Advertisement

Advertisement

All-NEW AVATR 06 ซีดานไฟฟ้า วิ่งได้ 650 กม./ชาร์จ ก่อนขายจีนกลางปีนี้

All-NEW AVATR 06 ซีดานไฟฟ้า วิ่งได้ 650 กม./ชาร์จ ก่อนขายจีนกลางปีนี้
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

AVATR 06 จะเปิดตัวในไตรมาสที่สองของปี 2025 และจะเป็นรุ่นที่สี่ของแบรนด์ AVATR มีรหัสภายในว่า E16 ซึ่งจะมีทั้งเวอร์ชันไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV) และเวอร์ชันเครื่องยนต์ขยายระยะทาง (REEV) สำหรับเวอร์ชันไฟฟ้าเต็มรูปแบบจะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตจากบริษัท CATL ขนาด 72.88 kWh ซึ่งสามารถขับขี่ได้ระยะทาง 650 กิโลเมตร และในรุ่นที่ใช้มอเตอร์คู่ จะสามารถขับขี่ได้ 600 กิโลเมตร

ในขณะที่รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ขยายระยะทางจะมีแบตเตอรี่ขนาด 31.7 kWh พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 314 แรงม้า ซึ่งสามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าได้ 170 กิโลเมตร และใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5T ขนาด 156 แรงม้า เป็นเครื่องยนต์ขยายระยะทาง

นอกจากนี้ AVATR 06 ยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ล้ำสมัย โดยใช้ “磐石底盘” (Phantom chassis) ซึ่งออกแบบตามหลักชีวภาพของเปลือกเต่า (Turtle shell structure) ที่เชื่อมโยงกับโครงสร้างของตัวรถและหน่วยพลังงาน ทำให้สามารถกระจายแรงกระแทกจากการชนได้ในหลายทิศทาง และเพิ่มความทนทานในการป้องกันแรงกระแทก โครงสร้างยังใช้เหล็กรีดร้อนระดับพิเศษที่ใช้ในเรือดำน้ำ (2000MPa strength) และอลูมิเนียมอัลลอยด์ระดับอวกาศ (600MPa strength) ทำให้รถมีความแข็งแรงสูงและปลอดภัยมากขึ้น

วันที่ 9 ธันวาคม 2024 AVATR ประเทศจีน ได้เปิดเผยภาพรถยนต์รุ่นใหม่ Avatr 06 ซึ่งเป็นเวอร์ชันรถยนต์ซีดานที่อยู่ในระดับเดียวกับ Avatr 07 รุ่นนี้มีให้เลือกทั้งแบบ EREV และแบบไฟฟ้าล้วน โดยคาดว่าจะมาพร้อมระบบขับขี่อัจฉริยะ Huawei ADS 3.0 และระบบอินโฟเทนเมนต์ HarmonyOS 4.0 ของ Huawei

Avatr 06 ใช้แนวคิดการออกแบบ AVATR 2.0 ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ แต่เพิ่มความโดดเด่นในรายละเอียด เช่น ไฟส่องสว่างกลางวันรูปทรงตัว “7” ได้รับการออกแบบใหม่ โดยย้ายแถบไฟแนวนอนมาไว้ภายใน เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น ด้านล่างของกันชนคาดว่าจะมีช่องระบายอากาศแบบแอคทีฟ พร้อมดีไซน์ที่แตกต่างกันระหว่างรุ่น ไฟฟ้าช่วงขยาย และไฟฟ้าล้วน

ตัวรถออกแบบเป็นทรงท้ายลาด (Fastback) พร้อมเส้นหลังคาที่โฉบเฉี่ยว ดูหรูหรา และเสริมความทันสมัยด้วยตัวถังแบบสองสี (Two-Tone) อีกทั้งยังมาพร้อมอุปกรณ์ล้ำสมัย เช่น

  • กระจกมองข้างอิเล็กทรอนิกส์
  • มือจับประตูแบบซ่อน
  • เซ็นเซอร์ Lidar
  • ล้อแม็กแบบ 5 ก้าน
  • และเบรกคาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ

ด้านท้าย Avatr 06 คล้ายกับ Avatr 12 โดยยังคงดีไซน์แบบไม่มีกระจกบังลมหลัง ตัวไฟท้ายแบบเรียวยาวเน้นความหรูหรา ส่วนไฟเบรกดวงที่สามถูกวางไว้ในจุดเชื่อมระหว่างสีตัวถังสองสี พร้อมกับสปอยเลอร์ทรง “Ducktail” ที่ช่วยเพิ่มอารมณ์สปอร์ต

ขนาดตัวถัง AVATR 06

  • ความยาว: 4,855 มม.
  • ความกว้าง: 1,960 มม.
  • ความสูง: 1,450 มม.
  • ระยะฐานล้อ: 2,940 มม.

Avatr 07: ยาว 4,825 มม. | กว้าง 1,980 มม. | สูง 1,620 มม. | ฐานล้อ 2,940 มม.

Avatr 11: ยาว 4,880 มม. | กว้าง 1,970 มม. | สูง 1,601 มม. | ฐานล้อ 2,975 มม.

Avatr 12: ยาว 5,020 มม. | กว้าง 1,999 มม. | สูง 1,460 มม. | ฐานล้อ 3,020 มม.

