เรียกคืน TOYOTA PRIUS HEV (Prius Prime) รุ่นปี 2023-2024 ทั่วโลก เหตุจากประตูขัดข้อง

Spread the love

17 เมษายน 2024 โตโยต้ากำลังดำเนินการเรียกคืนเพื่อความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ Prius, Prius HEV (Prius Prime) รุ่นปี 2023-2024 บางรุ่นในญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย มีการเรียกคืนรถยนต์ประมาณ 211,000 คัน โดยมีประมาณ 55,000 คันในสหรัฐอเมริกา

จากปัญหาสวิตช์ประตูท้ายชำรุด เนื่องจากน้ำสามารถเข้าและทำให้ล็อคประตูท้ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ลัดวงจรในรถยนต์ที่เกี่ยวข้องได้ หากประตูไม่ได้ล็อค ประตูอาจเปิดได้ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่หรือเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของผู้โดยสาร

สำหรับรถยนต์ที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าจะเปลี่ยนสวิตช์เปิดประตูด้านหลังทั้งด้านขวาและด้านซ้ายเป็นสวิตช์ที่ได้รับการปรับปรุงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

จนกว่าจะมีวิธีแก้ไข เพื่อช่วยป้องกันการเปิดประตูหากเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ลูกค้าในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาจะถูกขอให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการเปิดใช้งานคุณสมบัติที่จะล็อคประตูโดยอัตโนมัติเมื่อเปลี่ยนเกียร์จากพาร์ค

โฆษกของโตโยต้ากล่าวว่าสายการผลิตที่ถูกระงับเนื่องจากการตรวจสอบคุณภาพรถยนต์พริอุส

โตไก ริกะ ซัพพลายเออร์ของโตโยต้า ระบุว่า สวิตช์ประตูสำหรับรถยนต์พริอุสมีปัญหา และบริษัทคาดว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่าย 71 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2,607 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากการเรียกคืนผลิตภัณฑ์

TOYOTA

พอนเทียค, มิชิแกน, 8 มกราคม 2024 –นับตั้งแต่เปิดตัวและการเปิดตัวในเวลาต่อมา Toyota Prius/Prius Prime ใหม่ ได้รับการยกย่องและยกย่องอย่างสูงทั่วทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ รถยนต์ที่รับผิดชอบในการเริ่มต้นการปฏิวัติระบบไฮบริดเมื่อเกือบ 25 ปีที่แล้ว ได้รับรางวัลที่ปรารถนามากที่สุดแห่งหนึ่งในภาคยานยนต์ นั่นคือรถยนต์แห่งปีในอเมริกาเหนือประจำปี 2024 the 2024 North American Car of the Year

รถยนต์อเมริกาเหนือแห่งปี (North American Car of the Year) เป็นรางวัลที่มอบให้กับรถยนต์ที่โดดเด่นที่สุดจากทวีปอเมริกาเหนือ โดยคณะกรรมการตัดสินของสื่อมวลชนสายยานยนต์จากสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

ในปี 2024 รางวัลรถยนต์อเมริกาเหนือแห่งปีตกเป็นของ Toyota Prius & Prius Prime ซึ่งเป็นรถยนต์ไฮบริดทั้ง 2 รุ่น จากการตัดสินของคณะกรรมการสื่อมวลชนสายยานยนต์กว่า 60 คน จากสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

คณะกรรมการตัดสินให้เหตุผลในการเลือก Toyota Prius & Prius Prime เป็นรถยนต์อเมริกาเหนือแห่งปี 2024 ดังนี้

การออกแบบที่โดดเด่นและทันสมัย
การผสมผสานระหว่างระบบขับเคลื่อนแบบดั้งเดิมและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า
ประสิทธิภาพการทำงานและการควบคุมที่ดีขึ้น
เทคโนโลยีขั้นสูง

Toyota Prius & Prius Prime เป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นที่ 5 ของ Toyota ซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ในทุกด้าน การออกแบบภายนอกได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์ไฟฟ้า Toyota bZ4X ใหม่ โดยมีการผสมผสานระหว่างเส้นสายที่เฉียบคมและบึกบึน

ระบบขับเคลื่อนไฮบริดของ Toyota Prius & Prius Prime ได้รับการปรับปรุงใหม่เช่นกัน โดยมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

นอกจากนี้ Toyota Prius & Prius Prime ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงมากมาย เช่น ระบบความปลอดภัยขั้นสูง ระบบนำทางด้วยดาวเทียม และระบบความบันเทิงภายในห้องโดยสาร

