3 รุ่นต่างกันยังไง ? เปิดขายไทย 899,000 – 1,089,000 บาท Mitsubishi Xforce HEV ประหยัด 24.4 กม./ลิตร

ราคาจำหน่าย MITSUBISHI XFORCE HYBRID ในประเทศไทย
- IGNITE : 899,000 บาท
- Ultimate : 1,039,000 บาท
- Ultimate X : 1,089,000 บาท
พร้อมรับประกันคุณภาพ
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 100,000 km.
- รับประกันระบบไฮบริด นาน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด นาน 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
รายละเอียดอุปกรณ์ที่มี และไม่มีในแต่ละรุ่น
อุปกรณ์ | IGNITE | ULTIMATE | ULTIMATE X |
---|---|---|---|
เครื่องยนต์ & ช่วงล่าง | ✅ | ✅ | ✅ |
เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร HEV | ✅ | ✅ | ✅ |
ช่วงล่างหน้า: อิสระ MacPherson Strut | ✅ | ✅ | ✅ |
ช่วงล่างหลัง: คานบิด Torsion Beam | ✅ | ✅ | ✅ |
ภายนอก | ✅ | ✅ | ✅ |
ไฟหน้า Full-LED | ✅ | ✅ | ✅ |
ไฟส่องสว่างกลางวัน Full-LED | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ | ✅ | ✅ | ✅ |
ไฟท้าย LED Illumination Tube | ✅ | ✅ | ✅ |
สปอยเลอร์หลัง | ✅ | ✅ | ✅ |
ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED | ✅ | ✅ | ✅ |
กระจกบังลมหน้าแบบป้องกันเสียงรบกวน | ✅ | ✅ | ✅ |
กระจกมองข้างพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว | ✅ | ✅ | ✅ |
เสาอากาศแบบ Shark Fin | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหลัง | ✅ | ✅ | ✅ |
ล้ออัลลอย 18 นิ้ว + ยาง 225/50R18 | ✅ | ✅ | ✅ |
ภายในห้องโดยสาร | ✅ | ✅ | ✅ |
ภายในตกแต่งโทนสีดำ | ✅ | สี Melange-Mocha | สี Melange-Mocha |
เบาะหนังกันความร้อน Heat Guard | ✅ | ✅ | ✅ |
เบาะนั่งคนขับปรับมือ 6 ทิศทาง | ✅ | ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง | ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง |
เบาะหลังปรับเอนได้ 8 ระดับ | ✅ | ✅ | ✅ |
เบาะหลังพับได้ 40:20:40 | ✅ | ✅ | ✅ |
กระจกหน้าต่างไฟฟ้า One-Touch ทั้ง 4 บาน | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบป้องกันการหนีบ Protection Jam | ✅ | ✅ | ✅ |
เทคโนโลยี/ความบันเทิง | ✅ | ✅ | ✅ |
พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง | ✅ | ✅ | ✅ |
หน้าจอเรือนไมล์ Digital 8 นิ้ว | ✅ | ✅ | ✅ |
หน้าจอสัมผัสกลาง 12.3 นิ้ว | ✅ | ✅ | ✅ |
รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย | ✅ | ✅ | ✅ |
รองรับ Android Auto และ WebLink | ✅ | ✅ | ✅ |
ลำโพง 6 ตำแหน่ง | ✅ | ✅ | Yamaha 8 ตำแหน่ง |
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual-zone | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบกรองอากาศ Nanoe X | ✅ | ✅ | ✅ |
เครื่องปรับอากาศจอ Digital | ✅ | ✅ | ✅ |
เบรกมือไฟฟ้า EPB + Brake Auto Hold | ✅ | ✅ | ✅ |
คอนโซลกลางมีช่องเป่าลมเย็น Drink Cooler | ✅ | ✅ | ✅ |
ช่องชาร์จ USB Type-A 1 + USB Type-C 1 | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบความปลอดภัย | ✅ | ✅ | ✅ |
ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง คู่หน้า, ข้าง, ม่าน | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบเบรก ABS / EBD / BA | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบควบคุมเสถียรภาพ ASC + TCL | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบไฟฉุกเฉินเบรกกะทันหัน ESS | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB | ✅ | ✅ | ✅ |
