ภาพร่าง ก่อนจะมาเป็น All-NEW Alphard และ Vellfire เจนที่ 4

Spread the love

TOYOTA ได้เปิดตัว All-NEW Alphard และ Vellfire ในวันท่ี่ 21 มิถุนายน 2023 พร้อมประกาศราคาจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น และ ประเทศจีน ทั้งหมดมาพร้อมการออกแบบใหม่ ทั้งภายนอก และ ภายในห้องโดยสาร

หัวใจสำคัญของแนวทางการออกแบบ Alphard และ Vellfire ได้แก่ “Forceful × IMPACT LUXURY” พวกเขาถ่ายทอดความรู้สึกของการพุ่งไปข้างหน้าที่ทรงพลังและไดนามิก เรามุ่งสร้างรถยนต์ที่ไม่เหมือนใครด้วยรูปลักษณ์ภายนอกและความรู้สึกคุณภาพสูง

ก่อนจะมาเป็น All-NEW Alphard และ Vellfire โตโยต้าได้สร้างภาพร่างในขั้นตอนสุดท้าย และ พวกเขาเชื่อมั่นว่า ได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า

โตโยต้า ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 21 มิถุนายน 2023 โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (โตโยต้า) ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทเริ่มจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดและเครื่องยนต์เบนซินและไฮบริด (HEV) ของ Alphard และ Vellfire รุ่นใหม่ ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน และเพื่อสนับสนุนความเป็นกลางทางคาร์บอน เรายังวางแผนที่จะแนะนำรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ในอนาคต

ปริมาณการผลิต 8,500 คันต่อเดือน โดย Alphard มีสัดส่วนประมาณ 70% และ Vellfire ประมาณ 30% ที่โรงงานอินาเบะ บริษัท โตโยต้า ออโต้ บอดี้ จำกัด

ราคาจำหน่าย

All NEW Toyota Alphard (40-Series) ราคา 5,400,000 เยน – 8,700,000 เยน ประมาณ 1,320,000 – 2,130,000 บาท ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย
All NEW Toyota Vellfire (40-Series) 6 รุ่น 6,550.000 – 8.920.000 เยน หรือประมาณ 1.60 – 2.19 ล้านบาท ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย
Welcab models ราคา 4,720,000 – 5,648,000 เยน หรือประมาณ 1.15 – 1.38 ล้านบาท

Alphard มีให้เลือก 6 รุ่นย่อย

2.5 Z CVT 2WD
2.5 Z CVT 4WD
2.5 Hybrid Z e-CVT 2WD
2.5 Hybrid Z e-CVT e-FOUR
2.5 Hybrid Executive Lounge e-CVT 2WD
2.5 Hybrid Executive Lounge e-CVT e-FOUR

Vellfire มีให้เลือก 6 รุ่นย่อย

2.4 Turbo Z Premier 8AT 2WD
2.4 Turbo Z Premier 8AT 4WD
2.5 Hybrid Z e-CVT 2WD
2.5 Hybrid Z e-CVT e-FOUR
2.5 Hybrid Executive Lounge e-CVT 2WD
2.5 Hybrid Executive Lounge e-CVT e-FOUR

Toyota Alphard เจนที่ 4 สร้างบนแพลตฟอร์ม TNGA (Toyota New Global Architecture) รุ่นล่าสุด ได้รับการปรับให้เหมาะกับการใช้งานของรถมินิแวน โดยการใช้ตัวโยกแบบตรงและตัวยึดรูปตัววีที่ส่วนล่างของรถด้านหลัง ปรับปรุงความแข็งแกร่งขึ้น 50% เมื่อเทียบกับรุ่นที่สา

มาพร้อมแนวทางการออกแบบ “Forceful x IMPACT LUXURY” ถูกนำมาใช้เพื่อสื่อถึงพลังที่ทรงพลัง พุ่งไปข้างหน้าอย่างมีไดนามิก ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งการตกแต่งภายในที่กว้างขวางภายในขนาดตัวรถที่ไม่ใหญ่เกินไปสำหรับประเทศญี่ปุ่น

