3 รุ่นต่างกันยังไง ? เปิดขายไทย 899,000 – 1,089,000 บาท Mitsubishi Xforce HEV ประหยัด 24.4 กม./ลิตร

3 รุ่นต่างกันยังไง ? เปิดขายไทย 899,000 – 1,089,000 บาท Mitsubishi Xforce HEV ประหยัด 24.4 กม./ลิตร
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

 

 

 

ราคาจำหน่าย MITSUBISHI XFORCE HYBRID ในประเทศไทย

  • IGNITE : 899,000 บาท
  • Ultimate : 1,039,000 บาท
  • Ultimate X : 1,089,000 บาท

พร้อมรับประกันคุณภาพ

  • รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 100,000 km.
  • รับประกันระบบไฮบริด นาน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด นาน 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

รายละเอียดอุปกรณ์ที่มี และไม่มีในแต่ละรุ่น

อุปกรณ์ IGNITE ULTIMATE ULTIMATE X
เครื่องยนต์ & ช่วงล่าง
เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร HEV
ช่วงล่างหน้า: อิสระ MacPherson Strut
ช่วงล่างหลัง: คานบิด Torsion Beam
ภายนอก
ไฟหน้า Full-LED
ไฟส่องสว่างกลางวัน Full-LED
ระบบเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
ไฟท้าย LED Illumination Tube
สปอยเลอร์หลัง
ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
กระจกบังลมหน้าแบบป้องกันเสียงรบกวน
กระจกมองข้างพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว
เสาอากาศแบบ Shark Fin
ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหลัง
ล้ออัลลอย 18 นิ้ว + ยาง 225/50R18
ภายในห้องโดยสาร
ภายในตกแต่งโทนสีดำ สี Melange-Mocha สี Melange-Mocha
เบาะหนังกันความร้อน Heat Guard
เบาะนั่งคนขับปรับมือ 6 ทิศทาง ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
เบาะหลังปรับเอนได้ 8 ระดับ
เบาะหลังพับได้ 40:20:40
กระจกหน้าต่างไฟฟ้า One-Touch ทั้ง 4 บาน
ระบบป้องกันการหนีบ Protection Jam
เทคโนโลยี/ความบันเทิง
พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
หน้าจอเรือนไมล์ Digital 8 นิ้ว
หน้าจอสัมผัสกลาง 12.3 นิ้ว
รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย
รองรับ Android Auto และ WebLink
ลำโพง 6 ตำแหน่ง  Yamaha 8 ตำแหน่ง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual-zone
ระบบกรองอากาศ Nanoe X
เครื่องปรับอากาศจอ Digital
เบรกมือไฟฟ้า EPB + Brake Auto Hold
คอนโซลกลางมีช่องเป่าลมเย็น Drink Cooler
ช่องชาร์จ USB Type-A 1 + USB Type-C 1
ระบบความปลอดภัย
ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง คู่หน้า, ข้าง, ม่าน
ระบบเบรก ABS / EBD / BA
ระบบควบคุมเสถียรภาพ ASC + TCL
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
ระบบไฟฉุกเฉินเบรกกะทันหัน ESS
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
Adaptive Cruise Control (ACC)
ระบบไฟสูงอัตโนมัติ AHB
ระบบเตือนรถคันหน้าเคลื่อนที่ LCDN
ระบบเตือนมุมอับสายตา + BSW
ระบบเตือนรถขณะถอยหลัง RCTA
อุปกรณ์เพิ่มเติมในรุ่น ULTIMATE
ชุดตกแต่งกระจังหน้า
ไฟตัดหมอกหน้า LED
ฝาท้ายไฟฟ้า + Kick Sensor
เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด / หลัง 4 จุด
กล้อง 360 องศา + จับเคลื่อนไหว MOD
กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
แท่นชาร์จไร้สาย Wireless
แผงกั้นห้องสัมภาระท้าย
ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง TPMS
อุปกรณ์เพิ่มเติมในรุ่น ULTIMATE X
ชุดแต่งกันชนหน้า-ข้าง-หลังเฉพาะรุ่น X
ชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง
สัญลักษณ์ XFORCE บนฝากระโปรงหน้า
ฝาครอบบันไดสเตนเลสพร้อมไฟ LED
ลำโพง Yamaha (8 ตำแหน่ง)