Adaptive Cruise Control (ACC) | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบไฟสูงอัตโนมัติ AHB | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบเตือนรถคันหน้าเคลื่อนที่ LCDN | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบเตือนมุมอับสายตา + BSW | ✅ | ✅ | ✅ |
ระบบเตือนรถขณะถอยหลัง RCTA | ✅ | ✅ | ✅ |
อุปกรณ์เพิ่มเติมในรุ่น ULTIMATE | ❌ | ✅ | ✅ |
ชุดตกแต่งกระจังหน้า | ❌ | ✅ | ✅ |
ไฟตัดหมอกหน้า LED | ❌ | ✅ | ✅ |
ฝาท้ายไฟฟ้า + Kick Sensor | ❌ | ✅ | ✅ |
เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด / หลัง 4 จุด | ❌ | ✅ | ✅ |
กล้อง 360 องศา + จับเคลื่อนไหว MOD | ❌ | ✅ | ✅ |
กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ | ❌ | ✅ | ✅ |
แท่นชาร์จไร้สาย Wireless | ❌ | ✅ | ✅ |
แผงกั้นห้องสัมภาระท้าย | ❌ | ✅ | ✅ |
ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง TPMS | ❌ | ✅ | ✅ |
อุปกรณ์เพิ่มเติมในรุ่น ULTIMATE X | ❌ | ❌ | ✅ |
ชุดแต่งกันชนหน้า-ข้าง-หลังเฉพาะรุ่น X | ❌ | ❌ | ✅ |
ชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง | ❌ | ❌ | ✅ |
สัญลักษณ์ XFORCE บนฝากระโปรงหน้า | ❌ | ❌ | ✅ |
ฝาครอบบันไดสเตนเลสพร้อมไฟ LED | ❌ | ❌ | ✅ |
ลำโพง Yamaha (8 ตำแหน่ง) | ❌ | ❌ | ✅ |
สรุป
- IGNITE ✅ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการราคาประหยัด + ฟีเจอร์พื้นฐานครบ
- ULTIMATE คุ้มค่าที่สุด เพิ่มฟีเจอร์พรีเมียม เช่น ฝาท้ายไฟฟ้า, กล้อง 360°, เบาะไฟฟ้า
- ULTIMATE X สำหรับคนที่ต้องการดีไซน์สุดเท่ + ระบบเสียง Yamaha
สรุปสิ่งที่น่าสนใจ XFORCE
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร MIVEC DOHC ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า
- ระบบส่งกำลังแบบ 2-Speed Transaxle รองรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์
- อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 24.4 กิโลเมตรต่อลิตร
- รองรับโหมดขับขี่ 7 รูปแบบ ได้แก่ Normal, Wet, Gravel, Tarmac, Mud, EV Priority และ Charge
- โหมด EV Priority สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์
- กระจังหน้า Advanced Dynamic Shield ดีไซน์โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง
- ไฟหน้าและไฟท้าย LED ทรง T-Shape เพิ่มความโดดเด่นและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว Two-Tone เสริมความสปอร์ต
- หลังคาสีดำสำหรับบางสีตัวถัง เพิ่มความพรีเมียม
- ประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบ Hands-Free สะดวกในการใช้งาน
- ดีไซน์ภายในสีทูโทน Mélange-Mocha หรูหราและมีเอกลักษณ์
- หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto
- ระบบเสียงพรีเมียมจาก Yamaha พร้อมลำโพง 8 จุด และโหมดเสียง 4 แบบ
- ไฟ Ambient Light เพิ่มบรรยากาศภายในห้องโดยสาร
- เบาะหนังสังเคราะห์พร้อม Heat Guard ลดความร้อนสะสมจากแสงแดด
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะหลังสามารถปรับเอนได้ 8 ระดับเพื่อความสบาย
- ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone แยกปรับอุณหภูมิ ซ้ายและขวา
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมกล่องเก็บของที่มีฟังก์ชันเก็บความเย็น
- ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย และช่อง USB-A และ USB-C ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- ระบบ Mitsubishi Diamond Sense ที่รวมเทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูง
- ระบบเตือนและช่วยเบรกอัตโนมัติ Forward Collision Mitigation
- ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control พร้อมฟังก์ชันหยุดนิ่ง
- ระบบเตือนจุดอับสายตาและช่วยเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน Blind Spot Warning with Lane Change Assist
- ระบบกล้องมองภาพรอบคัน Multi Around View Monitor พร้อมระบบตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่
- ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนที่จากด้านหลัง Rear Cross Traffic Alert
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist
- ระบบควบคุมเสถียรภาพ Active Stability Control และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control System
- ถุงลมนิรภัย 6 จุด พร้อมโครงสร้างตัวถังที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก
- ระบบตรวจสอบแรงดันลมยางและเซนเซอร์กะระยะรอบคันเพื่อความปลอดภัย
เบนซินไฮบริด 1.6 ลิตร
- เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 4A92 ขนาด 1.6 ลิตร 1,590 ซีซี. MIVEC
- กำลังสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 5,100 รอบ/นาที
- แรงบิดสูงสุด 134 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า
- กำลังสูงสุด 116 แรงม้า 255 นิวตันเมตร Full Hybrid
- แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 1.1 kWh
- เกียร์อัตโนมัติ Transaxale ขับเคลื่อนล้อหน้า
- รองรับน้ำมันสูงสุด E20
- ประหยัด 24.4 กม./ลิตร
มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ
- Normal Mode – โหมดมาตรฐาน ขับขี่ได้ดีในทุกสภาพถนน
- Wet Mode – สำหรับถนนเปียก ช่วยลดการลื่นไถล
- Gravel Mode – สำหรับถนนลูกรัง เพิ่มการยึดเกาะถนน
- Tarmac Mode – สำหรับถนนลาดยาง ปรับการควบคุมเพื่อการขับขี่ที่มั่นคง
- Mud Mode – สำหรับถนนโคลน ช่วยเพิ่มแรงบิดให้ล้อเพื่อออกจากโคลน
- EV Priority Mode – โหมดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100%
- Charge Mode – โหมดชาร์จพลังงานกลับเข้าแบตเตอรี่ไฮบริด
ช่วงล่าง
- ด้านหน้า: ใช้ระบบ MacPherson Strut พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
- ด้านหลัง: ใช้ระบบ Torsion Beam ที่ช่วยในการรองรับน้ำหนักและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
- มาพร้อมกับระบบ Active Yaw Control (AYC) ที่ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง เพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจในการขับขี่
- ติดตั้งดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ พร้อมครีบระบายความร้อนที่ล้อคู่หน้า
การออกแบบภายนอก
- ADVANCED DYNAMIC SHIELD – กระจังหน้าแบบใหม่ที่ให้ความแข็งแกร่งและโฉบเฉี่ยว
- ไฟหน้า LED – ระบบไฟหน้าแบบ LED พร้อม ไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED
- ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED – ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในสภาพอากาศเลวร้าย
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว – ดีไซน์สปอร์ตแบบ Two-Tone
- หลังคาสีดำ (Black Roof) ในบางสีตัวถัง
- คิ้วกันสาดข้าง (Side Window Deflector) – เพิ่มความโดดเด่นให้กับดีไซน์
- ไฟท้ายแบบ LED สี Smoked – รูปทรงโฉบเฉี่ยว เสริมความสปอร์ต
- สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- ประตูท้ายไฟฟ้า พร้อมระบบ Hands-Free – เปิด-ปิดประตูท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin Antenna) – เสริมความหรูหรา
