ยอดขาย 3,461 คันในสหรัฐฯ TOYOTA LAND CRUISER 2.4 ไฮบริด i-Force MAX 326 แรงม้า ราคา 2.04 ล้านบาท
หลังจากหยุดจำหน่ายไปในปี 2021 ล่าสุด Toyota ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Land Cruiser รุ่นปี 2025 จะกลับมาทำตลาดในสหรัฐอเมริกา พร้อมดีไซน์ใหม่ เทคโนโลยีล้ำสมัย และสมรรถนะที่เหนือชั้น ล่าสุดมียอดขายนับตั้งแต่เปิดตัวในปีนี้ที่ 3,461 คัน หรือเดือนมิถุนายน มียอดขายกว่า 2,064 คัน
การผลิต Land Cruiser 2025 สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา จะมีขึ้นที่ โรงงาน Toyota Motor Manufacturing Kentucky (TMMK) ในเมืองจอร์จทาวน์ รัฐเคนตักกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา
- Toyota ลงทุน 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 48,100 ล้านบาท) ที่โรงงาน TMMK เพื่อรองรับการผลิต Land Cruiser 2025
โรงงานแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นในปี 1986 เป็นหนึ่งในโรงงานผลิต Toyota ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันผลิต Camry, Avalon, RAV4, Lexus ES และ Lexus RX
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1951 Land Cruiser ได้สร้างสรรค์ชีวิตผู้คนมากมายในหลากหลายสถานที่ พร้อมมอบความปลอดภัยให้ลูกค้า ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี นับเป็นหนึ่งในรุ่นรุ่นซิกเนเจอร์ของโตโยต้า โดยอิงจากสถานการณ์การใช้งานจริงของลูกค้าทั่วโลก
TOYOTA สหรัฐอเมริกา ประกาศราคาจำหน่าย Land Cruiser 2024 ขุมกำลัง เบนซินเทอร์โบไฮบริด i-Force 2.4 ลิตร 326 แรงม้า
- Land Cruiser 1958 ราคา 55,950$ หรือประมาณ 2.04 ล้านบาท
- Land Cruiser ราคา 61,950$ หรือประมาณ 2.25 ล้านบาท
- First Edition ราคา 74,950$ หรือประมาณ 2.73 ล้านบาท
ผู้ซื้อสามารถเลือกสีภายนอกได้เจ็ดสีสำหรับ Land Cruiser ใหม่ ได้แก่ Ice Cap, Wind Chill Pearl, Underground, Black, Meteor Shower, Trail Dust และ Heritage Blue สองเฉดสีหลังจับคู่กับหลังคา Grayscape เพื่อให้ดูทูโทน
First Edition รุ่นท็อปมีจำนวนจำกัดเพียง 5,000 คัน ซึ่ง Toyota วางแผนจะสร้างในช่วงสองเดือนแรกของการผลิต Land Cruiser มาพร้อมแผ่นกันกระแทกด้านหน้า แร็คหลังคา ล้อขนาด 18 นิ้วพร้อมยางสำหรับทุกฤดูกาล บังโคลน และเบาะหนังพร้อมระบบทำความร้อนและระบายอากาศ
Toyota Motor Corporation (Toyota) ได้เปิดตัว Land Cruiser “250” Series ใหม่สู่สายตาชาวโลก โดยมีแผนเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีการประกาศในวันนี้ว่า Land Cruiser สำหรับงานหนัก “70” ซึ่งจะกลับสู่ญี่ปุ่นในฤดูหนาวที่จะถึงนี้ในฐานะรุ่นปกติในกลุ่มนี้ จะส่งผลให้ซีรีย์ Land Cruiser ทั้งสามรุ่นวางจำหน่ายในญี่ปุ่นอีกครั้ง
- Land Cruiser First Edition รุ่นพิเศษมีจำกัดเพียง 5,000 คันเท่านั้น พร้อมการตกแต่งด้วยแผ่นกันกระแทกด้านหน้า ราวบันไดข้าง แร็คหลังคา รุ่นท็อปยังมีไฟหน้าทรงกลม ไฟประตูท้าย แผ่นกันโคลน และ “ที่กันประตูหลัง”
- แพลตฟอร์ม GA-F เดียวกันกับ 300 Series ทำให้ 250 Series ใหม่มีการปรับปรุงสมรรถนะแบบออฟโรดอย่างมาก