สรุป

  • IGNITE ✅ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการราคาประหยัด + ฟีเจอร์พื้นฐานครบ
  • ULTIMATE คุ้มค่าที่สุด เพิ่มฟีเจอร์พรีเมียม เช่น ฝาท้ายไฟฟ้า, กล้อง 360°, เบาะไฟฟ้า
  • ULTIMATE X สำหรับคนที่ต้องการดีไซน์สุดเท่ + ระบบเสียง Yamaha

สรุปสิ่งที่น่าสนใจ XFORCE

  • เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร MIVEC DOHC ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า
  • ระบบส่งกำลังแบบ 2-Speed Transaxle รองรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์
  • อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 24.4 กิโลเมตรต่อลิตร
  • รองรับโหมดขับขี่ 7 รูปแบบ ได้แก่ Normal, Wet, Gravel, Tarmac, Mud, EV Priority และ Charge
  • โหมด EV Priority สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์
  • กระจังหน้า Advanced Dynamic Shield ดีไซน์โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง
  • ไฟหน้าและไฟท้าย LED ทรง T-Shape เพิ่มความโดดเด่นและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว Two-Tone เสริมความสปอร์ต
  • หลังคาสีดำสำหรับบางสีตัวถัง เพิ่มความพรีเมียม
  • ประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบ Hands-Free สะดวกในการใช้งาน
  • ดีไซน์ภายในสีทูโทน Mélange-Mocha หรูหราและมีเอกลักษณ์
  • หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto
  • ระบบเสียงพรีเมียมจาก Yamaha พร้อมลำโพง 8 จุด และโหมดเสียง 4 แบบ
  • ไฟ Ambient Light เพิ่มบรรยากาศภายในห้องโดยสาร
  • เบาะหนังสังเคราะห์พร้อม Heat Guard ลดความร้อนสะสมจากแสงแดด
  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • เบาะหลังสามารถปรับเอนได้ 8 ระดับเพื่อความสบาย
  • ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone แยกปรับอุณหภูมิ ซ้ายและขวา
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมกล่องเก็บของที่มีฟังก์ชันเก็บความเย็น
  • ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย และช่อง USB-A และ USB-C ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
  • ระบบ Mitsubishi Diamond Sense ที่รวมเทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูง
  • ระบบเตือนและช่วยเบรกอัตโนมัติ Forward Collision Mitigation
  • ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control พร้อมฟังก์ชันหยุดนิ่ง
  • ระบบเตือนจุดอับสายตาและช่วยเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน Blind Spot Warning with Lane Change Assist
  • ระบบกล้องมองภาพรอบคัน Multi Around View Monitor พร้อมระบบตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนที่จากด้านหลัง Rear Cross Traffic Alert
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพ Active Stability Control และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control System
  • ถุงลมนิรภัย 6 จุด พร้อมโครงสร้างตัวถังที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก
  • ระบบตรวจสอบแรงดันลมยางและเซนเซอร์กะระยะรอบคันเพื่อความปลอดภัย

เบนซินไฮบริด 1.6 ลิตร

  • เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 4A92 ขนาด 1.6 ลิตร 1,590 ซีซี. MIVEC
  • กำลังสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 5,100 รอบ/นาที
  • แรงบิดสูงสุด 134 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า
  • กำลังสูงสุด 116 แรงม้า 255 นิวตันเมตร Full Hybrid
  • แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 1.1 kWh
  • เกียร์อัตโนมัติ Transaxale ขับเคลื่อนล้อหน้า
  • รองรับน้ำมันสูงสุด E20
  • ประหยัด 24.4 กม./ลิตร

มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ

  • Normal Mode – โหมดมาตรฐาน ขับขี่ได้ดีในทุกสภาพถนน
  • Wet Mode – สำหรับถนนเปียก ช่วยลดการลื่นไถล
  • Gravel Mode – สำหรับถนนลูกรัง เพิ่มการยึดเกาะถนน
  • Tarmac Mode – สำหรับถนนลาดยาง ปรับการควบคุมเพื่อการขับขี่ที่มั่นคง
  • Mud Mode – สำหรับถนนโคลน ช่วยเพิ่มแรงบิดให้ล้อเพื่อออกจากโคลน
  • EV Priority Mode – โหมดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100%
  • Charge Mode – โหมดชาร์จพลังงานกลับเข้าแบตเตอรี่ไฮบริด

ช่วงล่าง

  • ด้านหน้า: ใช้ระบบ MacPherson Strut พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
  • ด้านหลัง: ใช้ระบบ Torsion Beam ที่ช่วยในการรองรับน้ำหนักและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
  • มาพร้อมกับระบบ Active Yaw Control (AYC) ที่ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง เพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจในการขับขี่
  • ติดตั้งดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ พร้อมครีบระบายความร้อนที่ล้อคู่หน้า

การออกแบบภายนอก

  • ADVANCED DYNAMIC SHIELD – กระจังหน้าแบบใหม่ที่ให้ความแข็งแกร่งและโฉบเฉี่ยว
  • ไฟหน้า LED – ระบบไฟหน้าแบบ LED พร้อม ไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED
  • ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED – ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในสภาพอากาศเลวร้าย
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว – ดีไซน์สปอร์ตแบบ Two-Tone
  • หลังคาสีดำ (Black Roof) ในบางสีตัวถัง
  • คิ้วกันสาดข้าง (Side Window Deflector) – เพิ่มความโดดเด่นให้กับดีไซน์
  • ไฟท้ายแบบ LED สี Smoked – รูปทรงโฉบเฉี่ยว เสริมความสปอร์ต
  • สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
  • ประตูท้ายไฟฟ้า พร้อมระบบ Hands-Free – เปิด-ปิดประตูท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ
  • เสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin Antenna) – เสริมความหรูหรา
  • ดีไซน์หลังคาที่ลดแรงต้านอากาศ – ช่วยให้การขับขี่เงียบขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน

สีตัวถังของ Mitsubishi Xforce HEV

รุ่นนี้มีสีให้เลือกแบบ Two-Tone และ Monotone ได้แก่:

  • สีขาว White Diamond (หลังคาดำ)
  • สีเงิน Blade Silver
  • สีเทา Graphite Gray
  • สีดำ Jet Black Mica
  • สีเหลือง Energetic Yellow (หลังคาดำ)
  • สีแดง Spirit Red (หลังคาดำ)

การออกแบบภายในห้อโดยสาร

  • คอนเซปต์ “Silky & Solid” – การออกแบบภายในที่ผสมผสานความเรียบหรูและความแข็งแกร่ง
  • สีภายใน Mélange-Mocha – โทนสีทูโทนที่ดูพรีเมียมและไม่เหมือนใคร
  • ตกแต่งด้วยวัสดุพิเศษ (Special Fabric Decoration) – กันน้ำและคราบสกปรก
  • เบาะหนังสังเคราะห์พร้อม Heat Guard – ช่วยลดความร้อนจากแสงแดด
  • พนักพิงเบาะหลังปรับเอนได้ 8 ระดับ – รองรับสรีระให้ความสบายในทุกการเดินทาง
  • พื้นที่โดยสารกว้างขวาง – พื้นที่เหนือศีรษะและที่วางขากว้างขวางขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