ไฟหน้า LED 3 Lens (พร้อมไฟสูง/ต่ำ/ฟังก์ชั่นปรับระดับอัตโนมัติ)
ไฟหรี่ LED (พร้อมฟังก์ชั่นไฟวิ่งกลางวัน) + ไฟเลี้ยว LED + ไฟเลี้ยว LED Sequential
ไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟเบรกสูงแบบ LED
ล้ออัลลอยสีซุปเปอร์โครมเมทัลลิกขนาด 18 นิ้ว ยาง 225/60R18

ขนาดตัวถัง

ความยาว 4,995 มิลลิเมตร
ความกว้าง 1,850 มิลลิเมตร
ความสูง 1,935 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร

3 เครื่องยนต์ให้เลือก

เครื่องยนต์รหัส 2AR-FE เบนซิน 2.5 ลิตร 182 แรงม้า (PS) 235 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ประหยัดเชื้อเพลิงที่ 17.5 กม. ต่อลิตร
เครื่องยนต์รหัส A25A-FXS เบนซิน 2.5 ลิตร Hybrid 250 แรงม้า (PS) เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 16.5 กม. ต่อลิตร
เครื่องยนต์รหัส T24A-FTS เบนซิน 2.4 ลิตร Turbo 4 สูบแถวเรียง 279 แรงม้า (PS) 430 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ Direct-shift 8 จังหวะ

ระบบช่วงล่าง

ระบบกันสะเทือนหน้า แมคเฟอร์สันสตรัท
ระบบกันสะเทือนหลัง แบบปีกนกคู่ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่

สิ่งอำนวยความสะดวกสบาย

เพิ่มช่องว่างระหว่างเบาะนั่งแถวหน้าและแถวที่สอง และระหว่างเบาะนั่งแถวที่สองและแถวที่สามขึ้น 5 มม. และ 10 มม. ตามลำดับ พวกเขาทำสิ่งนี้โดยการปรับเปลี่ยนทั้งตำแหน่งการขับขี่และการสร้างเบาะนั่งแถวที่สอง ทำให้ทั้งขอบด้านข้างของเบาะนั่งแถวที่สามและขอบประตูหลังบางลง และลองใช้ขนาดต่างๆ ห่างกัน 0.1 มม.
ไฟส่องสว่าง สวิตช์แบบต่างๆ และช่องระบายอากาศของเครื่องปรับอากาศจะอยู่ที่ทั้งสองด้านของเพดาน Super-Long Overhead Console และรวมส่วนติดตั้งเหล่านี้ไว้ตรงกลางเพดาน คอนโซลยังเพิ่มความสะดวกสบายและความสามารถในการใช้งาน
Alphard และ Vellfire เป็นรถยนต์ Toyota คันแรกที่มี Universal Steps บนประตูเลื่อนทั้งด้านขวาและด้านซ้าย ทำให้เด็กเล็กและผู้สูงอายุเข้าและออกจากรถได้ง่ายขึ้นอย่างสะดวกสบาย เมื่อประตูเปิดออก บันไดจะโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นประมาณ 220 มม. ลดความสูงของบันไดขั้นแรกสำหรับลูกค้าที่เข้าหรือออกจากรถ ด้ามจับเสริมแบบยาวที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายสำหรับผู้โดยสารทุกรูปทรงและทุกขนาดยังติดตั้งอยู่ที่เสา C และทั้งสองด้านของเพดานเพื่อให้เข้าและออกได้อย่างสะดวกสบาย
เบาะนั่งแถวที่สองและแถวที่สาม ยังได้ปรับปรุงเฉดสีของรถด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
มูนรูฟใช้ม่านบังแสงด้านขวาและด้านซ้ายแยกจากกัน เพื่อให้ผู้โดยสารบางคนเลือกที่จะมองเห็นท้องฟ้า ในขณะที่บางคนเลือกที่จะปิดกั้นแสงแดด ติดตั้งที่บังแดดด้านข้างแบบดึงลงเป็นครั้งแรกของโตโยต้า ช่วยให้ลูกค้าสามารถบังแสงแดดที่มากเกินไปในขณะที่ยังคงเพลิดเพลินกับทัศนียภาพ

