SUBARU เปิดตัว ALL-NEW 2026 OUTBACK WILDERNESS SUV

 

SUBARU เปิดตัว ALL-NEW 2026 OUTBACK WILDERNESS SUV พร้อมดีไซน์ใหม่สุดดุดัน ช่วงล่างอัปเกรด และสมรรถนะพร้อมลุย

ไฮไลต์เด่น:

• เครื่องยนต์เทอร์โบ 2.4 ลิตร 260 แรงม้า / แรงบิด 277 นิวตัน-เมตร
• ขับเคลื่อน 4 ล้อ Symmetrical AWD
• โหมด X-MODE® Dual Mode (Snow/Dirt & Deep Snow/Mud)
• ระบบกันสะเทือนใหม่ พร้อมโช้คไฟฟ้าอัจฉริยะ
• ยาง All-Terrain Bridgestone + ล้อแม็กสีดำ 17 นิ้ว
• ระยะใต้ท้องรถ 9.5 นิ้ว / มุมไต่ดีขึ้นกว่ารุ่นปกติ
• ลากจูงได้สูงสุด 3,500 ปอนด์ หรือ 1,587 กก.

ดีไซน์ + อุปกรณ์:

• กันชนหน้าใหม่ ไฟตัดหมอก LED ทรงหกเหลี่ยม
• ราวหลังคารับน้ำหนักสูงสุด 800 ปอนด์
• ตกแต่งภายนอกด้วยสีดำด้านและแถบสีทองแดงสุดเท่
• ภายในเบาะกันน้ำ StarTex® และมีตัวเลือก Nappa Leather
• กล้อง 360°, หลังคาซันรูฟ, และจอสัมผัส 12.1 นิ้ว + จอดิจิทัล 12.3 นิ้ว
• รองรับ Wireless Apple CarPlay / Android Auto

 พื้นที่สัมภาระ:

• เพิ่มเป็น 34.6 ลูกบาศก์ฟุต
• ผ้าคลุมอเนกประสงค์ (ม่าน/เปล/กันรอย) จากวัสดุรีไซเคิล
• ตะขอแขวนของได้ 8 จุด รับน้ำหนักจุดละ 6 ปอนด์

Subaru of America, Inc. ได้เผยโฉม Subaru Outback รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีความสามารถและล้ำสมัยที่สุด ณ งาน New York International Auto Show ปี 2025 กับ 2026 Subaru Outback Wilderness รุ่นใหม่ทั้งหมด รถ SUV สมาชิกใหม่ล่าสุดในตระกูล Wilderness นี้ยังคงระยะใต้ท้องรถ 9.5 นิ้ว และความสามารถในการลุยทุกเส้นทาง แต่เสริมด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การออกแบบภายในที่ยกระดับ และสมรรถนะที่ดีขึ้นทั้งการขับบนถนนเรียบและทางวิบาก โดยคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายทั่วสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นปี 2026

สมรรถนะและความสามารถ

Outback Wilderness รุ่นใหม่ยังคงระยะใต้ท้องรถไว้ที่ 9.5 นิ้ว ซึ่งมากกว่ารถ SUV ขนาดใหญ่หลายรุ่น ระบบกันสะเทือนถูกปรับจูนใหม่เพื่อเพิ่มความมั่นคงขณะวิ่งบนเส้นทางขรุขระ พร้อมรักษาความนุ่มนวลและการควบคุมที่ดีบนถนนทั่วไป ด้วยการใช้โช้คแบบควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย เซ็นเซอร์วัดความเร่งจากกล่องควบคุมอิเล็กทรอนิกส์และระบบกันสะเทือนหน้า จะตรวจจับสภาพถนนและรถแบบเรียลไทม์ เพื่อควบคุมแรงหน่วงของโช้คได้ทันที ระบบนี้ทำงานคล้ายระบบ “Skyhook” ที่ช่วยลดอาการโคลง และเสริมเสถียรภาพการขับขี่ระดับสูง ขณะวิ่งออฟโรด โช้คดังกล่าวยังทำงานร่วมกับระบบ X-MODE® เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการลุย โดยไม่ลดทอนความสบายเมื่อลงถนนปกติ

รถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 2.4 ลิตร SUBARU BOXER® ให้กำลังสูงสุด 260 แรงม้า และแรงบิด 277 ปอนด์-ฟุต ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic® CVT พร้อมโหมดแมนวล 8 สปีด และแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบ X-MODE® Dual Mode รองรับการขับขี่ในโหมด Snow/Dirt และ Deep Snow/Mud เพื่อเพิ่มความมั่นใจ

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อสมมาตร Subaru รุ่นปรับปรุงใหม่ที่ใช้ร่วมกับ Outback รุ่นปกติ ได้รับการอัปเกรดให้ล็อกเฟืองกลางได้เร็วขึ้น ลดอาการล้อหมุนฟรีขณะลุย และยังใช้ข้อมูลจากมุมพวงมาลัยเพื่อเพิ่มเสถียรภาพขณะเข้าโค้งในความเร็วสูงอีกด้วย

