได้แก่ LX, LXS, EX, GT-Line และ GT-Line Turbo ระบบปฏิบัติการ Connected Car Navigation Cockpit (ccNC) รองรับการอัพเดท OTA
ภายในห้องโดยสาร K4 ที่โปร่งสบายมีให้เลือกทั้งสีเทา Medium Grey (LX/LXS/EX) หรือ Slate Green (EX) และรุ่น GT-Line จะเพิ่ม Onyx และ Off-White เบาะนั่งคู่หน้าแบบอุ่นได้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับ K4 GT-Line และสูงกว่า ส่วนเบาะนั่งแบบระบายอากาศและฟังก์ชันหน่วยความจำที่นั่งคนขับเป็นอุปกรณ์เสริม พวงมาลัยแบบสามก้านเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่น K4 GT-Line
เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลัง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 264 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แผงเปลี่ยนเกียร์และแป้นเหยียบแบบสปอร์ตที่ติดตั้งบนพวงมาลัยช่วยเติมเต็มแพ็คเกจความสปอร์ตยิ่งขึ้น K4 GT-Line Turbo ให้กำลังอย่างนุ่มนวลที่ความเร็วต่ำ ตอบสนองอย่างรวดเร็ว และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ เอกสิทธิ์เฉพาะของรุ่น K4 GT-Line และ GT-Line Turbo คือระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงค์ที่เพิ่มความแข็งแกร่งด้านข้างและความสอดคล้อง เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น
ตัวเลือกระดับเริ่มต้นจะเป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรแบบดูดอากาศโดยธรรมชาติซึ่งมีกำลัง 147 แรงม้าและแรงบิด 178 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ CVT
K4 นำเสนอชุด Kia ADAS ล่าสุด รวมถึงระบบช่วยจำกัดความเร็วอัจฉริยะ (ISLA) 15 มาตรฐาน,ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (LKA) และระบบควบคุมความเร็วคงที่อัจฉริยะพร้อม Stop & Go (SCC w/ S&G )
นอกเหนือจากมาตรฐาน Blind Spot Collision Warning (BCW) และ Rear Cross Traffic Alert (RCTA) แล้ว GT-Line ยังมีระบบ Blind-Spot Collision Evaance Assist (FCA-BCA) และ Blind-Spot View Monitor (BVM) ออกแบบมาเพื่อช่วยแสดงและตรวจจับยานพาหนะที่เข้ามาจากด้านหลังและในเลนที่อยู่ติดกัน ในสถานการณ์ต่างๆ ระบบอาจใช้การเบรกเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการชนที่อาจเกิดขึ้น อุปกรณ์เสริม Surround-View Monitor (SVM) มุมมอง 360 องศาในการถอยและจอดรถ โดยใช้กล้องรอบๆ K4 Available Parking Distance Warning ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถแบบ 360 องศาในการจอดรถไปข้างหน้า ด้านข้าง และถอยหลัง (PDW-F/S/R)