ภายในห้องโดยสาร

แผงหน้าปัด TFT 12.3 นิ้ว + จอแสดงข้อมูลหลากหลาย (พร้อมตัวควบคุมการส่องสว่างมาตรวัด)
หน้าจอส่วนกลางขนาด 14 นิ้ว (รองรับการนำทางที่เชื่อมต่อ)
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi / Bluetooth / บริการ T-Connect / Apple CarPlay / Android Auto /
ลำโพง JBL Premium Sound System 15 ตัว/เครื่องขยายเสียง 12ch
ระบบระบุตำแหน่งการขับขี่ล่วงหน้าด้วยไมโครคอมพิวเตอร์ (พวงมาลัย เบาะนั่ง กระจกมองข้าง/พร้อมหน่วยความจำ 3 ตำแหน่ง)
︎สวิตช์พวงมาลัย (จอแสดงข้อมูลหลากหลาย, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติด้วยเรดาร์, ระบบช่วยติดตามเลน, เสียง, การจดจำเสียง, แฮนด์ฟรี)
ระบบทำความร้อนบนพวงมาลัย
เบาะนั่งแยก 2 ตำแหน่งแบบ 5:5
กระจกมองข้างหลังแบบดิจิตอล
เบรกมือไฟฟ้า
เบาะนั่งแยก 2 ตำแหน่งแบบ 5:5
︎ช่องต่ออุปกรณ์เสริม (AC100V, 1500W / พร้อมระบบจ่ายไฟฉุกเฉิน / 1 ช่องที่ด้านหลังคอนโซลกลาง, 1 ช่องที่ด้านขวาของช่องเก็บสัมภาระ)
ประตูเลื่อนไฟฟ้าคู่ (พร้อม Dual Easy Close, ฟังก์ชันป้องกันการหนีบ, สวิตช์กระดานหกแบบสัมผัสเดียว)
ระบบไฟฟ้า Easy Access (เบาะคนขับ)
เพดานอัจฉริยะที่รวมฟังก์ชันการทำงานและที่เก็บของเข้าไว้ด้วยกัน
ม่านบังแดดด้านข้างปรับไฟฟ้าสำหรับเบาะหลัง (กระจกประตูเลื่อน/กระจกส่วนหลัง)
มูนรูฟแยกอิสระซ้ายและขวา (พร้อมม่านบังแสงไฟฟ้าและฟังก์ชันป้องกันการหนีบ)
ระบบควบคุมอุณหภูมิอิสระด้านหน้า/ด้านหลัง/ซ้าย/ขวาอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (ระบบตรวจจับก๊าซไอเสียอัตโนมัติภายใน/ภายนอกระบบสลับ S-FLOW
ระบบความบันเทิงสำหรับเบาะหลังขนาด 14 นิ้ว งสามารถควบคุมอุปกรณ์ที่รองรับ HDMI-CEC ที่เชื่อมต่อด้วยรีโมทคอนโทรล
เต้าเสียบคอนโซลที่นั่งด้านหลัง
ม่านอากาศฮีทเตอร์ด้านหลังก
ประตูหลังไฟฟ้า (ประตูหลังปิดง่าย, ฟังก์ชันป้องกันการหนีบ, ฟังก์ชันหน่วยความจำตำแหน่งหยุด, สวิตช์ประตูหลังไฟฟ้า

https://www.car250.com/toyota-toyota-alphard-vellifre-2024-new.html