CHERY พร้อมเปิดตัวในไทย OMODA C7 และ Jaecoo J8 ภายในงาน Motor SHOW 2025

เตรียมพบกับนวัตกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของ OMODA & JAECOO ภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 บูธ A23 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี
พลาดไม่ได้กับการเปิดตัว JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) นวัตกรรม Super HEV + EV พร้อมยกทัพรถไฟฟ้าอีกหลากหลายดีไซน์อย่าง OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV รวมถึงข้อเสนอสุดพิเศษภายในงาน
นอกจากนี้ CHERY ยังมีการเปิดตัวรถยนต์ OMODA C7 และ Jaecoo J8 ภายในงานนี้เช่นกัน
OMODA C7
Omoda C7 หรือที่รู้จักในชื่อ Omoda 7 เป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์เอสยูวีขนาดกะทัดรัดที่ผลิตโดย Chery ภายใต้แบรนด์ Omoda ซึ่งมุ่งเน้นตลาดส่งออก โดยเปิดตัวในเดือนเมษายน 2024 นับเป็นรถยนต์รุ่นแรกของ Omoda ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ไม่ได้ใช้แพลตฟอร์มร่วมกับรุ่นของ Chery เหมือนก่อนหน้านี้
Omoda C7 มาพร้อมกับการออกแบบภายนอกที่สะท้อนถึงความล้ำสมัยและความเป็นเอกลักษณ์:
- กระจังหน้าดีไซน์ไร้กรอบ ที่มีลวดลายคล้ายโมเสก เพิ่มความโดดเด่นให้กับด้านหน้า
- ไฟหน้าแบบชั้นเดียว ที่รวมไฟ LED Daytime Running Light (DRL) ไว้ในตำแหน่งด้านบน
- มือจับประตูแบบฝังเรียบ และกระจกมองข้างที่ติดตั้งบน “ขา” เพื่อเพิ่มความหรูหรา
- ไฟท้ายแบบเส้นเดียว ที่พาดผ่านทั้งด้านหลัง พร้อมลวดลายแสงแบบซิกแซก สร้างความโดดเด่นในยามค่ำคืน
การออกแบบภายในของ Omoda C7 มุ่งเน้นความเรียบง่ายในสไตล์ Minimalism
- ภายในห้องโดยสารของ Omoda C7 โดดเด่นด้วยหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 2.5K และมีความสว่างสูงถึง 1,000 nits โดยจอสามารถเลื่อนไปมาได้ระหว่างฝั่งผู้ขับและผู้โดยสารเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
- ห้องโดยสารหุ้มด้วยวัสดุหนังนูบัคคุณภาพสูง และมาพร้อมกับระบบเสียง Sony แบบ 12+2 ลำโพง ซึ่งมีลำโพงฝังในพนักพิงศีรษะของคนขับ เพื่อช่วยให้การนำทางและรับสายโทรศัพท์สะดวกขึ้นโดยไม่รบกวนผู้โดยสาร
ขนาดตัวถัง Omoda C7
- ความยาว: 4,621 มม.
- ความกว้าง: 1,872 มม.
- ความสูง: 1,673 มม.
- ระยะฐานล้อ: 2,700 มม.
