Advertisement

Advertisement

เปิดตัวไทย Land Rover Defender เคาะราคาเริ่ม 5,400,000 บาท

เปิดตัวไทย Land Rover Defender เคาะราคาเริ่ม 5,400,000 บาท
Spread the love

Advertisement

Advertisement

Land Rover Defender ที่เปิดตัวในไทยจะมีให้เลือกทั้งรุ่น 90 (ตัวถัง 3 ประตู) และ 110 (ตัวถังแบบ 5 ประตู) บนแพล็ตฟอร์ม monocoque แทน Body on Frame แบบดั้งเดิม

ราคา Land Rover Defender

ราคา รุ่น 3 ประตู 90

  • 90 D200 S เริ่มต้น 5,400,000 บาท
  • 90 D240 SE เริ่มต้น 6,000,000 บาท
  • 90 P300 SE เริ่มต้น 6,000,000 บาท
  • 90 P400 SE เริ่มต้น 6,600,000 บาท
  • 90 P400 X เริ่มต้น 8,500,000 บาท

ราคา รุ่น 5 ประตู 110

  • 110 D200 S เริ่มต้น 5,800,000 บาท
  • 110 D240 SE เริ่มต้น 6,400,000 บาท
  • 110 P300 SE เริ่มต้น 6,400,000 บาท
  • 110 P400 SE เริ่มต้น 7,000,000 บาท
  • 110 P400 X เริ่มต้น 8,900,000 บาท

ขนาดตัวถัง 90

  • ยาว  4,323 มิลลิเมตร (ไม่รวมยางอะไหล่)
  • ยาว  4,583 มิลลิเมตร (รวมยางอะไหล่)
  • กว้าง  2,008 มิลลิเมตร
  • สูง  1,974 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ wheelbase  2,360 มิลลิเมตร

ขนาดตัวถัง 110

  • ยาว  4,758 มิลลิเมตร (ไม่รวมยางอะไหล่)
  • ยาว  5,018 มิลลิเมตร (รวมยางอะไหล่)
  • กว้าง  2,008 มิลลิเมตร
  • สูง  1,967 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ wheelbase  2,794 มิลลิเมตร

Land Rover ผู้ผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อสัญชาติอังกฤษเตรียมปลุกตำนานขาลุย Land Rover Defender เจนใหม่หลังจากปิดตัวไปสักระยะ การกลับมาครั้งนี้มาในมาดใหม่หมดตั้งแต่ภายนอก-ภายในห้องโดยสาร และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน CES 2020 (Consumer Electronics Show) หรืองานจัดแสดงผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ ในลาสเวกัส วันที่ 7-10 มกราคม 2020

นายชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แลนด์โรเวอร์  ดีเฟนเดอร์ รุ่นใหม่นี้เป็นสมาชิกใหม่ที่มาเติมเต็มไลน์โปรดักส์ของแลนด์โรเวอร์ให้มีผลิตภัณฑ์ที่ครบสมบูรณ์ ดีเฟนเดอร์ รุ่น 5 ประตู เป็นจุดเริ่มต้นของรถตระกูลขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีสมรรถนะสูงและทนทานที่สุดในโลก มีห้องโดยสารแบบ 5+2 ที่นั่ง และดีเฟนเดอร์ รุ่น 3 ประตู ที่มีขนาดเล็กกว่า กะทัดรัด ฐานล้อสั้น สำหรับการใช้งานอเนกประสงค์ที่ทนทานกว่ารุ่นอื่นๆ

มีระบบส่งกำลังให้เลือกหลากหลายแบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า หรือแบบ 240 แรงม้า เครื่องยนต์ 4 สูบ เทคโนโลยีเทอร์โบคู่แบบต่อเนื่องที่ส่งแรงบิด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400 รอบ/นาที เพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดเชื้อเพลิง อีกทั้งตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า และเบนซิน 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า โดยเครื่องยนต์ทุกแบบขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติแปดสปีด ZF ที่ลื่นไหลและตอบสนองว่องไว ระบบเกียร์แบบ twin-speed เพื่อส่งกำลังในอัตราความเร็วต่ำขณะลากจูงหรือขับขี่บนเส้นทางขรุขระซึ่งต้องใช้การควบคุมมากกว่าปกติ ดีเฟนเดอร์ ใหม่ ได้สร้างนิยามใหม่ของขีดจำกัดความสามารถให้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะสำหรับการขับขี่ทุกสภาพอากาศ ทุกภูมิประเทศ และยังคงความสบายเมื่อขับขี่บนเส้นทางราบเรียบ ในทุกการเดินทาง ดีเฟนเดอร์ ใหม่ สามารถบรรทุกน้ำหนักสูงสุดถึง 900 กิโลกรัม โดยหลังคารถสามารถรับน้ำหนักสูงสุดขณะจอดนิ่งที่ 300 กิโลกรัมและน้ำหนักสูงสุดขณะขับขี่ที่ 168 กิโลกรัม และความสามารถในการลุยน้ำได้สูงสุดที่ความลึก 900 มิลลิเมตร รองรับด้วยโปรแกรมตรวจสอบความลึกของน้ำในระบบ Terrain Response 2 ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขับลุยน้ำด้วยความมั่นใจเต็มร้อย