ความสะดวกสบายภายในรถ

  • เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง – ให้ตำแหน่งการขับขี่ที่เหมาะสม
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone – ปรับอุณหภูมิแยกอิสระ ซ้าย-ขวา
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง – ช่วยกระจายความเย็นทั่วห้องโดยสาร
  • กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ (Auto Dimming Rearview Mirror)
  • กล่องเก็บของพร้อมฟังก์ชันเก็บความเย็น (Drink Cooler)
  • ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย (Wireless Charger)
  • USB-A และ USB-C ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง – รองรับการใช้งานหลายอุปกรณ์

ระบบบันเทิงและการเชื่อมต่อ

  • หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว (Smartphone-Link Display Audio – SDA)
    • รองรับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto
    • สามารถปรับแต่ง Wallpaper และรูปแบบอินเทอร์เฟซได้
  • จอแสดงผลแบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว – แสดงข้อมูลการขับขี่และมัลติมีเดีย
  • ระบบเสียง Dynamic Sound โดย Yamaha (ครั้งแรกของ Mitsubishi)
    • ลำโพง 8 จุด ที่ออกแบบโดย Yamaha Sound Meisters
    • รองรับ 4 โหมดเสียง ได้แก่ Signature, Lively, Powerful และ Relaxing
    • ให้เสียงที่คมชัดและมิติสมจริงเหมือนอยู่ในคอนเสิร์ต
  • ไฟ Ambient Light – เพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสารที่หรูหราและทันสมัย

พื้นที่เก็บของและความอเนกประสงค์

  • พนักพิงเบาะหลังพับแบบ 40:20:40 – เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้หลากหลาย
  • ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าพร้อม Hands-Free – เปิดประตูท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ
  • ช่องเก็บของอเนกประสงค์รอบคัน – มีที่เก็บสัมภาระใต้พื้นที่เก็บของท้ายรถ
  • ที่พักแขนบริเวณแถวที่สอง พร้อมที่วางแก้วและที่เสียบสมาร์ทโฟน

ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active Safety)

1.1 ระบบช่วยเตือนและป้องกันการชน

  • Forward Collision Mitigation System (FCM) – ระบบเตือนการชนด้านหน้า พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ
  • Rear Cross Traffic Alert (RCTA) – ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนที่จากด้านหลังขณะถอยรถ
  • Blind Spot Warning with Lane Change Assist (BSW with LCA) – ระบบเตือนจุดอับสายตาและช่วยเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน
  • Leading Car Departure Notification (LCDN) – ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถคันหน้าเริ่มเคลื่อนตัว (เหมาะสำหรับการจอดติดไฟแดง)

1.2 ระบบควบคุมและช่วยขับขี่

  • Adaptive Cruise Control (ACC) – ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ สามารถชะลอจนหยุดนิ่งและเร่งความเร็วใหม่ได้เอง
  • Auto High Beam (AHB) – ระบบไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ ปรับไฟให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
  • Multi Around View Monitor (MAM) with Moving Object Detection (MOD)
    • กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา พร้อมเส้นกะระยะและระบบตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่รอบตัวรถ

ระบบช่วยควบคุมรถและทรงตัว (Handling & Stability)

  • Active Yaw Control (AYC) – ระบบควบคุมแรงบิดระหว่างล้อในขณะเข้าโค้ง เพิ่มความเสถียรในการขับขี่
  • Active Stability Control (ASC) – ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ลดความเสี่ยงในการเสียการควบคุมบนถนนลื่น
  • Traction Control System (TCL) – ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ลดโอกาสลื่นไถลบนพื้นถนนลื่น
  • Hill Start Assist (HSA) – ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ป้องกันไม่ให้รถไหลถอยหลัง
  • Anti-lock Braking System (ABS) และ Electronic Brake-force Distribution (EBD)
    • ช่วยกระจายแรงเบรกให้สมดุล ลดความเสี่ยงของการลื่นไถล
  • Brake Assist (BA) – ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรกเมื่อมีการเบรกกะทันหัน

