Vinfast Auto ยังคงขาดทุนหนัก 106,246 ล้านบาท แม้จะมียอดขายโตขึ้นกว่า 192% ในงบปี 2024

สรุป
- ส่งมอบรถ EV รวมทั้งปี: 97,399 คัน (+192% YoY)
- รายได้รวม: 1.81 พันล้านดอลลาร์ (+57.9%) ประมาณ 60,473 ล้านบาท
- ขาดทุนสุทธิ: 3.18 พันล้านดอลลาร์ ปรระมาณ 106,246 ล้านบาท
- ขาดทุนขั้นต้น: 1.04 พันล้านดอลลาร์ (Q4 มีค่าใช้จ่ายพิเศษ 242.5 ล้านจากโปรแกรมชาร์จฟรี) หรือประมาณ 34,747 ล้านบาท
การสนับสนุนจากผู้ก่อตั้ง
-
Pham Nhat Vuong มอบเงินสนับสนุนไม่ต้องคืน 410.9 ล้านดอลลาร์ (ส่วนหนึ่งของแพ็กเกจ 2.1 พันล้าน)
แผนขยายทั่วโลก
- อินโดนีเซีย: 22 สาขา
- ฟิลิปปินส์: 6 สาขา
- สหรัฐฯ: 38 ดีลเลอร์ใน 16 รัฐ
- เตรียมเปลี่ยนเป็นระบบแฟรนไชส์เต็มรูปแบบในสหรัฐฯ
เป้าหมายปี 2025
- ดันยอดส่งมอบทั่วโลก เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 เท่า
- เน้น เพิ่มประสิทธิภาพ และ ขยายตลาด
VinFast Auto (Nasdaq: VFS) รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 และทั้งปี 2024 ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีจำนวนส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้นอย่างมาก
- ไตรมาส 4 ปี 2024: ส่งมอบ EV จำนวน 53,139 คัน เพิ่มขึ้น 143% จากไตรมาสก่อนหน้า
- ตลอดปี 2024: ส่งมอบรวม 97,399 คัน เพิ่มขึ้น 192% เมื่อเทียบกับปี 2023
- รายได้รวมตลอดปี 2024 อยู่ที่ 1.81 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 57.9% จากปี 2023
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงขาดทุน:
- ขาดทุนขั้นต้น ทั้งปีอยู่ที่ 1.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 3.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- กำไรขั้นต้นในไตรมาส 4 ได้รับผลกระทบจาก ค่าใช้จ่ายพิเศษครั้งเดียว 242.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เกิดจากโปรแกรมชาร์จไฟฟรี
เพื่อสนับสนุนการขยายกิจการ Pham Nhat Vuong ผู้ก่อตั้ง VinFast ได้มอบเงินสนับสนุนแบบไม่ต้องคืน 410.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนมูลค่ารวม 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในด้านการขยายตลาด VinFast ได้เดินหน้าสร้างเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก:
- อินโดนีเซีย: 22 สาขา
- ฟิลิปปินส์: 6 สาขา
- สหรัฐฯ: 38 ตัวแทนจำหน่าย ใน 16 รัฐ
บริษัทมีแผนเปลี่ยนไปใช้ โมเดลแฟรนไชส์ตัวแทนจำหน่ายเต็มรูปแบบในสหรัฐฯ
สำหรับปี 2025 VinFast ตั้งเป้า เพิ่มยอดส่งมอบทั่วโลกอย่างน้อย 2 เท่า พร้อมมุ่งเน้นการ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และ ขยายการเข้าถึงตลาด ทั่วโลก.