Advertisement

Advertisement

เปิดตัวไทยปีหน้า NEW MG ZS HYBRID+ ใหม่ ประหยัดน้ำมัน 21 กม./ลิตร

เปิดตัวไทยปีหน้า NEW MG ZS HYBRID+ ใหม่ ประหยัดน้ำมัน 21 กม./ลิตร
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

MG ZS HYBRID เปิดตัวอย่างเป็นทางการในออสเตรเลียเมื่อ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำหรับประเทศไทย หลังจากการเปิดตัว MG 3 HYBRID + เมื่อ 20 สิงหาคม 2024 สร้างกระแสอย่างมากสำหรับรถยนต์ไฮบริดราคาประหยัดเริ่มต้นที่ 559,000 – 599,000 บาทเท่านั้น ปัจจุบันปรับเพิ่ม 20,000 บาท และ MG ประเทศไทย ยืนยันว่าจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นเริ่มต้นที่เกรดเป็นไฮบริด แน่นอน MG ZS ไฮบริดคือหนึ่งในไลน์การเปิดตัว และ ผลิตในประเทศเช่นกัน สำหรับการเปิดตัวปีนี้อาจไม่ทันน่าจะเริ่มปีหน้า

MG ZS HYBRID + เจเนอเรชั่นใหม่จะมาถึงโชว์รูมในเดือนนี้ในออสเตรเลีย ล่าสุดเผยราคาจำหน่าย 2 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่ 33,990 – 36,990$ หรือประมาณ 762,000 – 830,000 บาท พร้อมอัตราประหยัดน้ำมัน 21 กม./ลิตร

Model Drive-away price
2025 MG ZS Hybrid+ Excite $33,990
2025 MG ZS Hybrid+ Essence $36,990

MG เปิดตัว ZS Hybrid+ ใหม่ เป็นรถ B-SUV ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งมุ่งหวังที่จะต่อยอดความสำเร็จจาก ZS รุ่นปัจจุบันซึ่งเป็นรถขายดีอันดับสองของแบรนด์ในสหราชอาณาจักร

รถครอสโอเวอร์รุ่นนี้ก็มีรูปลักษณ์ที่แสดงออกถึงความสง่างามด้วยกระจังหน้าทรงรีที่ล้อมรอบด้วยม่านอากาศแนวตั้ง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับชุดไฟ LED และที่ปัดน้ำฝนแบบตรวจจับปริมาณน้ำฝน ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ไฟท้ายแบบ LED ออกแบบใหม่

การออกแบบภายนอกนั้นค่อนข้างจะผสมผสานกันเล็กน้อย ห้องโดยสารเรียบง่าย มาพร้อมแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์ขนาด 12.3 นิ้วพร้อมระบบนำทาง GPS, Android Auto และ Apple CarPlay จุดเด่นอื่นๆ ได้แก่ ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติ ระบบเสียง 6 ลำโพง และเบาะผ้าสีดำ

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ MG Pilot มาพร้อมระบบมาตรฐาน ได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบเตือนออกนอกเลน และระบบเบรกฉุกเฉินพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนนและคนขี่จักรยาน นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจจับจุดบอด ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบเตือนการจราจรขณะถอยหลัง และระบบช่วยควบคุมการจราจรติดขัด กล้อง 360 องศา

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 4,430 มม.
  • กว้าง 1,818 มม.
  • สูง 1,635 มม.
  • ฐานล้อ 2,610 มม.
  • ระยะห่างพื้น 161 มม.
  • พื้นที่สัมภาระหลัง 443 ลิตร พับเบาะหลังจะได้ 1,457 ลิตร

เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด+ 1.5 ลิตร

  • เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Atkinson Cycle ขนาด 1.5 ลิตร
  • ระบบส่งกำลัง HYBRID +
  • เครื่องยนต์ให้กำลัง 102 แรงม้า แรงบิด 128 นิวตัน-เมตร
  • มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร
  • เครื่องยนต์ + มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวม 196 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุดทั้งระบบ 465 นิวตัน-เมตร
  • ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีต
  • ความจุของแบตเตอรี่ NMC 1.83kWh – 350V
  • ระบบขับเคลื่อน FWD
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.7 วินาที
    • 80 – 120 กม./ชม. ภายใน 7.2 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 167 กม./ชม.
  • ประหยัดน้ำมัน 21 กม./ลิตร
  • ปล่อย CO2 115g/km
  • โหมดการขับขี่ 3 โหมด (Eco, Sport, Normal)
  • น้ำหนัก 1,880 – 1,890 กก.

