เปลี่ยนนิด แต่คิดมาแล้ว! โลโก้ IM ใหม่ ใช้สมการทองคำปรับองศา

IM Motors ชี้แจงการเปลี่ยนแปลงโลโก้: ปรับมุม อัตราส่วน และรูปทรง เพื่อสื่อถึงพลังใหม่
เช้าวันนี้ (9 เม.ย.) ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของศูนย์สร้างสรรค์ของ IM Motors คุณ 许邓韬 ได้ออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนโลโก้ของแบรนด์ พร้อมเผยว่า การรีดีไซน์ครั้งนี้เกิดจากการสำรวจและพัฒนาใน 3 มิติหลักคือ:
มุม (Angle), สัดส่วน (Proportion), และรูปทรง (Form)
โดยเขาระบุว่า:
“ช่วงหลังมีหลายคนสังเกตว่าโลโก้ของ IM ดูเหมือนจะเปลี่ยน…แต่ก็เหมือนไม่เปลี่ยน หลายคนเลยตั้งคำถามว่า ‘เปลี่ยนแค่นี้ มีเหตุผลอะไร?’ ซึ่งในฐานะผู้ออกแบบ ผมขออธิบายไว้ที่นี่เลยครับ”
ปี 2025 ถือเป็นปีทองของ IM Motors ทั้งในแง่ของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และการรุกตลาดระดับโลก การเปลี่ยนโลโก้จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดศักราชใหม่อย่างเป็นทางการ และเป็นผลลัพธ์จากความร่วมมือกับ Central Saint Martins สถาบันออกแบบระดับโลกในอังกฤษ ที่ร่วมกันขุดลึกถึงรากของดีไซน์ภายใต้แนวคิดศิลปะระดับไฮเอนด์
1. มุม (Angle)
โลโก้ IM ดั้งเดิมเป็นรูปทรงสมมาตร โดยมีมุมเอียงมาตรฐานที่ 45 องศา ครั้งนี้เพื่อเพิ่มความรู้สึก “พลังเติบโตขึ้น” และความทันสมัย จึงมีการยกมุมเอียงของเส้นคู่ขึ้นเป็น 46.6 องศา ซึ่งเรียกว่า “มุมทองคำ (Golden Tilt)” เป็นการสร้างความสมดุลทางสายตาที่มีความละเอียดเชิงคณิตศาสตร์มากยิ่งขึ้น
2. สัดส่วน (Proportion)
ปรับระยะห่างขององค์ประกอบต่างๆ จาก 0.41X → 0.38X (X = เส้นผ่านศูนย์กลางของวงกลมที่เป็นองค์ประกอบในโลโก้) เพื่อลดช่องว่างที่ไม่จำเป็น ทำให้โลโก้ดูแน่น กระชับ และมีพลังมากขึ้น รวมถึงมองเห็นจากระยะไกลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
3. รูปทรง (Form)
เพื่อเพิ่มความหรูหราและลื่นไหลของเส้นสาย ทีมออกแบบนำแรงบันดาลใจจาก “ประติมากรรมนุ่มนวล” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของดีไซน์รถ IM มาประยุกต์ใช้ โดยใช้หลักการ G3 Curvature Continuity – หรือ “ความต่อเนื่องของความโค้งระดับ G3” ซึ่งถือเป็นมาตรฐานสูงสุดของความเรียบเนียนในเส้นโค้ง ทำให้รูปทรงของโลโก้ดูพริ้วไหว สมูท และมีมิติเมื่อมองจากหลายมุมในแบบสามมิติ
การปรับเล็กๆ ทั้งสามด้านนี้ ช่วยเติมเต็มอัตลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความ “หรูหรา มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยพลังบวก” พร้อมนำ IM Motors ก้าวเข้าสู่บทใหม่แห่งความสำเร็จบนเวทีโลก
ถ้าจะพูดง่ายๆ นี่คือการ “แก้นิดเดียว…แต่รู้สึกได้เลยว่าเปลี่ยนทั้งตัวตน” ใครชอบแนว “less is more” หรือหลงใหลในความพรีเมียมแบบสายดีไซน์ ต้องปรบมือให้เลย!