ISUZU D-Max STEEL Edition เปิดราคา 1.80 ล้านบาทในอังกฤษ ผลิตเพียง 250 คัน
2025 Isuzu D-Max STEEL Edition เปิดตัวในสหราชอาณาจักร ผลิตเพียง 250 คันเท่านั้น
Isuzu D-Max STEEL Edition รุ่นใหม่ ถูกพัฒนาต่อยอดจากรุ่นท็อป V-Cross โดยมาพร้อมสีตัวถังพิเศษ Steel Gray Mica และองค์ประกอบการออกแบบเฉพาะตัว มีจำหน่ายที่ตัวแทนจำหน่าย Isuzu อย่างเป็นทางการในสหราชอาณาจักร ในราคา £42,695 หรือราว 1.80 ล้านบาท
สิ่งที่น่าสนใจคือ รุ่นนี้ไม่ใช่ STEEL Edition รุ่นแรก แต่เป็นครั้งแรกที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ D-Max รุ่นปรับปรุงใหม่ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในสหราชอาณาจักรเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา รุ่น STEEL Edition ก่อนหน้านี้ก็เป็นรุ่นลิมิเต็ดเช่นกัน แต่มีการผลิตมากถึง 300 คัน ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่ารุ่นใหม่ล่าสุดนี้มีความพิเศษและหายากยิ่งกว่าเดิม
การออกแบบภายนอก
จุดเด่นแรกที่สะดุดตาคือสีตัวถัง Steel Gray Mica ซึ่งเข้ากันได้ดีกับซุ้มล้อสีเทาเข้ม ส่วนต่อขยายซุ้มล้อด้านหลัง และราวหลังคาสีเทาเข้ม นอกจากนี้ยังมีตราสัญลักษณ์ Isuzu บนกระจังหน้าในโทนสีเทาเข้ม พร้อมกราฟิกข้างตัวรถที่มีสัญลักษณ์ “STEEL” เสริมลุคให้ดูดุดันและล้ำสมัยยิ่งขึ้น
การออกแบบภายใน
ห้องโดยสารได้รับการอัปเกรดให้หรูหรายิ่งขึ้น ด้วยพนักพิงศีรษะปักลายพิเศษ พรมปูพื้นใหม่ แผ่นกันรอยสเตนเลสพร้อมไฟ LED รวมถึงไฟส่องสว่างที่ประตูแบบมีโลโก้ STEEL และตราสัญลักษณ์ STEEL ที่ฝาท้าย วัสดุภายในยังได้รับการปรับปรุงให้พรีเมียมขึ้นอีกด้วย
D-Max STEEL Edition มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยครบครัน เช่น
- เบาะนั่งคู่หน้ามีระบบทำความร้อน
- เบาะหุ้มหนัง
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกโซน (Dual-zone Climate Control)
- ระบบกุญแจ Keyless Entry
- ระบบเสียง 8 ลำโพง
- หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 9 นิ้ว
- วิทยุ DAB
- ระบบ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
- ช่องเสียบ USB-C หลายตำแหน่ง
- ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง เช่น
- ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัจฉริยะ (Intelligent Adaptive Cruise Control)
- ระบบช่วยเลี้ยว (Turn Assist)
- ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้า (Attention Assist)
- ระบบอ่านป้ายจราจรอัจฉริยะ (Enhanced Traffic Sign Recognition)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane Keep Assist)
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking)
สมรรถนะและการขับขี่
D-Max STEEL Edition ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 1.9 ลิตร กำลังสูงสุด 164 PS (161 แรงม้า) และแรงบิด 360 Nm (265 lb-ft) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญคือระบบ Rough Terrain Mode ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการลุยทางวิบาก โดยทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Shift-on-the-Fly และระบบล็อกเฟืองท้าย ทำให้สามารถรับมือกับเส้นทางทุรกันดารได้อย่างมั่นใจ
แม้ว่าเครื่องยนต์และขนาดของ D-Max อาจดูเล็กเมื่อเทียบกับรถกระบะที่ใช้ในสหรัฐฯ แต่ในยุโรปซึ่งไม่ค่อยมีการลากจูงของหนักมากนัก รถกระบะขนาดนี้ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั้งในเชิงพาณิชย์และการผจญภัย โดยมีขนาดตัวถังใกล้เคียงกับ Ford Maverick และอยู่กึ่งกลางระหว่าง Maverick กับ Ranger
Alan Able ผู้บริหารของ Isuzu UK กล่าวว่า
“การกลับมาของ STEEL Edition เป็นผลมาจากเสียงตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากรุ่นที่แล้ว รุ่นใหม่นี้ไม่เพียงแต่มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นและอุปกรณ์ระดับพรีเมียม แต่ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและสมรรถนะที่เหนือชั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถกระบะที่มีเอกลักษณ์และสมรรถนะสูง ไม่ว่าจะใช้ทำงานหรือออกผจญภัยก็ตาม เรามั่นใจว่ารุ่นนี้จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามอีกครั้ง”
สำหรับผู้ที่สนใจ Isuzu D-Max STEEL Edition สามารถเป็นเจ้าของได้ที่ตัวแทนจำหน่ายในสหราชอาณาจักร โดยมีจำนวนจำกัดเพียง 250 คันเท่านั้น