ด้านเทคโนโลยีมีการนำระบบ Configurable Terrain Response มาใช้กับรถ ดีเฟนเดอร์ ใหม่ เป็นครั้งแรก โดยเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ที่มีความชำนาญในการขับขี่บนเส้นทางแบบขรุขระสามารถปรับการตั้งค่าในการขับขี่แต่ละครั้งให้เหมาะสมกับสภาวะต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขณะเดียวกันผู้ขับขี่มือใหม่ก็สามารถให้ระบบค้นหาการตั้งค่าที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่มากที่สุดได้โดยใช้ฟังก์ชั่นอัตโนมัติแบบอัจฉริยะ ด้านเทคโนโลยีระบบข้อมูลและความบันเทิงด้วย Pivi-Pro แบบใหม่ หน้าจอสัมผัสที่ล้ำสมัยสามารถใช้งานได้ง่ายและเป็นมิตรต่อผู้ใช้ เพียงป้อนข้อมูลไม่กี่อย่างก็สามารถทำงานในฟังก์ชั่นที่มีการใช้งานบ่อยได้ และดีเฟนเดอร์ ใหม่ ยังยกระดับการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านสัญญาณแบบไร้สาย Software-Over-The-Air จะทำให้คุณได้รับซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุดตลอดเวลา ด้วยการดาวน์โหลดข้อมูลขณะที่ลูกค้ากำลังนอนหลับอยู่ที่บ้านหรืออยู่ในสถานที่ห่างไกล โดยส่งสัญญาณข้อมูลสำหรับการอัปเดตจะไปยังตัวรถยนต์อัตโนมัติอย่างรวดเร็ว ทำให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังศูนย์บริการของแลนด์โรเวอร์เลย

แลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ ตัวใหม่นี้มาพร้อมคอนเซ็ป “MAKE IT YOUR DEFENDER” ให้คุณปรับแต่งเพื่อแสดงตัวตนในแบบของคุณ ลูกค้าจะเลือกได้ตั้งแต่ดีไซน์ตัวถังแบบ 3 ประตู ที่ห้องโดยสารแถวหน้า 3 ที่นั่ง หรือแบบ 5 ประตู ที่สามารถเลือกห้องโดยสารแบบ 5+2 ที่นั่ง รุ่นต่างๆ ของรถประกอบด้วย Defender X รุ่นเรือธง รุ่น S และรุ่น SE จากนั้นลูกค้าจะสามารถปรับแต่งรถได้หลากหลายรูปแบบด้วยชุดอุปกรณ์เสริม 4 แบบ ได้แก่ ชุด Explorer, Adventure, Country และ Urban โดยชุดตกแต่งแต่ละชุดประกอบด้วยอุปกรณ์เสริมหลากหลายที่คัดสรรมาโดยเฉพาะเพื่อมอบบุคลิกที่แตกต่างกัน นอกจากชุดอุปกรณ์เสริมแล้ว ดีเฟนเดอร์ ใหม่ ยังมีอุปกรณ์แบบแยกชิ้นให้เลือกหลากหลายครบครันกว่ารถรุ่นอื่นๆ เช่น เต็นท์หลังคารถ ผ้าใบกันสาดแบบเป่าลม ไปจนถึงชุดอุปกรณ์ลากจูงและโครงเหล็กบรรทุกสัมภาระบนหลังคารถ”

เครื่องยนต์ดีเซล 2.0T 8AT ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive

  • ครื่องยนต์ดีเซล 2.0T 4 สูบ 1,999 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 83.0 x 92.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.5 : 1 กำลังสูงสุด 200 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 1,400 รอบ/นาที
  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.0T 4 สูบ 1,999 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 83.0 x 92.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.5 : 1 กำลังสูงสุด 240 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 1,400 รอบ/นาที

เครื่องยนต์เบนซิน 2.0T 8AT ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive

  • เครื่องยนต์เบนซิน 2.0T 4 สูบ 1,997 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 83.0 x 92.29 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 9.5 : 1 พละกำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,000 รอบ/นาที

เครื่องยนต์เบนซิน 3.0T 8AT ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive + P400 MHEV

  • เครื่องยนต์เบนซิน 3.0T 6 สูบ 2,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 83.0 x 92.29 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1  กำลังสูงสุด 400 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 5,000 รอบ/นาที + Mild Hybrid 48V ช่วยในการออกตัว

การออกแบบยังคงรักษาตัวถังไว้ แต่เสริมความทันสมัยมากขึ้น ตัวถังแบบทูโทนไฟหน้าแบบ Full LED ครึ่งวงกลาม กระจังหน้าออกแบบเรียบหรู ด้านหลังติดตั้งยางอะไหล่อันเป็นเอกลักษณ์ ไฟท้ายสี่เหลี่ยมคู่ ติดตั้งกันชนหน้า-หลัง สเกิร์ตข้างสีดำ พร้อมอุปกรณ์เสริมอย่างแร็คหลังคา เป็นต้น

ภายในห้องโดยสารติออกแบบทันสมัยมาก มาตรวัดแบบดิจิตอล พวงมาลัย 4 ด้านครึ่งล่างมัลติฟังก์ชั่น หน้าจอแสดงข้อมูล ระบบ Pivi Pro ขนาด 10 นิ้วซึ่งมีเทคโนโลยี Qualcomm ระบบปฏิบัติการ QNX ของ Blackberry มากกว่า Android QNX พร้อมกล้องรอบคัน 360 องศา

Carscoops.com

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้