- ดีไซน์หลังคาที่ลดแรงต้านอากาศ – ช่วยให้การขับขี่เงียบขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน
สีตัวถังของ Mitsubishi Xforce HEV
รุ่นนี้มีสีให้เลือกแบบ Two-Tone และ Monotone ได้แก่:
- สีขาว White Diamond (หลังคาดำ)
- สีเงิน Blade Silver
- สีเทา Graphite Gray
- สีดำ Jet Black Mica
- สีเหลือง Energetic Yellow (หลังคาดำ)
- สีแดง Spirit Red (หลังคาดำ)
การออกแบบภายในห้อโดยสาร
- คอนเซปต์ “Silky & Solid” – การออกแบบภายในที่ผสมผสานความเรียบหรูและความแข็งแกร่ง
- สีภายใน Mélange-Mocha – โทนสีทูโทนที่ดูพรีเมียมและไม่เหมือนใคร
- ตกแต่งด้วยวัสดุพิเศษ (Special Fabric Decoration) – กันน้ำและคราบสกปรก
- เบาะหนังสังเคราะห์พร้อม Heat Guard – ช่วยลดความร้อนจากแสงแดด
- พนักพิงเบาะหลังปรับเอนได้ 8 ระดับ – รองรับสรีระให้ความสบายในทุกการเดินทาง
- พื้นที่โดยสารกว้างขวาง – พื้นที่เหนือศีรษะและที่วางขากว้างขวางขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
ความสะดวกสบายภายในรถ
- เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง – ให้ตำแหน่งการขับขี่ที่เหมาะสม
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone – ปรับอุณหภูมิแยกอิสระ ซ้าย-ขวา
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง – ช่วยกระจายความเย็นทั่วห้องโดยสาร
- กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ (Auto Dimming Rearview Mirror)
- กล่องเก็บของพร้อมฟังก์ชันเก็บความเย็น (Drink Cooler)
- ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย (Wireless Charger)
- USB-A และ USB-C ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง – รองรับการใช้งานหลายอุปกรณ์
ระบบบันเทิงและการเชื่อมต่อ
- หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว (Smartphone-Link Display Audio – SDA)
- รองรับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto
- สามารถปรับแต่ง Wallpaper และรูปแบบอินเทอร์เฟซได้
- จอแสดงผลแบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว – แสดงข้อมูลการขับขี่และมัลติมีเดีย
- ระบบเสียง Dynamic Sound โดย Yamaha (ครั้งแรกของ Mitsubishi)
- ลำโพง 8 จุด ที่ออกแบบโดย Yamaha Sound Meisters
- รองรับ 4 โหมดเสียง ได้แก่ Signature, Lively, Powerful และ Relaxing
- ให้เสียงที่คมชัดและมิติสมจริงเหมือนอยู่ในคอนเสิร์ต
- ไฟ Ambient Light – เพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสารที่หรูหราและทันสมัย
พื้นที่เก็บของและความอเนกประสงค์
- พนักพิงเบาะหลังพับแบบ 40:20:40 – เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้หลากหลาย
- ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าพร้อม Hands-Free – เปิดประตูท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ
- ช่องเก็บของอเนกประสงค์รอบคัน – มีที่เก็บสัมภาระใต้พื้นที่เก็บของท้ายรถ
- ที่พักแขนบริเวณแถวที่สอง พร้อมที่วางแก้วและที่เสียบสมาร์ทโฟน
ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active Safety)
1.1 ระบบช่วยเตือนและป้องกันการชน
- Forward Collision Mitigation System (FCM) – ระบบเตือนการชนด้านหน้า พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ
- Rear Cross Traffic Alert (RCTA) – ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนที่จากด้านหลังขณะถอยรถ
- Blind Spot Warning with Lane Change Assist (BSW with LCA) – ระบบเตือนจุดอับสายตาและช่วยเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน
- Leading Car Departure Notification (LCDN) – ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถคันหน้าเริ่มเคลื่อนตัว (เหมาะสำหรับการจอดติดไฟแดง)
1.2 ระบบควบคุมและช่วยขับขี่
- Adaptive Cruise Control (ACC) – ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ สามารถชะลอจนหยุดนิ่งและเร่งความเร็วใหม่ได้เอง
- Auto High Beam (AHB) – ระบบไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ ปรับไฟให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
- Multi Around View Monitor (MAM) with Moving Object Detection (MOD)
- กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา พร้อมเส้นกะระยะและระบบตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่รอบตัวรถ
ระบบช่วยควบคุมรถและทรงตัว (Handling & Stability)
- Active Yaw Control (AYC) – ระบบควบคุมแรงบิดระหว่างล้อในขณะเข้าโค้ง เพิ่มความเสถียรในการขับขี่
- Active Stability Control (ASC) – ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ลดความเสี่ยงในการเสียการควบคุมบนถนนลื่น
- Traction Control System (TCL) – ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ลดโอกาสลื่นไถลบนพื้นถนนลื่น
- Hill Start Assist (HSA) – ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ป้องกันไม่ให้รถไหลถอยหลัง
- Anti-lock Braking System (ABS) และ Electronic Brake-force Distribution (EBD)
- ช่วยกระจายแรงเบรกให้สมดุล ลดความเสี่ยงของการลื่นไถล
- Brake Assist (BA) – ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรกเมื่อมีการเบรกกะทันหัน
ระบบความปลอดภัยเชิงรับ (Passive Safety)
- โครงสร้างตัวถัง RISE Body – ออกแบบให้ดูดซับแรงกระแทก ลดการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
- 6 Airbags – ถุงลมนิรภัย 6 จุด (ด้านหน้า, ด้านข้าง, และม่านถุงลม)
- Seatbelt with Pretensioner and Force Limiter – เข็มขัดนิรภัยพร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ
- ระบบล็อกป้องกันเด็กเปิดประตู (Child Protection Rear Door Lock)
- ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System – TPMS)
- แสดงแรงดันลมยางของทั้ง 4 ล้อแบบเรียลไทม์
- Front & Rear Parking Sensor – เซนเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลังช่วยให้การจอดปลอดภัยยิ่งขึ้น
ขนาดตัวถัง MTSUBISHI Xforce
- ยาว 4,390 มม.
- กว้าง 1,810 มม.
- สูง 1,660 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,650 มม.
- ระยะห่างจากพื้นระดับสูงสุดที่ 183 มม.
ขนาดตัวถัง
- Honda HR-V (ยาว 4,385 มม. กว้าง 1,790 มม. สูง 1,590 มม. ฐานล้อ 2,610 มม.)
- Toyota Corolla Cross (ยาว 4,460 มม. กว้าง 1,825 มม. สูง 1,620 มม. ฐานล้อ 2,640 มม.)
- Mazda CX-30 (ยาว 4,395 มม. กว้าง 1,795 มม. สูง 1,540 มม. ฐานล้อ 2,655 มม.)
- MG VS HEV (ยาว 4,325 มม. กว้าง 1,809 มม. สูง 1,653 มม. ฐานล้อ 2,585 มม.)
- Nissan Kicks e-Power ยาว 4,290 มม. กว้าง 1,760 มม. สูง 1,615 มม. ฐานล้อ 2,620 มม. ระยะห่างจากพื้น 175 มม.
- Hyundai Creta ยาว 4,315 มม. กว้าง 1,790 มม. สูง 1,630 มม. ฐานล้อ 2,610 มม. ระยะห่างจากพื้น 200 มม.
- Chery Omoda 5 ยาว 4,400 มม. กว้าง 1,830 มม. สูง 1,588 มม. ฐานล้อ 2,630 มม. ระยะห่างจากพื้นประมาณ 190 มม.
- Haval Jolion ยาว 4,472 มม. กว้าง 1,841 มม. สูง 1,617 มม. ฐานล้อ 2,700 มม. ระยะห่างจากพื้นประมาณ 190 มม.
- BYD Yuan Plus (Atto 3) ยาว 4,455 มม. กว้าง 1,875 มม. สูง 1,615 มม. ฐานล้อ 2,720 มม. ระยะห่างจากพื้น 175 มม.