- ความแข็งแกร่งของเฟรมเพิ่มขึ้นอย่างมากความแข็งแกร่งของเฟรมเพิ่มขึ้น 50% และความแข็งแกร่งโดยรวมเพิ่มขึ้น 30%
- ปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบกันสะเทือนพื้นฐาน ปรับปรุงการประกบของล้อ เพิ่มความสามารถในการยึดเกาะพื้น
- พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (EPS)
- Stabilizer Disconnect Mechanism (SDM) ใช้ครั้งแรกในรถโตโยต้า ฟังก์ชั่นสั่งงานด้วยสวิตช์ที่ช่วยให้เปลี่ยนสถานะกันโคลงหน้าได้
- ปรับปรุงการขับขี่แบบออฟโรดของฟังก์ชั่น Multi-Terrain Monitor และ Multi-Terrain Select
ภายนอกมาพร้อม 7 สีให้เลือก Black, Ice Cap, Wind Chill Pearl, Underground, Meteor Shower, Trail Dust และ Heritage Blue นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกสีภายนอกแบบทูโทนที่มีทั้งสี Trail Dust หรือสี Heritage Blue ที่จับคู่กับหลังคา Greyscape
ขนาดตัวถัง
- ยาว 4,925 มม.
- กว้าง 1,980 มม.
- สูง 1,870 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,850 มม.
- ระยะห่างจากพื้น 221 มม.
- มุมเข้าหา ออกตัว และหักมุม 30, 22 และ 25 องศาตามลำดับ
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะนั่งคู่หน้าแบบ SoftTex แบบปรับความร้อนและระบายอากาศพร้อมระบบปรับไฟฟ้า เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทางระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ขึ้น 12.3 นิ้ว และระบบเสียงลำโพง 10 ตัว ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย iQ พร้อมพอร์ตชาร์จ USB-C อินเวอร์เตอร์ AC 2400W ลูกค้าสามารถเพิ่ม เบาะหนังแบบอุ่นและระบายอากาศ หน้าจอแสดงข้อมูลบนกระจกหน้ารถ และระบบเสียงพรีเมียม JBL ลำโพง 14 ตัว แพ็คเกจนี้ยังรวมถึงกระจกมองหลังแบบดิจิตอลและมูนรูฟ
Series 250 สืบทอด DNA อันยาวนานของ Land Cruiser ให้มีชีวิตชีวาในยุคสมัยใหม่ สอดคล้องกับความคิดริเริ่มด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนของ Toyota อกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบส่งกำลังที่หลากหลาย รวมถึงระบบไฮบริดรุ่นแรกสำหรับ Land Cruiser สิ่งเหล่านี้ทำให้ได้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมที่คู่ควรกับ Land Cruiser
เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบไฮบริด i-Force MAX D-4S 4 สูบ 2.4 ลิตร เทอร์โบ 16 วาล์ว พร้อม Dual Variable Valve Timing พร้อมระบบอัจฉริยะ
- ให้กำลัง 326 แรงม้า
- แรงบิด 630 นิวตัน-เมตร
- ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8AT
- แบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ (Ni-MH) ปิดผนึก 288V ความจุ 1.87 kWh
- น้ำหนักลากสูงสุด 2,721 กก.
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-Time พร้อม Active Traction Control (A-TRAC) และ Torsen®*เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปพร้อมระบบล็อค
- อัตราประหยัดโดยรวม 23 MPG หรือประมาณ 12.28 กม./ลิตร EPA
ระบบช่วงล่าง
- ระบบกันสะเทือนหน้าปีกนกสองชั้นที่พัฒนาขึ้นใหม่พร้อมโช๊คอัพแบบท่อคู่
- ระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงค์พร้อมคอยล์สปริง
- ดิสก์เบรกขนาด 17 นิ้ว (432 มม.)