ระบบความปลอดภัยเชิงรับ (Passive Safety)

  • โครงสร้างตัวถัง RISE Body – ออกแบบให้ดูดซับแรงกระแทก ลดการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
  • 6 Airbags – ถุงลมนิรภัย 6 จุด (ด้านหน้า, ด้านข้าง, และม่านถุงลม)
  • Seatbelt with Pretensioner and Force Limiter – เข็มขัดนิรภัยพร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ
  • ระบบล็อกป้องกันเด็กเปิดประตู (Child Protection Rear Door Lock)
  • ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System – TPMS)
    • แสดงแรงดันลมยางของทั้ง 4 ล้อแบบเรียลไทม์
  • Front & Rear Parking Sensor – เซนเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลังช่วยให้การจอดปลอดภัยยิ่งขึ้น

ขนาดตัวถัง MTSUBISHI Xforce

  • ยาว 4,390 มม.
  • กว้าง 1,810 มม.
  • สูง 1,660 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,650 มม.
  • ระยะห่างจากพื้นระดับสูงสุดที่ 183 มม.

ขนาดตัวถัง

  • Honda HR-V (ยาว 4,385 มม. กว้าง 1,790 มม. สูง 1,590 มม. ฐานล้อ 2,610 มม.)
  • Toyota Corolla Cross (ยาว 4,460 มม. กว้าง 1,825 มม. สูง 1,620 มม. ฐานล้อ 2,640 มม.)
  • Mazda CX-30 (ยาว 4,395 มม. กว้าง 1,795 มม. สูง 1,540 มม. ฐานล้อ 2,655 มม.)
  • MG VS HEV (ยาว 4,325 มม. กว้าง 1,809 มม. สูง 1,653 มม. ฐานล้อ 2,585 มม.)
  • Nissan Kicks e-Power ยาว 4,290 มม. กว้าง 1,760 มม. สูง 1,615 มม. ฐานล้อ 2,620 มม. ระยะห่างจากพื้น 175 มม.
  • Hyundai Creta ยาว 4,315 มม. กว้าง 1,790 มม. สูง 1,630 มม. ฐานล้อ 2,610 มม. ระยะห่างจากพื้น 200 มม.
  • Chery Omoda 5 ยาว 4,400 มม. กว้าง 1,830 มม. สูง 1,588 มม. ฐานล้อ 2,630 มม. ระยะห่างจากพื้นประมาณ 190 มม.
  • Haval Jolion ยาว 4,472 มม. กว้าง 1,841 มม. สูง 1,617 มม. ฐานล้อ 2,700 มม. ระยะห่างจากพื้นประมาณ 190 มม.
  • BYD Yuan Plus (Atto 3) ยาว 4,455 มม. กว้าง 1,875 มม. สูง 1,615 มม. ฐานล้อ 2,720 มม. ระยะห่างจากพื้น 175 มม.

Ignite

รายละเอียดออปชั่น Mitsubishi XForce HEV IGNITE (899,000 บาท)

เครื่องยนต์และช่วงล่าง

✅ เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร Hybrid (116 แรงม้า / 255 นิวตันเมตร)
✅ เกียร์อัตโนมัติ
✅ ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD)
✅ ระบบกันสะเทือนหน้า: อิสระ MacPherson Strut
✅ ระบบกันสะเทือนหลัง: คานบิด Torsion Beam


ภายนอก

✅ ไฟหน้าแบบ Full-LED
✅ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบ Full-LED
✅ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
✅ ไฟหรี่ไฟท้ายแบบ LED Illumination Tube
✅ สปอยเลอร์หลัง
✅ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
✅ กระจกบังลมหน้าป้องกันเสียงรบกวน
✅ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
✅ เสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin)
✅ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
✅ ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหลัง
✅ ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
✅ ยางขนาด 225/50R18