การออกแบบภายนอก

  • ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ LED
  • ไฟ LED สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน
  • ไฟท้าย LED
  • ระบบควบคุมไฟหน้าอัจฉริยะ
  • ไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ไฟหน้าแบบ Follow Me Home
  • เซ็นเซอร์ที่จอดด้านหลัง
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมระบบทำความร้อน สีเดียวกับตัวรถ
  • สี Arctic White (สีมาตรฐาน)
  • ล้ออัลลอย 18 นิ้ว

การออกแบบภายใน

  • เบาะหนังสีดำ
  • เบาะนั่งคนขับปรับมือได้ 6 ทิศทาง
  • เบาะนั่งผู้โดยสารปรับ 4 ทิศทาง
  • กระเป๋าแผนที่เบาะหน้า
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
  • ระบบล็อกเซ็นทรัลล็อคแบบรีโมทพร้อมกุญแจพับ
  • ระบบเข้ารถโดยไม่ต้องใช้กุญแจ
  • กระจกไฟฟ้าด้านหน้าและด้านหลังพร้อมระบบสัมผัสขึ้น/ลงสำหรับคนขับ
  • กระจกหลังแบบความเป็นส่วนตั
  • ระบบตรวจจับน้ำฝนอัตโนมัติ
  • กระจกหลังแบบมีระบบทำความร้อน
  • ช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
  • เบาะนั่งด้านหน้ามีระบบทำความร้อน
  • พวงมาลัยมีระบบทำความร้อน
  • คอพวงมาลัยแบบปรับเอียงได้
  • ที่บังแดดด้านหน้าพร้อมกระจกมองข้างคนขับและผู้โดยสาร
  • ที่วางแก้วด้านหน้า
  • ที่วางแขนตรงกลางด้านหน้าพร้อมช่องเก็บของ
  • ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารด้านหน้าพร้อมไฟหน่วงเวลาและไฟอ่านหนังสือ
  • ระบบเสียง 6 ลำโพง
  • วิทยุและ AUX/USB, MP3
  • พอร์ต USB 2 ช่องที่ด้านหน้า (พอร์ต USB A 1 ช่องสำหรับข้อมูลและจ่ายไฟ พอร์ต USB C 1 ช่องสำหรับจ่ายไฟเท่านั้น) และพอร์ต USB A 1 ช่องสำหรับจ่ายไฟเท่านั้น)
  • จอแสดงผลสำหรับคนขับขนาด 7 นิ้ว
  • หน้าจอสัมผัสสีขนาด 12.3 นิ้ว
  • ระบบนำทางด้วยดาวเทียมพร้อมระบบจดจำความเร็วจำกัด
  • Apple CarPlayTM และ Android AutoTM
  • การเชื่อมต่อโทรศัพท์ MG iSmart
  • กล้อง 360 องศาพร้อมเซ็นเซอร์ด้านหลัง
  • การเชื่อมต่อ Bluetooth
  • คอมพิวเตอร์บันทึกการเดินทาง

MG Pilot Advanced Driver Assistance System

  • ระบบเบรกฉุกเฉินพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนนและจักรยาน
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) พร้อมระบบเตือนการออกนอกเลน (LDWS)
  • ระบบช่วยควบคุมการจราจรติดขัด (TJA)
  • ระบบช่วยจำกัดความเร็วอัจฉริยะ
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (ACC)
  • ระบบเตือนความสนใจของผู้ขับขี่
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าระบบตรวจจับจุดบอดพร้อมระบบช่วยเปลี่ยนเลน
  • ระบบเตือนการจราจรขณะถอยหลัง (RCTA)

ความปลอดภัย

  • เบรกมือไฟฟ้า ปุ่ม Auto Hold /Brake Hold
  • ABS และ EBD
  • ISOFIX ด้านหลัง (x2)
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้า
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
  • สวิตช์ปิดการทำงานของถุงลมนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้างแบบม่าน
  • ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS)
  • ะบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ ESP
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน EBA
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยคนขับ
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลัง
  • เข็มขัดนิรภัยด้านหน้า (3 จุดพร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติและจำกัดแรงดึง)
  • ที่รองศีรษะด้านหลังปรับได้
  • ระบบเตือนภัยและระบบป้องกันการโจรกรรม

 

 

 

DRIVE / whichcar/ autoexpress

carexpert

NEW MG3 HYBRID 23.5 กม./ลิตร ราคาในออสเตรเลียเริ่ม 645,000 บาท

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้