CEO VW สาขาจีน ยอมรับ ยานยนต์ไฟฟ้าจีน แข็งแกร่งในทุกด้าน ยุโรปควรเอาเป็นแบบอย่าง

สรุป: ทำไมจีนถึงแข็งแกร่งด้านรถยนต์ไฟฟ้า (EV)

• จีนลงทุนและวางนโยบายตั้งแต่เนิ่น ๆ มีกรอบนโยบายระยะยาวกว่า 20 ปี อุดหนุนการซื้อรถ EV และจำกัดรถน้ำมัน
• สนับสนุนทั้งรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) และรถยนต์ไฮบริด (HEV, PHEV) ช่วยให้การใช้งานรถพลังงานทางเลือกขยายไปได้ทั่วประเทศ
• มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมใช้งาน จีนมีจุดชาร์จสาธารณะมากถึง 3.6 ล้านจุด คิดเป็นร้อยละ 70 ของทั่วโลก
• ค่าไฟฟ้าสำหรับชาร์จรถยนต์ต่ำมาก ชาร์จเพื่อวิ่ง 100 กิโลเมตร ใช้เงินเพียงประมาณ 57 บาท ถูกกว่าในเยอรมนีหลายเท่า
• มีนโยบายอุตสาหกรรมที่ชัดเจนและต่อเนื่อง สนับสนุนทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องและมั่นคง
• ผู้บริโภคในจีนมีอายุน้อยและเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ อายุเฉลี่ยของผู้ซื้อรถ EV เพียง 34 ปี อายุน้อยกว่ายุโรปกว่า 20 ปี ทำให้การยอมรับเทคโนโลยีเร็วและแพร่หลาย

ตามรายงานของสื่อเยอรมัน Automobilwoche เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา “ราล์ฟ แบรนด์สตัตเตอร์” (Ralf Brandstätter) ประธานกรรมการและซีอีโอของ Volkswagen Group China ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุที่ จีนแข็งแกร่งมากในด้านการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้า (e-mobility)

แบรนด์สตัตเตอร์ชี้จุดแข็งของจีนด้านรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV):

• การลงทุน, การสนับสนุน และข้อจำกัดที่ลงตัว:

  • จีนมองเห็นโอกาสในตลาดรถยนต์พลังงานใหม่มาตั้งแต่เนิ่น ๆ

  • รัฐบาลและภาคเอกชนทุ่มเงินมหาศาลในการวิจัยและพัฒนา

  • ดำเนินนโยบายผลักดันมานานกว่า 20 ปี ผ่านมาตรการจูงใจต่าง ๆ เช่น

    • เงินอุดหนุนการซื้อรถ

    • ข้อจำกัดการใช้รถน้ำมัน

• ไม่จำกัดแค่รถ BEV แต่หนุน HEV/PHEV ด้วย:

  • ทำให้การเปลี่ยนผ่านขยายไปยังเมืองรองหรือพื้นที่ห่างไกล

  • โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังไม่มีระบบชาร์จไฟฟ้าที่ครอบคลุม

• โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง:

  • จีนมีจุดชาร์จสาธารณะมากถึง 3.6 ล้านจุด คิดเป็น 70% ของทั้งโลก!

  • เป็นผลจากความร่วมมือของทั้งรัฐบาล ผู้ผลิตรถยนต์ และสตาร์ทอัพ

• ราคาค่าไฟฟ้าต่ำ:

  • ค่าใช้จ่ายชาร์จไฟฟ้าสำหรับวิ่ง 100 กม. เพียง ประมาณ 1.50 ยูโร ประมาณ 57 บาท

  • บางพื้นที่ราคาต่อกิโลวัตต์อาจต่ำกว่า 0.05 ยูโร ประมาณ 1.90 บาท

  • เทียบกับเยอรมนีที่ต้องจ่ายถึง 9 ยูโร  ต่อ 100 กม. หรือ 342 บาท

• นโยบายชัดเจน – หนุนทั้งระบบ:

  • จีนมีนโยบายด้านอุตสาหกรรมที่ “มั่นคง ชัดเจน ระยะยาว”

  • ส่งเสริมทั้งรถไฟฟ้าและรถไฮบริด ไม่เลือกข้างสุดโต่ง

  • ทำให้ต้นทุนทั้ง การซื้อและการใช้งานต่ำ

• พฤติกรรมผู้บริโภค – จุดที่ไม่มีใครควบคุมได้:

  • กลุ่มผู้ซื้อรถ EV ในจีนมี อายุเฉลี่ยเพียง 34 ปี

  • เด็กกว่ายุโรปมากกว่า 20 ปี

  • เปิดรับเทคโนโลยีใหม่อย่างกว้างขวาง เป็นแรงผลักสำคัญในการเติบโตของตลาด EV

จีนไม่ใช่แค่ “ตั้งใจทำ” แต่ยัง “ทำได้ดี” ในทุกมิติของการผลักดัน EV – ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน นโยบาย การสนับสนุนทางการเงิน จนถึงทัศนคติของผู้บริโภค ทำให้ยุโรปควรศึกษาเป็นบทเรียนในการปฏิรูประบบคมนาคมของตน