Ignite
รายละเอียดออปชั่น Mitsubishi XForce HEV IGNITE (899,000 บาท)
เครื่องยนต์และช่วงล่าง
✅ เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร Hybrid (116 แรงม้า / 255 นิวตันเมตร)
✅ เกียร์อัตโนมัติ
✅ ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD)
✅ ระบบกันสะเทือนหน้า: อิสระ MacPherson Strut
✅ ระบบกันสะเทือนหลัง: คานบิด Torsion Beam
ภายนอก
✅ ไฟหน้าแบบ Full-LED
✅ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบ Full-LED
✅ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
✅ ไฟหรี่ไฟท้ายแบบ LED Illumination Tube
✅ สปอยเลอร์หลัง
✅ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
✅ กระจกบังลมหน้าป้องกันเสียงรบกวน
✅ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
✅ เสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin)
✅ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
✅ ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหลัง
✅ ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
✅ ยางขนาด 225/50R18
️ ภายในห้องโดยสาร
✅ ภายในตกแต่งโทนสีดำ
✅ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังกันความร้อน Heat Guard
✅ เบาะนั่งคนขับปรับมือ 6 ทิศทาง
✅ เบาะนั่งด้านหลัง ปรับเอนได้ 8 ระดับ
✅ เบาะนั่งด้านหลังพับได้ 40:20:40
✅ กระจกหน้าต่างไฟฟ้า One-Touch ทั้ง 4 บาน
✅ ระบบป้องกันการหนีบ Protection Jam ทั้ง 4 บาน
✅ ระบบเซ็นทรัลล็อก
✅ ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วที่กำหนด
✅ กุญแจ Keyless Smart Entry
✅ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
✅ พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง, เข้า-ออก)
เทคโนโลยีและความบันเทิง
✅ หน้าจอเรือนไมล์แบบ Digital ขนาด 8 นิ้ว
✅ หน้าจอสัมผัสกลางระบบ Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว
✅ ระบบแสดงข้อมูลตัวรถบนหน้าจอกลาง (Adventurous)
✅ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
✅ รองรับ Android Auto และ WebLink
✅ ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และ USB
✅ ลำโพง 6 ตำแหน่ง
️ ระบบปรับอากาศ
✅ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual-zone
✅ ระบบกรองอากาศ Nanoe X
✅ เครื่องปรับอากาศพร้อมจอแสดงผลแบบ Digital
✅ สวิตซ์ควบคุมแอร์แบบ Piano-type
ระบบเบรกและความปลอดภัย
✅ เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
✅ ระบบ Auto Brake Hold
✅ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านนิรภัย)
✅ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
✅ ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
✅ ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
✅ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC)
✅ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถล (TCL)
✅ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)
✅ ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS)
✅ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking)
✅ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control – ACC)
✅ ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam – AHB)
✅ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification – LCDN)
✅ ระบบเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW) พร้อมฟังก์ชันช่วยเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist – LCA)
✅ ระบบเตือนรถขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)
สรุปจุดเด่น Mitsubishi XForce HEV IGNITE (899,000 บาท)
✅ ราคาคุ้มค่า สำหรับรถ Hybrid ในระดับ B-SUV
✅ ระบบความปลอดภัยครบครัน มี AEB, ACC, BSW, RCTA ฯลฯ
✅ ดีไซน์ภายนอกดูพรีเมียม พร้อมไฟหน้า-ไฟท้าย Full-LED
✅ ภายในครบครัน หน้าจอสัมผัส 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay ไร้สาย
✅ ระบบปรับอากาศ Nanoe X ช่วยฟอกอากาศ
Ultimate
รายละเอียดออปชั่น Mitsubishi XForce HEV ULTIMATE (1,039,000 บาท)
(เพิ่มขึ้นจากรุ่น IGNITE +140,000 บาท)
เครื่องยนต์และช่วงล่าง
✅ เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร Hybrid (116 แรงม้า / 255 นิวตันเมตร)
✅ เกียร์อัตโนมัติ
✅ ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD)
✅ ระบบกันสะเทือนหน้า: อิสระ MacPherson Strut
✅ ระบบกันสะเทือนหลัง: คานบิด Torsion Beam
ภายนอก
✅ ไฟหน้าแบบ Full-LED
✅ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบ Full-LED
✅ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
✅ ไฟท้าย LED Illumination Tube
✅ สปอยเลอร์หลัง
✅ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
✅ กระจกบังลมหน้าป้องกันเสียงรบกวน
✅ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
✅ เสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin)
✅ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