การได้รับรางวัลรถยนต์อเมริกาเหนือแห่งปี 2024 ของ Toyota Prius & Prius Prime แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีไฮบริดและไฟฟ้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยรถยนต์ไฮบริดและไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน

ก่อนเริ่มงาน Toyota Prius/Prius Prime เข้ารอบสุดท้ายในประเภทรถยนต์แห่งปี ร่วมกับ Honda Accord และ Hyundai Ioniq 6 Scott Neiheisel ผู้จัดการทั่วไปของภูมิภาคการขายในซินซินนาติ และ Roseanne Larsen ผู้ช่วยทั่วไป ผู้จัดการในเมืองซินซินแนติพร้อมรับถ้วยรางวัล NACTOY อันเป็นเอกลักษณ์ในนามของโตโยต้า

ที่สำนักงานใหญ่ของ Toyota Motor North America (TMNA) ในเมืองพลาโน ข่าวเกี่ยวกับรางวัลอันทรงเกียรตินี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เนื่องจากถือเป็นครั้งที่สองที่ Prius ได้รับรางวัลรถยนต์แห่งปีในอเมริกาเหนือ ย้อนกลับไปในปี 2004 Prius รุ่นที่สองได้รับรางวัล NACTOY Car of the Year

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่คณะลูกขุนของ NACTOY ต่างเห็นพ้องกันว่า Prius และ Prius Prime ใหม่เป็นยานยนต์ที่มีความพิเศษ การผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของสไตล์ที่เซ็กซี่และประสิทธิภาพระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมทำให้ Prius กลายเป็นลีกของตัวเอง” ไมค์ ทริปป์ รองประธานกลุ่มการตลาดโตโยต้า กล่าว “หลังจากผ่านไปเกือบ 25 ปี Prius ยังคงทิ้งร่องรอยไว้บนโลกและเสนอทางเลือกที่ยอดเยี่ยมแก่ลูกค้าในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน”

รางวัล NACTOY Car of the Year ถือเป็น 1 ใน 17 รางวัลอุตสาหกรรมที่ Prius/Prius Prime มอบให้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

TOYOTA PRIUS ในสหรัฐอเมริกา

TOYOTA Prius Prime เวอร์ชั่นปลั๊กอินไฮบริด สามารถอยู่ในอันดับ 1 อัตราประหยัดน้ำมันในเกรดปลั๊กอินไฮบริดของมาตรฐาน EPA ในสหรัฐอเมริกา โดยมีอัตราประหยัดเฉลี่ย 127MPGe (ไมล์ต่อแกลลอน สหรัฐฯ ในโหมดไฟฟ้า) หรือ 6 KM/kWh

การประหยัดเชื้อเพลิง: 127 MPGe หรือ 6 KM/kWh
วิ่งไฟฟ้าล้วน Electric ระยะทาง : 70 กม.
ครอบคลุมการวิ่ง ระยะทางทั้งหมด: 965 กม./ถังน้ำมัน EPA
ราคาเริ่มต้น: $32,350 หรือประมาณ 1.10 ล้านบาทในสหรัฐฯ

Best MPG Plug-In Hybrids 2023

Toyota Prius Prime – 127 MPGe
Kia Niro PHEV – 108 MPGe
Ford Escape PHEV – 105 MPGe
Toyota RAV4 Prime – 94 MPGe
Lexus NX 450h Plus – 84 MPGe
Kia Sportage PHEV – 84 MPGe
Chrysler Pacifica Hybrid – 82 MPGe
Hyundai Tucson Plug-In Hybrid – 80 MPGe
Volvo S60 T8 AWD Recharge Extended Range – 74 MPGe
Volvo V60 T8 AWD Recharge Extended Range – 74 MPGe

PLANO, Texas (5 เมษายน 2022) – Prius Prime ปี 2023 ปลั๊กอินไฮบริดใหม่ เปิดตัวในสหรัฐอเมริกา พร้อมให้เลือกในเกรด SE, XSE และ XSE Premium แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรุ่นใหม่ขนาดใหญ่ขึ้น 13.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ราคาจำหน่าย 32,350 – 42,340 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.10 – 1.43 ล้านบาท