รถคันนี้ติดตั้งยาง Bridgestone Dueler แบบ All-Terrain บนล้อแม็กสีดำด้านขนาด 17 นิ้วที่ออกแบบพิเศษเฉพาะรุ่น Wilderness เพื่อเพิ่มความสามารถบนถนนลูกรังหรือโคลน

ระบบพ่วงลากอุปกรณ์เสริมที่อัปเกรดใหม่ มาพร้อมหัวต่อแบบ 7-pin และ 4-pin และกันชนหลังที่ออกแบบใหม่เพื่อการติดตั้งพ่วงได้ง่ายขึ้น รองรับการลากจูงได้สูงสุด 3,500 ปอนด์

2026 Outback Wilderness ยังมาพร้อมกับมุมปีนไต่ที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นปกติ โดยมุมเผชิญหน้า (approach angle) เพิ่มขึ้นเป็น 20 องศา (จาก 18 องศา) มุมคร่อมกลาง (breakover) เพิ่มเป็น 21.2 องศา (จาก 19.4 องศา) และมุมจาก (departure angle) เพิ่มเป็น 22.5 องศา (จาก 21.4 องศา)

ฟีเจอร์ Wilderness

ดีไซน์ภายนอกของ 2026 Subaru Outback Wilderness ใหม่ สะท้อนความแกร่งและดุดันยิ่งขึ้น โดยอ้างอิงจากเส้นสายของ Outback เจเนอเรชันที่ 7 เพิ่มเติมด้วยฟีเจอร์สมรรถนะลุยเต็มรูปแบบ เช่น ราวหลังคาสไตล์บันไดแบบใหม่ พร้อมตัวเลขระบุระยะวัด และรับน้ำหนักแบบ Static ได้ 800 ปอนด์ (Dynamic 220 ปอนด์) พร้อมตะขอผูกเชือกที่แข็งแรงยิ่งขึ้น แผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถเสริมความแข็งแกร่ง และไฟตัดหมอก LED ทรงหกเหลี่ยมแบบกลมช่วยให้เดินทางได้แม้ยามค่ำ

ดีไซน์ด้านข้างเน้นโทนดำด้าน เช่น กระจกมองข้าง ซุ้มล้อ ชุดไฟหน้า กันชนหน้า และกระจังหน้า เสริมด้วยรายละเอียดสีทองแดงแบบ Anodized Copper บริเวณราวหลังคา ชุดไฟตัดหมอก และไฟถอยหลัง สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของ Wilderness

ภายในห้องโดยสาร

ห้องโดยสารของ Outback Wilderness ใช้วัสดุหุ้มเบาะ StarTex® ซึ่งไม่ใช่หนังสัตว์ มีคุณสมบัติกันน้ำและทำความสะอาดง่าย ตกแต่งด้วยแถบสีทองแดงเฉพาะรุ่น Wilderness

เป็นครั้งแรกที่ Subaru Wilderness มาพร้อมตัวเลือกเบาะหนัง Nappa แบบมีรูระบายอากาศ, หลังคาซันรูฟ, และกล้องมองรอบคัน 360 องศา

ความสะดวกและความปลอดภัย

ห้องสัมภาระด้านท้ายมีพื้นที่ 34.6 ลูกบาศก์ฟุต เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 2 ลูกบาศก์ฟุต มาพร้อมอุปกรณ์ใหม่หลายรายการ เช่น ตะขออเนกประสงค์ และ ผ้าคลุมสัมภาระอเนกประสงค์ ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล 100% สามารถปรับใช้งานได้ทั้งแบบม่านกันของ, เปลเก็บสัมภาระ, หรือเป็นแผ่นกันรอยจากสัตว์เลี้ยง/สัมภาระ

ตะขอเกี่ยวของแบบใหม่ รองรับน้ำหนักได้ 6 ปอนด์ต่อจุด ติดตั้งได้ถึง 8 จุด (ฝั่งซ้าย-ขวา อย่างละ 4 จุด) เพื่อรองรับการใช้งานหลายรูปแบบ ทั้งแขวนเสื้อผ้า อุปกรณ์เดินทาง หรือยึดผ้าคลุมสัมภาระในรูปแบบต่าง ๆ

หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 12.1 นิ้ว พร้อมจอผู้ขับขี่แบบดิจิทัล 12.3 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบอินโฟเทนเมนต์รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android Auto™ แบบเต็มจอ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานอื่น ๆ ได้แก่:

• Bluetooth® รองรับโทรศัพท์และสตรีมเสียง
• กล้องมองหลัง
• วิทยุ AM/FM
• SiriusXM® All-Access Radio และ Travel Link® ทดลองใช้ 4 เดือน
• วิทยุ HD Radio®
• รองรับการอัปเดตผ่าน OTA

ราคาและการวางจำหน่าย รายละเอียดราคาและข้อมูลจำเพาะฉบับเต็ม จะเปิดเผยอีกครั้งก่อนการวางจำหน่ายจริงในต้นปี 2026