✅ ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหลัง
✅ ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
✅ ยางขนาด 225/50R18
✅ ชุดตกแต่งกระจังหน้า (เพิ่มจาก IGNITE)
✅ ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED (เพิ่มจาก IGNITE)
✅ ฝาท้ายไฟฟ้า Power Tailgate พร้อม Kick Sensor (เพิ่มจาก IGNITE)
️ ภายในห้องโดยสาร
✅ ภายในตกแต่งสีทูโทน Melange-Mocha (เปลี่ยนจากสีดำในรุ่น IGNITE)
✅ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังกันความร้อน Heat Guard
✅ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (เพิ่มจาก IGNITE)
✅ เบาะนั่งด้านหลัง ปรับเอนได้ 8 ระดับ
✅ เบาะนั่งด้านหลังพับได้ 40:20:40
✅ กระจกหน้าต่างไฟฟ้า One-Touch ทั้ง 4 บาน
✅ ระบบป้องกันการหนีบ Protection Jam ทั้ง 4 บาน
✅ ระบบเซ็นทรัลล็อก
✅ ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วที่กำหนด
✅ กุญแจ Keyless Smart Entry
✅ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
✅ พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง, เข้า-ออก)
เทคโนโลยีและความบันเทิง
✅ หน้าจอเรือนไมล์แบบ Digital ขนาด 8 นิ้ว
✅ หน้าจอสัมผัสกลางระบบ Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว
✅ ระบบแสดงข้อมูลตัวรถบนหน้าจอกลาง (Adventurous)
✅ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
✅ รองรับ Android Auto และ WebLink
✅ ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และ USB
✅ ลำโพง 6 ตำแหน่ง
✅ กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา (เพิ่มจาก IGNITE)
✅ ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน MOD (เพิ่มจาก IGNITE)
✅ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ (เพิ่มจาก IGNITE)
✅ แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charging (เพิ่มจาก IGNITE)
️ ระบบปรับอากาศ
✅ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual-zone
✅ ระบบกรองอากาศ Nanoe X
✅ เครื่องปรับอากาศพร้อมจอแสดงผลแบบ Digital
✅ สวิตซ์ควบคุมแอร์แบบ Piano-type
ระบบเบรกและความปลอดภัย
✅ เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
✅ ระบบ Auto Brake Hold
✅ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านนิรภัย)
✅ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
✅ ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
✅ ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
✅ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC)
✅ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถล (TCL)
✅ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)
✅ ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS)
✅ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking)
✅ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control – ACC)
✅ ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam – AHB)
✅ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification – LCDN)
✅ ระบบเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW) พร้อมฟังก์ชันช่วยเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist – LCA)
✅ ระบบเตือนรถขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)
✅ เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 ตำแหน่ง (เพิ่มจาก IGNITE)
✅ เซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 ตำแหน่ง (เพิ่มจาก IGNITE)
✅ ระบบตรวจสอบความผิดปกติแรงดันลมยาง TPMS (เพิ่มจาก IGNITE)
ระบบอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม
✅ แผงกั้นห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง (เพิ่มจาก IGNITE)
สรุปจุดเด่น Mitsubishi XForce HEV ULTIMATE (1,039,000 บาท)
✅ อัปเกรดจากรุ่น IGNITE ด้วยฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้น +140,000 บาท
✅ เพิ่มความหรูหรา ด้วยภายในสีทูโทน Melange-Mocha
✅ เพิ่มความสะดวกสบาย เช่น เบาะคนขับปรับไฟฟ้า, ฝาท้ายไฟฟ้า
✅ เทคโนโลยีล้ำขึ้น กล้องรอบคัน 360°, Wireless Charger, กระจกมองหลังตัดแสง
✅ ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม เซ็นเซอร์รอบคัน, TPMS ตรวจสอบแรงดันลมยาง
Ultimate X
รายละเอียดออปชั่น Mitsubishi XForce HEV ULTIMATE X (1,089,000 บาท)
(เพิ่มขึ้นจากรุ่น ULTIMATE +50,000 บาท)
เครื่องยนต์และช่วงล่าง
✅ เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร Hybrid (116 แรงม้า / 255 นิวตันเมตร)
✅ เกียร์อัตโนมัติ
✅ ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD)
✅ ระบบกันสะเทือนหน้า: อิสระ MacPherson Strut
✅ ระบบกันสะเทือนหลัง: คานบิด Torsion Beam
ภายนอก
✅ ไฟหน้าแบบ Full-LED
✅ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบ Full-LED
✅ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
✅ ไฟท้าย LED Illumination Tube
✅ สปอยเลอร์หลัง