ขุมพลังและสมรรถนะ
Omoda C7 ใช้ระบบไฮบริดแบบปลั๊กอิน (PHEV) Kunpeng Hybrid System จาก Chery ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์ เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร
- กำลังสูงสุด: 156 แรงม้า (115 กิโลวัตต์)
- แรงบิดสูงสุด: 220 นิวตันเมตร
ด้านสมรรถนะการขับขี่ Omoda C7 สามารถวิ่งในโหมดไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ระยะทางประมาณ 95 กิโลเมตร และเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องยนต์ สามารถวิ่งได้ไกลสุดถึง 1,250 กิโลเมตร
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.98 ลิตร/100 กม. เมื่อแบตเตอรี่หมด
การทำตลาดและแผนจำหน่าย
Omoda มีแผนที่จะเปิดตัว C7 ในตลาดยุโรปและแอฟริกาใต้ภายในปี 2025 โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก คล้ายกับที่ Kia จากเกาหลีใต้เคยทำมาแล้วในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา
Omoda C7 ได้รับรางวัล Gold Award จาก French Design Award (FDA) ซึ่งเป็นหนึ่งในรางวัลด้านการออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก และติดอันดับ 1% แรกของดีไซน์ยอดเยี่ยม ที่ได้รับการคัดเลือกจากสถาบัน
Jaecoo J8
การออกแบบภายนอก
Jaecoo J8 มาพร้อมกับการออกแบบภายนอกที่สะท้อนถึงสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดและความหรูหราอย่างลงตัว ด้านหน้าตัวรถโดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ลวดลายตาข่ายอันซับซ้อน ขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED ทรงเรียวแบบมุมฉาก เส้นสายของตัวถังที่แข็งแกร่งช่วยเสริมให้ตัวรถดูมีมิติและทรงพลัง ขณะที่ซุ้มล้อที่ถูกขยายออกมาช่วยรองรับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ได้อย่างลงตัว
Jaecoo J8 ยังมาพร้อมกับความสูงจากพื้นรถที่มากขึ้น ชุดกันกระแทกที่แข็งแกร่ง และแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ ที่ช่วยเสริมสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรด ขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความหรูหราด้วยวัสดุโครเมียมและเส้นสายหลังคาที่ปรับแต่งมาอย่างประณีต
ขนาดตัวถัง
- ความยาว: 4,820 มม.
- ความกว้าง: 1,930 มม.
- ความสูง: 1,710 มม.
- ระยะฐานล้อ: 2,820 มม.
- พื้นที่เก็บสัมภาระ: 717 ลิตร
การออกแบบภายใน
เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ Jaecoo J8 คุณจะได้สัมผัสกับความหรูหราและวัสดุคุณภาพสูง เบาะนั่งแบบ King Size Private Sofa หุ้มด้วยหนัง NAPPA ระดับพรีเมียมที่ให้ความรู้สึกนุ่มสบาย
เบาะคู่หน้ามีฟังก์ชัน ทำความร้อน, ระบายอากาศ และนวด ในขณะที่เบาะหลังถูกออกแบบให้รองรับสรีระอย่างดี พร้อมคุณสมบัติการปรับเอนได้เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดในการเดินทางระยะไกล
แผงคอนโซลและแผงประตูถูกตกแต่งด้วยวัสดุ หนังกลับสีดำด้าน เสริมด้วยลายไม้ที่ช่วยเพิ่มความหรูหราและให้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย
เทคโนโลยีและความปลอดภัย
Jaecoo J8 อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้โดยสาร
- หน้าจอแสดงผลแบบโค้งขนาด 24.6 นิ้ว รวมทั้งระบบอินโฟเทนเมนต์และมาตรวัดเข้าไว้ด้วยกัน รองรับคำสั่ง ท่าทางและเสียง
- ระบบเสียง SONY Surround 14 ลำโพง ให้คุณภาพเสียงระดับโรงภาพยนตร์
- ระบบปรับอากาศอัจฉริยะ 3 มิติ พร้อมการควบคุมอุณหภูมิแยกส่วน
- ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร 255 สี แบบสายน้ำตก
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
Jaecoo J8 มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 ลิตร TGDI จับคู่กับเกียร์ 7 สปีด DCT
สเปก | 2.0L TGDI |
---|---|
แรงม้าสูงสุด | 245 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด | 385 นิวตันเมตร |
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. | 8.5 วินาที |
ความเร็วสูงสุด | 205 กม./ชม. |
ระบบขับเคลื่อน | AWD (ขับเคลื่อน 4 ล้อ) |
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
Jaecoo J8 มาพร้อมกับระบบ All Road Drive Intelligent System (ARDIS) ที่สามารถปรับแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลังแบบอัตโนมัติตามสภาพถนนและรูปแบบการขับขี่
- รองรับโหมดการขับขี่ 7 โหมด ได้แก่ Eco, Sport, Snow, Mud, Sand, Rock และ Off-Road
- พร้อมลุยทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็น ทะเลทราย, ภูเขา หรือทางออฟโรดทุกรูปแบบ