Stellantis ร่วมมือกับ Leapmotor เตรียมผลิต Leapmotor พวงมาลัยขวาปีนี้ ในมาเลเซีย

สรุปข่าว Leapmotor จับมือ Stellantis ตั้งสายการผลิตในมาเลเซีย
- Stellantis ร่วมมือกับ Leapmotor เริ่มโครงการผลิตรถยนต์ Leapmotor ในมาเลเซีย ณ โรงงาน Gurun รัฐเกดะห์
- ใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 5 ล้านยูโร (ประมาณ 189 ล้านบาท)
- เริ่มประกอบ Leapmotor C10 รุ่นแรกในมาเลเซียภายในสิ้นปี 2025
- Leapmotor C10 มีทั้ง BEV และ EREV
- เปิดตัวในจีน มีราคาตั้งแต่ 128,800 หยวน (ประมาณ 589,000 บาท)
- Stellantis ชี้โรงงาน Gurun จะเป็นศูนย์กลางการผลิตและกระจายสินค้าไปยังตลาดอาเซียน
- โครงการนี้ช่วยให้ Stellantis ขยายไลน์ EV ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสนับสนุนการพัฒนา EV อย่างยั่งยืนในภูมิภาค
- Leapmotor เปิดตัวใน มาเลเซีย ต.ค. 2024 และเข้าไทยต่อมา
- Stellantis เคยลงทุน 1.5 พันล้านยูโร ใน Leapmotor (ถือหุ้น ~20%)
- ทั้งสองบริษัทตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ Leapmotor International (Stellantis ถือหุ้น 51%)
- เคยเริ่มประกอบ Leapmotor T03 ที่โรงงาน Stellantis ในโปแลนด์เมื่อปี 2024
การผลิตรถยนต์ Leapmotor ในระดับท้องถิ่นจะเริ่มต้นขึ้นในมาเลเซียภายในปีนี้ หลังจากที่เริ่มผลิตในยุโรปไปเมื่อปีที่แล้ว
Stellantis NV ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรปตามปริมาณการขาย ประกาศในวันนี้ว่าจะเปิดตัวโครงการประกอบรถในประเทศมาเลเซียร่วมกับ Leapmotor
โครงการนี้จะตั้งอยู่ที่โรงงานของ Stellantis ที่มีอยู่แล้วในเมืองกูรูน (Gurun) รัฐเกดะห์ของมาเลเซีย โดยมีการลงทุนเริ่มต้นจำนวน 5 ล้านยูโร (ประมาณ 189 ล้านบาท) ตามแถลงการณ์ของบริษัท
บริษัททั้งสองวางแผนที่จะเริ่มสายการผลิตรถ Leapmotor รุ่นแรกในมาเลเซีย คือ Leapmotor C10 ซึ่งเป็นรถ SUV ภายในสิ้นปี 2025
Leapmotor C10 เปิดตัวในตลาดจีนเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2024 โดยมีทั้งเวอร์ชัน EREV (รถยนต์ไฟฟ้าระยะขยาย) และ BEV (รถยนต์ไฟฟ้าล้วน) เป็นรถ SUV แบบ 5 ที่นั่ง ซึ่งปัจจุบันมีราคาจำหน่ายในจีนเริ่มต้นที่ 128,800 หยวน (ประมาณ 589,000 บาท)
ต่อมาในวันที่ 24 กันยายน 2024 Leapmotor ได้ประกาศเริ่มวางจำหน่าย C10 ใน 13 ประเทศในยุโรป รวมถึงการจำหน่ายรถ BEV ขนาดกะทัดรัดรุ่น T03
ที่งาน Brussels Auto Show ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2025 Leapmotor ได้โชว์เทคโนโลยี EREV และเปิดตัว C10 เวอร์ชัน EREV ในยุโรปอย่างเป็นทางการ
โรงงานกูรูนของ Stellantis ถือเป็นฐานการผลิตประจำภูมิภาคที่มีทำเลยุทธศาสตร์สำคัญ และมีความสามารถในการผลิตรถยนต์อย่างเชี่ยวชาญ บริษัทระบุว่า โรงงานแห่งนี้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตและกระจายสินค้าไปยังประเทศสมาชิกอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัยและมีราคาจับต้องได้ของ Leapmotor, Stellantis ไม่เพียงขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังมีบทบาทในการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืนในภูมิภาคนี้ด้วย
Ashwani Muppasani ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Stellantis ประจำภูมิภาคอินเดียและเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า พัฒนาการครั้งนี้เป็นบทใหม่ของเส้นทางการเปลี่ยนผ่านสู่ไฟฟ้าของบริษัทในภูมิภาคอาเซียน โดยกำลังวางรากฐานของระบบขนส่งที่ยั่งยืนในมาเลเซียและทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Zhu Jiangming ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอของ Leapmotor ระบุว่า โครงการประกอบรถยนต์ในมาเลเซียจะช่วยเร่งกลยุทธ์การขยายตัวทั่วโลกของ Leapmotor
Leapmotor ได้เข้าสู่ตลาดมาเลเซียครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2024 จากนั้นได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยตามมา
ก่อนหน้านั้นในวันที่ 26 ตุลาคม 2023 Leapmotor ประกาศว่า Stellantis จะลงทุน 1.5 พันล้านยูโรในบริษัท หรือประมาณ 56,877 ล้านบาท โดยจะถือหุ้นประมาณ 20% ทำให้ Stellantis กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดจากต่างประเทศของ Leapmotor
ต่อมาในวันที่ 14 พฤษภาคม 2024 Leapmotor ได้ประกาศจัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ Leapmotor International โดย Stellantis ถือหุ้น 51% และ Leapmotor ถือหุ้นอีก 49%
Leapmotor International มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมี Xin Tianshu รองประธานของ Stellantis China เป็นซีอีโอ
ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว นักวิเคราะห์จาก Jefferies ระบุว่า ฝ่ายบริหารของ Leapmotor ได้กล่าวในการประชุมวิเคราะห์ว่ารถ T03 รุ่นแรกได้เริ่มไหลออกจากสายการผลิตที่โรงงานของ Stellantis ในโปแลนด์ โดยการผลิตจำนวนมากมีกำหนดเริ่มต้นในเดือนกันยายน