- อุปกรณ์พ่วงมาตรฐานที่ช่วยให้รถลากจูงได้สูงสุด 2,722 กก.
- พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า
- ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS)
- ติดตั้งเทคโนโลยี SDM หรือ Stabilizer with Disconnecting Mechanism ที่สามารถปลดการทำงานของเหล็กกันโคลง (Anti-roll bar) ผ่านปุ่มควบคุมภายในห้องโดยสาร
- ระบบปรับโหมดช่วงล่าง Multi-Terrain Select(MTS) 5 โหมด (MUD & SAND,LOOSEROCK, MOGUL, ROCK & DIRTและ ROCK)
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0
- Pre-Collision System with Pedestrian Detection ระบบป้องกันการชนล่วงหน้าพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน
- Lane Departure Alert with Steering Assist ระบบเตือนการออกนอกเลนพร้อมระบบช่วยบังคับเลี้ยว
- Full-Speed Range Dynamic Radar Cruise Control ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติเต็มพิกัดด้วยเรดาร์
- Lane Tracing Assist ระบบช่วยติดตามเลน
- Road Sign Assist ระบบจดจำป้ายจราจร
- Automatic High Beams ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
- Proactive Driving Assist ระบบจะการคาดการณ์ความเสี่ยงตามสถานการณ์การขับขี่
Land Cruiser 1958 ราคา 55,950$ หรือประมาณ 2.06 ล้านบาท
- ไฟหน้าแบบ LED วงกลม
- เบาะหน้าพร้อมระบบทำความร้อน
- ระบบกุญแจอัจฉริยะ
- ระบบตรวจสอบจุดบอด
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
- แผงหน้าปัดดิจิตอล 7 นิ้ว
- จอแสดงผลส่วนกลางขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย
- Torsen®*เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปพร้อมระบบล็อค
Land Cruiser ราคา 61,950$ หรือประมาณ 2.28 ล้านบาท
- ไฟหน้าแบบ LED ทรงสี่เหลี่ยม
- เบาะนั่งแบบ SoftTex หนังเทีย
- ม แผงหน้าปัด Full LCD ขนาด 12.3 นิ้ว
- ลำโพ 10 ตำแหน่ง
- ประตูท้ายไฟฟ้า
- ติดตั้งเทคโนโลยี SDM หรือ Stabilizer with Disconnecting Mechanism ที่สามารถปลดการทำงานของเหล็กกันโคลง (Anti-roll bar) ผ่านปุ่มควบคุมภายในห้องโดยสาร
- ระบบปรับโหมดช่วงล่าง Multi-Terrain Select (MTS) 5 โหมด (MUD & SAND,LOOSEROCK, MOGUL, ROCK & DIRTและ ROCK)
- กล้องบันทึกภาพด้านหน้า-หลัง MTM
แพ็คเกจพรีเมียม ตัวเลือกเพิ่มเติม
- เบาะหนังระบายอากาศ
- เครื่องเสียง JBL ลำโพง 14 ตัว
- กระจกมองข้างแบบดิจิตอล
- จอแสดงผลบรกระจกหน้า
- หลังคามูนรูฟไฟฟ้า
- กล่องเก็บความเย็นที่คอนโซลกลาง
First Edition ราคา 74,950$ หรือประมาณ 2.76 ล้านบาท
- ไฟหน้าทรงกลม Land Cruiser 195
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
- โลโก้รุ่นพิเศษ
- แร็คหลังคา
- ราวหลังคา
- แผ่นกันกระแทกด้านหน้า
ภาพร่างการออกแบบของ Land Cruiser “250”
เปิดตัว All-NEW LEXUS GX 2024 3.4Twin Turbo V6 ให้กำลัง 349 แรงม้า พร้อมการอัพเกรดออฟโรด