Prime ใช้ระบบไฮบริดเจเนอเรชันที่ 5 ของ Toyota ซึ่งรวมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรประสิทธิภาพสูง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกันเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่มีประสิทธิภาพ
Prius ปี 2023 จะมีให้เลือกสามเกรด ได้แก่ SE, XSE และ XSE Premium สีมาตรฐานประกอบด้วยสีใหม่ล่าสุด Cutting Edge, สีเทา Guardian Grey, สีดำ Midnight Black Metallic และสีน้ำเงิน Reservoir Blue สีระดับพรีเมียม ได้แก่ Wind Chill Pearl และ Supersonic Red Prius Prime ทุกเกรดมาในระบบขับเคลื่อนล้อหน้า

เครื่องยนต์เบนซิน M20A-FXS 4 สูบ 2.0 ลิตร Dynamic Force Engine ปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์ให้กำลัง 151 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที แรงบิด 188 นิวตัน-เมตร มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 163 แรงม้า แรงบิด 208 นิวตัน-เมตร รวมให้กำลัง 223 แรงม้า แบตเตอรี่ 13 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถวิ่งไฟฟ้าล้วนๆ 70 กม. ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ CVT

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.6 วินาที
ระบบจ่ายพลังงานให้อุปกรณ์ไฟฟ้า Vehicle-2-Load (V2L) 1,500W
ระยะการขับขี่ EV สูงกว่ารุ่นก่อนหน้าประมาณ 50% ซึ่งหมายความว่าด้วยประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น
Prius PHEV ใหม่ติดตั้ง Regeneration Boost ช่วยสลับระหว่างการเร่งความเร็วและการเบรกฟังก์ชันนี้จะให้แรงเบรกมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ตอบสนองในขณะที่ลดความถี่ในการสลับระหว่างคันเร่งและแป้นเบรก
แบตเตอรี่จะชาร์จให้เต็มภายในเวลาประมาณ 11 ชั่วโมงจากเต้ารับมาตรฐาน 120V

ภายนอกมีการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยตัวรถจากขึ้นจากแพลตฟอร์ม Toyota New Global Architecture (TNGA) เจนเนอเรชั่นที่สองของโตโยต้า มีระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง และล้อขนาด 17 – 19 นิ้วที่ใหญ่ขึ้นเป็นมาตรฐาน ไฟหน้าLED tube แบบเดียวกับ Crown รุ่นใหม่ เน้นการออกแบบภายนอกลักษณะคล้าย ฉลามหัวฆ้อน Hammerhead shark-like design

ตัวถังสั้นลง 46 มม. ระยะฐานล้อยาวขึ้น 50 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 22 มม. และความสูงของตัวถังลดลง 50 มม. (ขนาดตัวถัง ยาว 4600 มม. กว้าง 1780 มม. สูง 1420 มม. ฐานล้อ 2750 มม.)
XSE Premium ยังสามารถเลือกใช้หลังคาโซลาร์รูฟขนาด 185 วัตต์ที่ชาร์จแบตเตอรี่ของไดรฟ์ในขณะที่รถจอดอยู่และจ่ายพลังงานไปยังฟังก์ชันเสริมในขณะเดินทาง

ภายในห้องโดยสารแตกต่างอย่างมากหากเทียบโฉมปัจจุบัน ติดตั้งหน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว แผงหน้าปัดดิจิตอล เบาะหนังดำ-แดง คอนโซลหน้าดำ-แดง ช่องระบายอากาศแบบผอมแยกหน้าจอสาระบันเทิงออกจากส่วนควบคุม HVAC มีปุ่มควบคุมอุณหภูมิที่นั่งและปรับอุณหภูมิห้องโดยสาร

Toyota Audio Multimedia พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay ®และ Android Auto™ Wi-Fi Connect 30
ลำโพง JBL Premium
รองรับการอัพเดท Over-the-Air (OTA)
Toyota Safety Sense-linked ระบบจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ถึงวัตถุที่ตรวจพบผ่านสัญญาณไฟกะพริบก่อนที่จะมีเสียงเตือน เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจยิ่งขึ้น

Toyota Safety Sense แพ็คเกจความปลอดภัยแบบแอคทีฟล่าสุดพร้อมฟังก์ชันขั้นสูงที่ได้รับการปรับปรุง เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์ Prius ใหม่ทุกรุ่น ขอบเขตของวัตถุที่ตรวจจับได้นั้นกว้างยิ่งขึ้น ทำให้สามารถขับขี่ได้อย่างเพลิดเพลินและสบายใจ

Advanced Park (พร้อมฟังก์ชั่นรีโมท) ระบบสนับสนุนการขับขี่ขั้นสูง ช่วยให้จอดรถอัตโนมัติได้ง่ายและออกจากที่จอดรถในสถานการณ์การจอดรถที่หลากหลาย

ระบบช่วงล่าง