✅ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
✅ กระจกบังลมหน้าป้องกันเสียงรบกวน
✅ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
✅ เสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin)
✅ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
✅ ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหลัง
✅ ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
✅ ยางขนาด 225/50R18
✅ ชุดตกแต่งกระจังหน้า (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
✅ ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
✅ ฝาท้ายไฟฟ้า Power Tailgate พร้อม Kick Sensor (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
✅ ชุดแต่งภายนอกพิเศษสำหรับรุ่น Ultimate X
✅ ชุดตกแต่งกันชนหน้า-ข้าง-หลังเฉพาะรุ่น Ultimate X
✅ ชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง
✅ สัญลักษณ์ XFORCE บนฝากระโปรงหน้า
️ ภายในห้องโดยสาร
✅ ภายในตกแต่งสีทูโทน Melange-Mocha (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
✅ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังกันความร้อน Heat Guard
✅ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
✅ เบาะนั่งด้านหลัง ปรับเอนได้ 8 ระดับ
✅ เบาะนั่งด้านหลังพับได้ 40:20:40
✅ กระจกหน้าต่างไฟฟ้า One-Touch ทั้ง 4 บาน
✅ ระบบป้องกันการหนีบ Protection Jam ทั้ง 4 บาน
✅ ระบบเซ็นทรัลล็อก
✅ ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วที่กำหนด
✅ กุญแจ Keyless Smart Entry
✅ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
✅ พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง, เข้า-ออก)
✅ ฝาครอบบันไดสเตนเลส พร้อมไฟ LED (เพิ่มจากรุ่น ULTIMATE)
เทคโนโลยีและความบันเทิง
✅ หน้าจอเรือนไมล์แบบ Digital ขนาด 8 นิ้ว
✅ หน้าจอสัมผัสกลางระบบ Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว
✅ ระบบแสดงข้อมูลตัวรถบนหน้าจอกลาง (Adventurous)
✅ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
✅ รองรับ Android Auto และ WebLink
✅ ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และ USB
✅ ลำโพง Dynamic Sound Yamaha Premium 8 ตำแหน่ง (เพิ่มจากรุ่น ULTIMATE)
✅ กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
✅ ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน MOD (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
✅ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
✅ แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charging (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
️ ระบบปรับอากาศ
✅ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual-zone
✅ ระบบกรองอากาศ Nanoe X
✅ เครื่องปรับอากาศพร้อมจอแสดงผลแบบ Digital
✅ สวิตซ์ควบคุมแอร์แบบ Piano-type
ระบบเบรกและความปลอดภัย
✅ เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
✅ ระบบ Auto Brake Hold
✅ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านนิรภัย)
✅ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
✅ ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
✅ ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
✅ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC)
✅ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถล (TCL)
✅ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)
✅ ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS)
✅ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking)
✅ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control – ACC)
✅ ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam – AHB)
✅ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification – LCDN)
✅ ระบบเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW) พร้อมฟังก์ชันช่วยเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist – LCA)
✅ ระบบเตือนรถขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)
✅ เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 ตำแหน่ง (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
✅ เซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 ตำแหน่ง (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
✅ ระบบตรวจสอบความผิดปกติแรงดันลมยาง TPMS (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
ระบบอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม
✅ แผงกั้นห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
สรุปจุดเด่น Mitsubishi XForce HEV ULTIMATE X (1,089,000 บาท)
✅ รุ่นพิเศษที่ตกแต่งภายนอกให้แตกต่างจาก ULTIMATE
✅ ได้อุปกรณ์ทั้งหมดจากรุ่น ULTIMATE + ชุดแต่งสปอร์ต XFORCE
✅ เพิ่มลำโพงพรีเมียม Dynamic Sound Yamaha 8 ตำแหน่ง
✅ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความพรีเมียม + ดีไซน์ที่โดดเด่นกว่าใคร
ภาพอื่นๆ