ระบบขับขี่อัจฉริยะ Huawei ADS 3.0

ระบบขับขี่อัจฉริยะ Huawei ADS 3.0 เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นโดย Huawei เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย โดยระบบนี้ผสานการทำงานของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ขั้นสูงเพื่อสร้างการขับขี่อัตโนมัติที่ล้ำสมัย คุณสมบัติและจุดเด่น ของ Huawei ADS 3.0 มีดังนี้:

ระบบเซ็นเซอร์และการรับรู้สภาพแวดล้อม

  • ใช้ Lidar (เลเซอร์สแกน), กล้องความละเอียดสูง, เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร และเซ็นเซอร์อื่น ๆ ทำให้สามารถตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบข้างได้แม่นยำในทุกสถานการณ์
  • รองรับการตรวจจับในทุกสภาพอากาศ เช่น ฝนตกหนักหรือหมอกหนา

การประมวลผลด้วย AI อัจฉริยะ

  • ใช้ ชิป AI รุ่นใหม่ ของ Huawei ที่มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์
  • เทคโนโลยี Deep Learning ช่วยให้ระบบสามารถ “เรียนรู้” และปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่ได้อย่างต่อเนื่อง

โหมดการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ

  • รองรับการขับขี่ในระดับอัตโนมัติ (Autonomous Driving) บนถนนในเมือง, ทางด่วน, และพื้นที่จอดรถ
  • สามารถวางแผนเส้นทางและเลี่ยงการจราจรติดขัดได้อย่างชาญฉลาด

ความปลอดภัยระดับสูง

  • ระบบ Huawei ADS 3.0 สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การเบรกกะทันหัน หรือหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้อย่างรวดเร็ว
  • มี ฟีเจอร์สำรองข้อมูล สำหรับการประมวลผล ทำให้ระบบทำงานต่อได้แม้ในกรณีฮาร์ดแวร์บางส่วนล้มเหลว

การปรับแต่งเฉพาะผู้ใช้งาน

  • ระบบสามารถ “เรียนรู้พฤติกรรมผู้ขับขี่” และปรับการตอบสนองให้เหมาะสม เช่น การควบคุมความเร็วหรือระยะการเว้นระหว่างรถคันหน้า

การอัปเดต OTA (Over-The-Air)

  • ผู้ใช้สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ Huawei ADS 3.0 ผ่านระบบ OTA เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ และปรับปรุงประสิทธิภาพได้ตลอดเวลา

ระบบอินโฟเทนเมนต์ HarmonyOS 4.0 ของ Huawei

ระบบอินโฟเทนเมนต์ HarmonyOS 4.0 ของ Huawei เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในรถยนต์ยุคใหม่ ด้วยความล้ำสมัยที่รวมเอาเทคโนโลยีดิจิทัลและความสะดวกสบายเข้าด้วยกัน จุดเด่นของ HarmonyOS 4.0 ได้แก่:

การเชื่อมต่อ

  • การเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์: HarmonyOS 4.0 รองรับการเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟน, สมาร์ทวอทช์, แท็บเล็ต, และอุปกรณ์ IoT ได้อย่างไร้รอยต่อ
  • สามารถใช้แอปพลิเคชันและฟีเจอร์ที่อยู่ในอุปกรณ์ Huawei อื่น ๆ ได้โดยตรงในหน้าจออินโฟเทนเมนต์ของรถ

การออกแบบ UI ที่ทันสมัย

  • อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย: หน้าจอหลักสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน เช่น การจัดเรียงแอปและฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อย
  • วิดเจ็ตแบบโต้ตอบ: รองรับวิดเจ็ตที่แสดงข้อมูลสำคัญ เช่น สภาพอากาศ, การแจ้งเตือน, และเพลง โดยไม่ต้องเปิดแอปเต็มจอ

ผู้ช่วยอัจฉริยะ AI

  • Celia AI: ผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะที่สามารถสั่งงานได้ เช่น เปิดเพลง, วางแผนเส้นทาง, หรือควบคุมระบบในรถ
  • AI เรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้งานและปรับแต่งคำแนะนำให้เหมาะสม เช่น แนะนำเส้นทางที่ประหยัดเวลาที่สุดในช่วงเวลาเดินทางประจำวัน

การบูรณาการระบบความบันเทิง

  • สตรีมมิงมัลติมีเดีย: รองรับบริการสตรีมมิงเพลงและวิดีโอ เช่น Huawei Music, YouTube, และ Spotify
  • ระบบเสียงคุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การฟังเพลงระดับพรีเมียม

การนำทางขั้นสูง

  • แผนที่ AI อัจฉริยะ: ระบบนำทางที่อัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ พร้อมการแสดงผลแบบ 3D เพื่อให้ข้อมูลที่แม่นยำและเข้าใจง่าย
  • รองรับคำแนะนำการเลี่ยงเส้นทางที่มีการจราจรติดขัดและแจ้งเตือนสภาพถนน

การควบคุมรถยนต์แบบครบวงจร

  • ควบคุมระบบต่าง ๆ ของรถผ่านหน้าจอ เช่น ระบบปรับอากาศ, ระบบไฟ, และการตั้งค่าความปลอดภัย
  • ระบบ Smart Cabin: สั่งงานผ่านเสียงหรือหน้าจอสัมผัสเพื่อปรับแต่งบรรยากาศในรถ เช่น เปิดไฟ Ambient Light หรือควบคุมกระจกมองข้าง

ความปลอดภัยสูงสุด

  • ระบบมีการเข้ารหัสข้อมูลผู้ใช้งานเพื่อป้องกันการเข้าถึงจากบุคคลภายนอก
  • รองรับการล็อกอินด้วยโปรไฟล์เฉพาะบุคคล ทำให้ทุกผู้โดยสารในรถสามารถมีการตั้งค่าที่เป็นส่วนตัว

การอัปเดต OTA (Over-The-Air)

  • HarmonyOS 4.0 สามารถอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ผ่าน OTA โดยไม่ต้องนำรถเข้าศูนย์บริการ เพิ่มความสะดวกและปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้