BYD ฝันใหญ่ อีก 3 ปีจะขึ้นอันดับ 1 ในออสเตรเลีย แทน TOYOTA
**BYD วางเป้าหมายแซง Toyota ในออสเตรเลียภายในสามปี**
แบรนด์ BYD เติบโตอย่างรวดเร็วในออสเตรเลียนับตั้งแต่เข้าสู่ตลาดหลักในปี 2022 โดยผู้จัดจำหน่ายในประเทศอย่าง EVDirect ได้ตั้งเป้ายอดขายที่ทะเยอทะยานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ล่าสุด EVDirect ได้ประกาศว่า BYD อาจสามารถแซง Toyota ซึ่งเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ในออสเตรเลียมายาวนาน ได้เร็วที่สุดในปี 2027
“ผมเคยพูดไว้ว่าปี 2027 คือเป้าหมายของเรา” ลุค ท็อดด์ (Luke Todd) ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของ EVDirect กล่าวกับ CarExpert เมื่อถูกถามว่า BYD คาดหวังจะขึ้นเป็นแบรนด์รถยนต์อันดับหนึ่งของออสเตรเลียเมื่อใด
“ยังมีอีกหลายอย่างที่จะเกิดขึ้นระหว่างตอนนี้ถึงปี 2027 แต่สิ่งที่ผมพูดได้ก็คือ ผมย้อนกลับไปดูคำทำนายของผมในช่วงสามปีที่ผ่านมา และเว้นแต่ผมจะพลาดอะไรไป ทุกคำทำนายที่เคยดูเหมือนเป็นไปไม่ได้กลับกลายเป็นความจริงทั้งหมด”
“ถ้าเรายังคงรักษาอัตราความสำเร็จนี้ไว้ได้ ก็ไม่มีเหตุผลที่เราจะไม่เป็นหนึ่งในผู้เล่นระดับแนวหน้า” เขากล่าวเสริม
**BYD ตั้งเป้าเป็นแบรนด์รถยนต์ขายดีที่สุดในออสเตรเลียภายใน 3 ปี**
เมื่อถูกถามว่า “ผู้เล่นระดับแนวหน้า” หมายถึงอะไร นายท็อดด์ระบุว่าหมายถึงการติดอันดับสามของแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดในออสเตรเลีย
เขายังกล่าวว่าเป้ายอดขายปีนี้ที่ 45,000 คันเป็นสิ่งที่ “สามารถทำได้จริง”
เมื่อปลายปีที่แล้ว เดวิด สมิธแมน (David Smitherman) ซีอีโอของ EVDirect บอกกับ CarExpert ว่าบริษัทมีแผนจะเพิ่มยอดขายเป็นสองเท่าทุกปี
“[ในปี 2023] เราขายรถยนต์ได้ 12,500 คัน และผมยินดีที่จะบอกว่าเป้าหมายของเราคือเพิ่มยอดขายขึ้นเป็นสองเท่าทุกปี ตราบใดที่เราสามารถนำรถเข้ามาในตลาดได้ตรงเวลา” สมิธแมนกล่าว
“ดังนั้นความคาดหวังของเราคือการเพิ่มยอดขายเป็นสองเท่าอีกครั้งในปีหน้า และขยายส่วนแบ่งตลาดของเราอย่างรวดเร็วเมื่อเรานำโมเดลใหม่ ๆ เข้ามา”
**BYD ตั้งเป้าแซง Toyota ในออสเตรเลียภายในสามปี**
แม้จะเติบโตในอัตรานั้น แต่ BYD จะไม่สามารถเอาชนะ Toyota ได้ภายในปี 2027 เว้นแต่ Toyota จะมีการสะดุดครั้งใหญ่
ปีที่แล้ว BYD ขายรถยนต์ในออสเตรเลียได้ 20,458 คัน โดยแบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 14,260 คัน และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) 6,198 คัน ทำให้ BYD เป็นแบรนด์ที่มียอดขาย EV และ PHEV สูงเป็นอันดับสองของตลาด
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวม BYD เป็นแบรนด์ที่ขายดีที่สุดอันดับ 17 ในออสเตรเลียในปี 2024
แม้ BYD จะเติบโตอย่างรวดเร็วในออสเตรเลีย แต่ก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้บางอย่างได้ เช่น ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 นายท็อดด์เคยกล่าวว่า BYD จะเป็นแบรนด์ท็อป 5 ภายใน 18 เดือน และเคยประกาศว่า BYD จะมีร้านค้าจริงมากกว่า 20 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2024 รวมถึงจะมีรถยนต์ 8 รุ่นวางจำหน่ายภายในสิ้นปี 2024
**BYD ตั้งเป้าเป็นแบรนด์ขายดีอันดับหนึ่งของออสเตรเลีย**
ในเดือนธันวาคม 2023 นายท็อดด์กล่าวว่าเป้าหมายคือการเป็นแบรนด์ท็อป 5 ภายในปี 2025