️ ภายในห้องโดยสาร

✅ ภายในตกแต่งโทนสีดำ
✅ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังกันความร้อน Heat Guard
✅ เบาะนั่งคนขับปรับมือ 6 ทิศทาง
✅ เบาะนั่งด้านหลัง ปรับเอนได้ 8 ระดับ
✅ เบาะนั่งด้านหลังพับได้ 40:20:40
✅ กระจกหน้าต่างไฟฟ้า One-Touch ทั้ง 4 บาน
✅ ระบบป้องกันการหนีบ Protection Jam ทั้ง 4 บาน
✅ ระบบเซ็นทรัลล็อก
✅ ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วที่กำหนด
✅ กุญแจ Keyless Smart Entry
✅ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
✅ พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง, เข้า-ออก)


เทคโนโลยีและความบันเทิง

✅ หน้าจอเรือนไมล์แบบ Digital ขนาด 8 นิ้ว
✅ หน้าจอสัมผัสกลางระบบ Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว
✅ ระบบแสดงข้อมูลตัวรถบนหน้าจอกลาง (Adventurous)
✅ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
✅ รองรับ Android Auto และ WebLink
✅ ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และ USB
✅ ลำโพง 6 ตำแหน่ง


️ ระบบปรับอากาศ

✅ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual-zone
✅ ระบบกรองอากาศ Nanoe X
✅ เครื่องปรับอากาศพร้อมจอแสดงผลแบบ Digital
✅ สวิตซ์ควบคุมแอร์แบบ Piano-type


ระบบเบรกและความปลอดภัย

✅ เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
✅ ระบบ Auto Brake Hold
✅ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านนิรภัย)
✅ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
✅ ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
✅ ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
✅ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC)
✅ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถล (TCL)
✅ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)
✅ ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS)
✅ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking)
✅ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control – ACC)
✅ ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam – AHB)
✅ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification – LCDN)
✅ ระบบเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW) พร้อมฟังก์ชันช่วยเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist – LCA)
✅ ระบบเตือนรถขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)


สรุปจุดเด่น Mitsubishi XForce HEV IGNITE (899,000 บาท)

ราคาคุ้มค่า สำหรับรถ Hybrid ในระดับ B-SUV
ระบบความปลอดภัยครบครัน มี AEB, ACC, BSW, RCTA ฯลฯ
ดีไซน์ภายนอกดูพรีเมียม พร้อมไฟหน้า-ไฟท้าย Full-LED
ภายในครบครัน หน้าจอสัมผัส 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay ไร้สาย
ระบบปรับอากาศ Nanoe X ช่วยฟอกอากาศ

Ultimate

รายละเอียดออปชั่น Mitsubishi XForce HEV ULTIMATE (1,039,000 บาท)

(เพิ่มขึ้นจากรุ่น IGNITE +140,000 บาท)


เครื่องยนต์และช่วงล่าง

✅ เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร Hybrid (116 แรงม้า / 255 นิวตันเมตร)
✅ เกียร์อัตโนมัติ
✅ ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD)
✅ ระบบกันสะเทือนหน้า: อิสระ MacPherson Strut
✅ ระบบกันสะเทือนหลัง: คานบิด Torsion Beam


ภายนอก

✅ ไฟหน้าแบบ Full-LED
✅ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบ Full-LED
✅ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
✅ ไฟท้าย LED Illumination Tube
✅ สปอยเลอร์หลัง
✅ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
✅ กระจกบังลมหน้าป้องกันเสียงรบกวน
✅ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
✅ เสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin)
✅ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
✅ ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหลัง
✅ ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
✅ ยางขนาด 225/50R18
ชุดตกแต่งกระจังหน้า (เพิ่มจาก IGNITE)
ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED (เพิ่มจาก IGNITE)
ฝาท้ายไฟฟ้า Power Tailgate พร้อม Kick Sensor (เพิ่มจาก IGNITE)


