ISUZU สร้างโรงงาน 9,436 ล้านบาทในสหรัฐฯ พร้อมดันสร้างรถบรรทุก 50,000 คันต่อปี
อีซูซุเตรียมสร้างโรงงานมูลค่า 280 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9,436 ล้านบาท ในเซาท์แคโรไลนา
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น อีซูซุ มอเตอร์ส ได้ประกาศทุ่มงบประมาณ 280 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ในรัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา โดยโรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 750,000 ตารางเมตร ในเขตกรีนวิลล์เคาน์ตี้ และมีกำหนดเริ่มดำเนินการในปี 2027
โรงงานดังกล่าวจะมุ่งเน้นการผลิตรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ของอีซูซุ ได้แก่ รุ่น N-series และ F-series ซึ่งอีซูซุตั้งเป้าว่าจะมีกำลังการผลิตสูงสุดที่ 50,000 คันต่อปี โรงงานแห่งนี้จะมีบทบาทสำคัญในการลดผลกระทบจากภาษีที่กำลังถูกกำหนดขึ้นโดยรัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์
เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและรองรับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
โรงงานใหม่ของอีซูซุจะใช้ระบบการผลิตแบบ variable-model, variable-volume ซึ่งช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตตามความต้องการของตลาดได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งในส่วนของรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) และยังสามารถรองรับการผลิต รถยนต์ไฟฟ้า ในอนาคต
นอกจากนี้ โรงงานแห่งนี้ยังถือเป็นโรงงานแห่งแรกของอีซูซุที่ไม่มีการใช้ สายพานลำเลียง (conveyors) หรือหลุมผลิต (pits) ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและขยายขีดความสามารถของสายการผลิต นอกจากนี้ยังมีการใช้ ระบบตรวจสอบอัตโนมัติ เพื่อลดข้อผิดพลาดจากการทำงาน ปรับปรุงการตรวจสอบย้อนกลับของชิ้นส่วน และนำ ระบบตรวจสอบภาพ (image inspections) มาใช้เพื่อป้องกันข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์
แผนการผลิตและเป้าหมายของอีซูซุในอเมริกาเหนือ
รถยนต์รุ่นแรกที่มีกำหนดจะผลิตที่โรงงานแห่งนี้ ได้แก่ N-series ซึ่งเป็นรถบรรทุกขนาดเล็กที่มีน้ำหนักระหว่าง 7.5 – 9.3 ตัน และรถบรรทุกขนาดกลาง F-series ที่มีน้ำหนักรวมสูงสุดที่ 15 ตัน โรงงานนี้คาดว่าจะมีการจ้างงาน มากกว่า 700 ตำแหน่ง ภายในปี 2028
แม้ว่าอีซูซุจะไม่ได้ทำตลาดรถยนต์นั่งสำหรับผู้บริโภคในสหรัฐฯ เช่น D-Max และ MU-X เหมือนในบางประเทศ แต่ตลาดอเมริกาเหนือก็ยังคงมีความสำคัญต่อธุรกิจรถบรรทุกของอีซูซุ โดยในปีงบประมาณที่ผ่านมา อีซูซุสามารถขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ได้ 44,000 คัน ในภูมิภาคนี้ และกำลังวางแผนที่จะขยายธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น
ผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐฯ
แม้ว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่ได้กำหนดอัตราภาษีเฉพาะเจาะจงสำหรับรถยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่น แต่เขาเพิ่งประกาศเรียกเก็บภาษี 25% สำหรับการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม และอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมญี่ปุ่น หลังจากที่มีการประกาศมาตรการดังกล่าว ญี่ปุ่นได้ร้องขอให้ได้รับการยกเว้นจากภาษีใหม่นี้
