Subaru เปิดตัว Forester เจเนอเรชัน 6 เวอร์ชัน Wilderness ราคาประมาณ 1.18 ล้านบาท ในสหรัฐฯ

Subaru เปิดตัว Forester เจเนอเรชัน 6 เวอร์ชัน Wilderness ราคาประมาณ 1.18 ล้านบาท ในสหรัฐฯ
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

บริษัท Subaru เปิดตัว Forester เจเนอเรชันที่หก ในเวอร์ชัน Wilderness อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับการลุยเส้นทางออฟโรดมากกว่ารุ่นปกติ โดยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านดีไซน์และสมรรถนะ รถยนต์ไฮบริดจะมาถึงตัวแทนจำหน่าย Subaru ในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 34,995 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.18 ล้านบาท และให้การประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เปิดตัวในงาน Chicago Auto Show

ที่งาน Chicago Auto Show ปีนี้ Subaru ได้เผยโฉม Forester ใหม่ ในสองเวอร์ชัน ได้แก่

  • Forester Hybrid – ครอสโอเวอร์ขุมพลังไฮบริด
  • Forester Wilderness – รุ่นที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่แบบออฟโรด ซึ่งยังคงใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) เท่านั้น

สำหรับ Forester Hybrid นั้น มีการพูดถึงในบทความแยกต่างหาก ส่วนบทความนี้จะโฟกัสที่ Forester Wilderness ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เน้นความสมบุกสมบันเป็นพิเศษ

Forester Wilderness ใหม่ต่างจากรุ่นปกติอย่างไร?

Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 6 เปิดตัวครั้งแรกในปลายปี 2023 และวางจำหน่ายในอเมริกาในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2024 อย่างไรก็ตาม Forester Wilderness รุ่นเก่า ยังไม่ได้ถูกถอดออกจากตลาด และจะยังคงจำหน่ายอยู่จนกว่ารุ่นใหม่จะเริ่มวางขายใน ฤดูใบไม้ร่วงปี 2024

ดีไซน์ภายนอก

  • ชุดแต่งรอบคันแบบ ไม่พ่นสี
  • กระจังหน้าและกันชนหน้าแบบใหม่ (ไฟตัดหมอกดีไซน์เฉพาะ)
  • ราวหลังคาแบบใหม่ ขนาดใหญ่ขึ้น รองรับสัมภาระได้มากขึ้น

ภายในห้องโดยสาร

  • เบาะนั่งและวัสดุภายใน กันน้ำ
  • ตกแต่งด้วย สีทองแดง (Copper Accents) เพิ่มความพรีเมียม
  • ติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนต์ หน้าจอแนวตั้ง ขนาดใหญ่

ช่วงล่างที่ถูกอัปเกรด

  • ติดตั้งระบบ กันสะเทือนใหม่ (สปริงและโช้คอัพใหม่)
  • ความสูงจากพื้น (Ground Clearance) 236 มม. (เพิ่มขึ้นจาก 234 มม. ในรุ่นเก่า)
  • มุมไต่และมุมจากเพิ่มขึ้น พร้อมแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ
  • ใช้ยาง Yokohama Geolandar AT ที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่แบบออฟโรด

ขุมพลังและระบบขับเคลื่อน

  • เครื่องยนต์ บ็อกเซอร์ 2.5 ลิตร NA
  • กำลังสูงสุด 183 แรงม้า แรงบิด 241 นิวตันเมตร
  • ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT Lineartronic (ปรับช่วงอัตราทดใหม่ให้เหมาะกับการขับออฟโรด)
  • ระบบ X-Mode ถูกปรับแต่งใหม่ให้รองรับสภาพถนนที่ท้าทายมากขึ้น

 

 

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้