️ ภายในห้องโดยสาร

ภายในตกแต่งสีทูโทน Melange-Mocha (เปลี่ยนจากสีดำในรุ่น IGNITE)
✅ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังกันความร้อน Heat Guard
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (เพิ่มจาก IGNITE)
✅ เบาะนั่งด้านหลัง ปรับเอนได้ 8 ระดับ
✅ เบาะนั่งด้านหลังพับได้ 40:20:40
✅ กระจกหน้าต่างไฟฟ้า One-Touch ทั้ง 4 บาน
✅ ระบบป้องกันการหนีบ Protection Jam ทั้ง 4 บาน
✅ ระบบเซ็นทรัลล็อก
✅ ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วที่กำหนด
✅ กุญแจ Keyless Smart Entry
✅ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
✅ พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง, เข้า-ออก)


เทคโนโลยีและความบันเทิง

✅ หน้าจอเรือนไมล์แบบ Digital ขนาด 8 นิ้ว
✅ หน้าจอสัมผัสกลางระบบ Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว
✅ ระบบแสดงข้อมูลตัวรถบนหน้าจอกลาง (Adventurous)
✅ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
✅ รองรับ Android Auto และ WebLink
✅ ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และ USB
✅ ลำโพง 6 ตำแหน่ง
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา (เพิ่มจาก IGNITE)
ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน MOD (เพิ่มจาก IGNITE)
กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ (เพิ่มจาก IGNITE)
แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charging (เพิ่มจาก IGNITE)


️ ระบบปรับอากาศ

✅ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual-zone
✅ ระบบกรองอากาศ Nanoe X
✅ เครื่องปรับอากาศพร้อมจอแสดงผลแบบ Digital
✅ สวิตซ์ควบคุมแอร์แบบ Piano-type


ระบบเบรกและความปลอดภัย

✅ เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
✅ ระบบ Auto Brake Hold
✅ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านนิรภัย)
✅ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
✅ ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
✅ ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
✅ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC)
✅ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถล (TCL)
✅ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)
✅ ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS)
✅ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking)
✅ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control – ACC)
✅ ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam – AHB)
✅ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification – LCDN)
✅ ระบบเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW) พร้อมฟังก์ชันช่วยเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist – LCA)
✅ ระบบเตือนรถขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)
เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 ตำแหน่ง (เพิ่มจาก IGNITE)
เซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 ตำแหน่ง (เพิ่มจาก IGNITE)
ระบบตรวจสอบความผิดปกติแรงดันลมยาง TPMS (เพิ่มจาก IGNITE)


ระบบอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม

แผงกั้นห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง (เพิ่มจาก IGNITE)


สรุปจุดเด่น Mitsubishi XForce HEV ULTIMATE (1,039,000 บาท)

อัปเกรดจากรุ่น IGNITE ด้วยฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้น +140,000 บาท
เพิ่มความหรูหรา ด้วยภายในสีทูโทน Melange-Mocha
เพิ่มความสะดวกสบาย เช่น เบาะคนขับปรับไฟฟ้า, ฝาท้ายไฟฟ้า
เทคโนโลยีล้ำขึ้น กล้องรอบคัน 360°, Wireless Charger, กระจกมองหลังตัดแสง
ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม เซ็นเซอร์รอบคัน, TPMS ตรวจสอบแรงดันลมยาง

Ultimate X

รายละเอียดออปชั่น Mitsubishi XForce HEV ULTIMATE X (1,089,000 บาท)

(เพิ่มขึ้นจากรุ่น ULTIMATE +50,000 บาท)

เครื่องยนต์และช่วงล่าง

✅ เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร Hybrid (116 แรงม้า / 255 นิวตันเมตร)
✅ เกียร์อัตโนมัติ
✅ ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD)
✅ ระบบกันสะเทือนหน้า: อิสระ MacPherson Strut
✅ ระบบกันสะเทือนหลัง: คานบิด Torsion Beam


