เผยภาพ ภายในห้องโดยสาร TANK 300 รุ่นปรับปรุงใหม่ 2025 พร้อมการออกแบบใหม่

เผยภาพภายในห้องโดยสารของ Tank 300 รุ่นปี 2025 คาดเปิดตัวต้นเดือนมีนาคมนี้ ในประเทศจีน
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เราได้รับภาพอย่างเป็นทางการของ Tank 300 รุ่นปี 2025 จากแหล่งข่าวของ Tank โดยรถ SUV ขนาดกะทัดรุนรุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงรายละเอียดบางจุดเพื่อเพิ่มความสดใหม่ คาดว่ารถรุ่นใหม่นี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนมีนาคม
สรุปการเปลี่ยนแปลง
-
ภายในห้องโดยสาร
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันดีไซน์ใหม่แบบสองก้าน
- หน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบลอยตัวขนาดใหญ่
- ระบบเกียร์แบบติดตั้งที่คอพวงมาลัย (怀挡)
- เพิ่มแท่นชาร์จไร้สายสำหรับโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
- ปรับปรุงปุ่มควบคุมและคันโยก เช่น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและล็อกเฟืองท้าย
-
ดีไซน์ภายนอก
- คงรูปแบบดีไซน์เดิม เน้นความแข็งแกร่งและคลาสสิก
- ยังคงใช้ไฟหน้าทรงกลม LED พร้อมกระจังหน้าสามแถบแนวนอน
-
สมรรถนะและขุมพลัง
- คาดว่ายังคงใช้เครื่องยนต์เดิมทั้งเบนซิน ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริด
- รุ่น Hi4-T ปลั๊กอินไฮบริด วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ 105 กม.
ดีไซน์ภายในใหม่ ทันสมัยและล้ำสมัยยิ่งขึ้น
Tank 300 รุ่นปี 2025 ได้รับการอัปเกรดภายในห้องโดยสารหลายจุด ซึ่งมีไฮไลต์สำคัญดังนี้:
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสองก้านดีไซน์ใหม่ ที่ออกแบบมาให้จับถนัดมือและใช้งานง่ายขึ้น
- หน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบลอยตัวขนาดใหญ่ มาพร้อมระบบปฏิบัติการใหม่ที่ให้ความล้ำสมัยมากขึ้น
- เปลี่ยนมาใช้ระบบเกียร์คันโยกแบบติดตั้งที่คอพวงมาลัย (Column Shifter หรือ “怀挡”) ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งานบริเวณคอนโซลกลาง
- เพิ่มแท่นชาร์จไร้สายสำหรับโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง รองรับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล
- ปุ่มควบคุมและคันโยกแบบกายภาพที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เช่น คันโยกควบคุมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อความเร็วสูง/ต่ำ และสวิตช์ล็อกเฟืองท้าย เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด
ดีไซน์ภายนอกยังคงเอกลักษณ์สไตล์ Tank 300
Tank 300 รุ่นปี 2025 ยังคงรักษาดีไซน์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์จากรุ่นก่อนหน้า โดยมีไฟหน้าทรงกลมพร้อมไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED ผสานกับกระจังหน้าดีไซน์สามแถบแนวนอน ทำให้ด้านหน้าของรถดูคลาสสิกแต่ยังให้ความรู้สึกทันสมัย
สำหรับสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรด ยังคงมีค่ามุมต่างๆ ดังนี้:
- มุมเผชิญหน้า (Approach Angle): 33 องศา
- มุมจาก (Departure Angle): 34 องศา
- ระยะต่ำสุดจากพื้น (Ground Clearance): 224 มม. (เมื่อบรรทุกเต็ม)
- ความสามารถในการลุยน้ำลึกสูงสุด (Wading Depth): 700 มม.
ขุมพลังหลากหลาย ทั้งเบนซิน ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริด
Tank 300 รุ่นปี 2025 คาดว่าจะยังคงใช้ขุมพลังที่มีให้เลือกทั้งแบบเบนซิน ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริด (Hi4-T) ดังนี้:
- รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน: เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 227 แรงม้า (167 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 387 นิวตัน-เมตร
- รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล: เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 186 แรงม้า (137 กิโลวัตต์)
- รุ่นปลั๊กอินไฮบริด (Hi4-T): กำลังรวม 400 แรงม้า และแรงบิดรวม 750 นิวตัน-เมตร พร้อมระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน 105 กม. (มาตรฐาน WLTC)
Tank 300 ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปสู่ SUV สายลุยที่ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะมากขึ้น สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถรุ่นนี้ เราจะคอยติดตามและรายงานให้ทราบต่อไป