จากตัวเลขยอดขายในอุตสาหกรรมปี 2024 BYD ต้องขายรถยนต์ให้ได้มากกว่า 70,000 คันต่อปีจึงจะติดอันดับ 5 โดยในปีที่แล้ว Mitsubishi ซึ่งอยู่อันดับ 5 ขายได้ 74,547 คัน
หากต้องการติดอันดับ 3 BYD ต้องขายรถให้ได้มากกว่า 95,000 คัน (Mazda ซึ่งอยู่อันดับ 3 ขายได้ 95,987 คันในปี 2024) และหากต้องการขึ้นเป็นแบรนด์ที่ขายดีที่สุดต้องทำยอดขายให้ได้มากกว่า Toyota ซึ่งขายได้ 241,296 คันในปีที่แล้ว
เป้าหมายนี้ถือว่าใหญ่พอสมควร เพราะ Toyota มีไลน์อัพรถยนต์ที่หลากหลาย ตั้งแต่รถขนาดเล็กไปจนถึง SUV ขนาดใหญ่ และมีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล ไฮบริด และไฟฟ้า
**BYD พร้อมสู้ศึกตลาดรถยนต์ในออสเตรเลีย**
Toyota เป็นแบรนด์ที่ขายดีที่สุดในออสเตรเลียมา 22 ปี และทำสถิติยอดขายสูงสุดตลอดกาลเมื่อปีที่แล้ว โดยมีระยะห่างจากอันดับ 2 (Ford) ที่ขายได้เพียง 100,170 คันอยู่มาก
ปัจจุบัน BYD มีรถจำหน่าย 5 รุ่น ได้แก่ Dolphin, Seal และ Atto 3 (รถยนต์ไฟฟ้า) และ Sealion 6 กับ Shark 6 (รถปลั๊กอินไฮบริด) โดยมีแผนจะเปิดตัวรุ่นที่ 6 คือ Sealion 7 (SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง) ในเดือนกุมภาพันธ์
Sealion 7 จะเป็นคู่แข่งของ Tesla Model Y ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในออสเตรเลีย
นอกจากนี้ BYD ยังเพิ่มกำลังการผลิตและขยายเครือข่ายการขาย โดยมีร้านค้ากว่า 40 แห่งทั่วประเทศ และให้บริการหลังการขายผ่านศูนย์บริการกว่า 40 แห่งของ mycar ซึ่งจะช่วยให้สามารถรองรับลูกค้าได้มากขึ้น
สำหรับยอดขายรถยนต์ในออสเตรเลียปี 2024
Brand | 2024 sales | YoY difference |
---|---|---|
Toyota | 241,296 | +12.1% |
Ford | 100,170 | +14.1% |
Mazda | 95,987 | -4.0% |
Kia | 81,787 | +7.4% |
Mitsubishi | 74,547 | +17.4% |
Hyundai | 71,664 | -4.7% |
MG | 50,592 | -13.3% |
Isuzu Ute | 48,172 | +6.2% |
Nissan | 45,284 | +15.0% |
GWM | 42,782 | +17.5% |
Subaru | 40,604 | -11.9% |
Tesla | 38,347 | -16.9% |
Volkswagen | 36,480 | -16.8% |
BMW | 26,341 | +0.6% |
Mercedes-Benz | 24,831 | -13.9% |
Suzuki | 21,278 | +24.6% |
BYD | 20,458 | +64.5% |
LDV | 16,022 | -24.8% |
Audi | 15,333 | -19.5% |
Honda | 14,092 | +2.6% |
Lexus | 13,642 | -10.2% |
Isuzu | 13,402 | -1.9% |
Chery | 12,603 | +114.0% |
Volvo | 8898 | -20.0% |
Land Rover | 7910 | -6.1% |
Porsche | 7029 | +16.1% |
Renault | 5556 | -30.8% |
SsangYong | 5393 | -9.6% |
Hino | 5077 | -14.1% |
Skoda | 5015 | -37.3% |
Chevrolet | 4303 | +16.2% |
Mini | 3982 | -7.2% |
Ram | 3852 | -43.6% |
Jeep | 2456 | -48.7% |
Cupra | 2339 | -39.0% |
Peugeot | 1896 | -24.6% |
Polestar | 1713 | -30.3% |
Fiat | 2005 | +2.8% |
Genesis | 1400 | -26.9% |
Jaguar | 743 | +27.9% |
Alfa Romeo | 561 | -21.6% |
Maserati | 377 | -40.9% |
Lamborghini | 273 | +13.3% |
Ferrari | 246 | +14.4% |
Bentley | 183 | -20.1% |
Lotus | 155 | -15.3% |
Aston Martin | 154 | -1.9% |
Citroen | 147 | -35.5% |
McLaren | 95 | +11.8% |
Foton Mobility | 68 | -4.2% |
Leapmotor | 64 | N/A |
Rolls-Royce | 54 | +10.2% |
Dodge | 6 | N/A |