ภายนอก

✅ ไฟหน้าแบบ Full-LED
✅ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบ Full-LED
✅ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
✅ ไฟท้าย LED Illumination Tube
✅ สปอยเลอร์หลัง
✅ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
✅ กระจกบังลมหน้าป้องกันเสียงรบกวน
✅ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
✅ เสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin)
✅ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
✅ ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหลัง
✅ ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
✅ ยางขนาด 225/50R18
ชุดตกแต่งกระจังหน้า (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
ฝาท้ายไฟฟ้า Power Tailgate พร้อม Kick Sensor (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
ชุดแต่งภายนอกพิเศษสำหรับรุ่น Ultimate X
ชุดตกแต่งกันชนหน้า-ข้าง-หลังเฉพาะรุ่น Ultimate X
ชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง
สัญลักษณ์ XFORCE บนฝากระโปรงหน้า


️ ภายในห้องโดยสาร

ภายในตกแต่งสีทูโทน Melange-Mocha (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
✅ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังกันความร้อน Heat Guard
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
✅ เบาะนั่งด้านหลัง ปรับเอนได้ 8 ระดับ
✅ เบาะนั่งด้านหลังพับได้ 40:20:40
✅ กระจกหน้าต่างไฟฟ้า One-Touch ทั้ง 4 บาน
✅ ระบบป้องกันการหนีบ Protection Jam ทั้ง 4 บาน
✅ ระบบเซ็นทรัลล็อก
✅ ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วที่กำหนด
✅ กุญแจ Keyless Smart Entry
✅ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
✅ พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง, เข้า-ออก)
ฝาครอบบันไดสเตนเลส พร้อมไฟ LED (เพิ่มจากรุ่น ULTIMATE)


เทคโนโลยีและความบันเทิง

✅ หน้าจอเรือนไมล์แบบ Digital ขนาด 8 นิ้ว
✅ หน้าจอสัมผัสกลางระบบ Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว
✅ ระบบแสดงข้อมูลตัวรถบนหน้าจอกลาง (Adventurous)
✅ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
✅ รองรับ Android Auto และ WebLink
✅ ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และ USB
ลำโพง Dynamic Sound Yamaha Premium 8 ตำแหน่ง (เพิ่มจากรุ่น ULTIMATE)
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน MOD (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charging (เหมือนรุ่น ULTIMATE)


️ ระบบปรับอากาศ

✅ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual-zone
✅ ระบบกรองอากาศ Nanoe X
✅ เครื่องปรับอากาศพร้อมจอแสดงผลแบบ Digital
✅ สวิตซ์ควบคุมแอร์แบบ Piano-type


ระบบเบรกและความปลอดภัย

✅ เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
✅ ระบบ Auto Brake Hold
✅ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านนิรภัย)
✅ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
✅ ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
✅ ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
✅ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC)
✅ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถล (TCL)
✅ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)
✅ ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS)
✅ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking)
✅ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control – ACC)
✅ ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam – AHB)
✅ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification – LCDN)
✅ ระบบเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW) พร้อมฟังก์ชันช่วยเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist – LCA)
✅ ระบบเตือนรถขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)
เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 ตำแหน่ง (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
เซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 ตำแหน่ง (เหมือนรุ่น ULTIMATE)
ระบบตรวจสอบความผิดปกติแรงดันลมยาง TPMS (เหมือนรุ่น ULTIMATE)


ระบบอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม

แผงกั้นห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง (เหมือนรุ่น ULTIMATE)


สรุปจุดเด่น Mitsubishi XForce HEV ULTIMATE X (1,089,000 บาท)

รุ่นพิเศษที่ตกแต่งภายนอกให้แตกต่างจาก ULTIMATE
ได้อุปกรณ์ทั้งหมดจากรุ่น ULTIMATE + ชุดแต่งสปอร์ต XFORCE
เพิ่มลำโพงพรีเมียม Dynamic Sound Yamaha 8 ตำแหน่ง
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความพรีเมียม + ดีไซน์ที่โดดเด่นกว่าใคร

ภาพอื่นๆ

 

 

 

 

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้